หัวข้อ: หลวงตาพวง สุขินทริโย อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม จ.ยโสธร เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 22 กันยายน 2557 15:34:15 .
(http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2014/07/bud10040757p1.jpg&width=360&height=360) หลวงตาพวง สุขินทริโย อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร ชาวยโสธร ล้วนแต่ให้ความเคารพและศรัทธา พระเทพสังวรญาณ หรือหลวงตาพวง สุขินทริโย อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๐ ฝ่ายธรรมยุต มีนามเดิมพวง ลุล่วง เกิดวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๔๗๐ ณ บ้านเลขที่ ๑๒๖ หมู่ ๒ ต.ศรีฐาน อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี เป็นบุตรนายเนียม-นางบัพพา ลุล่วง ประกอบอาชีพ ทำนา เรียนจบชั้น ป.๔ จาก ร.ร.ชุมชนบ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน พออายุ ๑๕ ปี บรรพชาที่วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี มีพระครูพิบูลสมณกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ ครั้นอายุครบ ๒๐ ปี อุปสมบท ณ โบสถ์น้ำวัดป่าบ้านหนองโคก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุมโล) เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ วัดนิโครธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังอุปสมบท เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท ตามลำดับ และสอบได้นักธรรมเอก พ.ศ.๒๔๘๘ ต่อมา ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง ลำดับงานด้านปกครอง พ.ศ.๒๕๐๗ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีฐานใน ต.ศรีฐาน พ.ศ.๒๕๑๑ เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม ต.ในเมือง พ.ศ.๒๕๑๒ เป็นเจ้าคณะตำบลในเมือง พ.ศ.๒๕๑๕ รักษาการเจ้าคณะจังหวัดยโสธร (ธ.) พ.ศ.๒๕๑๖ เป็นเจ้าคณะจังหวัดยโสธร (ธ.) พ.ศ.๒๕๔๑ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะภาค ๑๐ (ธ.) ผลงานพัฒนาด้านการศึกษา พระเทพสังวรญาณ อนุญาตให้แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งทางด้านทิศตะวันออกของวัดศรีธรรมาราม ก่อสร้างอาคารเรียนร.ร.ศรีธรรมวิทยา พร้อมจัดหาทุนก่อสร้างอาคารเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาล-มัธยมศึกษา รวมอาคารเรียนขนาด ๓ ชั้น ๑ หลัง ขนาด ๑ ชั้น จำนวน ๒ หลัง รวม ๓ หลัง มูลค่ากว่า ๑๐ ล้านบาท นอกจากนี้ ท่านได้ร่วมกับญาติโยมสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ศรีโสธร รูปทรงย่อไม้ ๑๒ สร้างศาลาฌาปนกิจหน้าเมรุ ศาลาสุนทรจิตตานุสรณ์สร้างศาลาอเนกประสงค์ ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีความสามารถด้านการแสดงธรรมเทศนาด้วยภาษาที่ง่าย สื่อให้ชาวบ้านเข้าใจง่าย มีตัวอย่างประกอบหลักธรรมเชิงบุคลาธิษฐาน ขณะเดียวกัน ยังให้ความเมตตาแก่ประชาชนทุกระดับ เมื่อได้รับนิมนต์ให้ไปแสดงธรรมตามงานบุญทั่วไป หรืองานฌาปนกิจศพไร้ญาติ โดยเฉพาะวันธรรมสวนะ จึงทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความศรัทธาน้อมนำคำสอนไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ความสามารถในการเผยแผ่ธรรมของท่าน ได้รับการสั่งสมมา ด้วยว่าท่านได้รับฟังโอวาทจากพระอาจารย์ชื่อดังหลายรูป อาทิ พระอาจารย์สอ พระอาจารย์เสาร์, หลวงปู่สิงห์, หลวงปู่มั่น, และหลวงปู่ฝั้น ล้วนแล้วแต่เป็นพระเถระที่เคร่งพระวินัย มีชื่อเสียงรู้จักกันดีในบรรดาพุทธศาสนิกชนภาคอีสาน พระเทพสังวรญาณ มีอุบายอันแยบคายในการใช้วัตรปฏิบัติส่วนตัว เป็นเครื่องมือสำหรับการอบรมสั่งสอน ออกบิณฑบาตเป็นกิจวัตร เดิมที ช่วงที่ย้ายมาจำพรรษาที่วัดศรีธรรมารามใหม่ๆ ชาวบ้านในพื้นที่ใส่บาตรกันน้อยมาก ท่านได้พิจารณาถึงสาเหตุ พบว่า พระเถระชั้นผู้ใหญ่ไม่ยอมออกบิณฑบาตตอนเช้า ทำให้ชาวบ้านขาดความศรัทธา และออกมาใส่บาตรกันน้อย ท่านจึงออกบิณฑบาตแผ่เมตตาให้ญาติโยมเป็นประจำทุกวัน ทำให้ชาวเมืองยโสธรตื่นแต่เช้าเพื่อมายืนรอใส่บาตรกันมากขึ้น จนในแต่ละวันต้องเทบาตร ๔-๕ ครั้ง ซึ่งอาหารเหล่านั้นท่านได้นำไปแจกให้ทานกับชาวบ้านที่ยากไร้ทุกวัน ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๐๙ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูอมรวิสุทธิ์ พ.ศ.๒๕๑๗ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุนทรธรรมภาณ พ.ศ.๒๕๓๗ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชธรรมสุธี พ.ศ.๒๕๔๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพสังวรญาณ ละสังขารจากไปอย่างสงบ เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๒ สิริอายุ ๘๑ พรรษา ๖๑ สร้างความเศร้าสลดอาลัยแก่คณะศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง ที่มา อริยะโลกที่ ๖ หนังสือพิมพ์ข่าวสด |