[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ 30 ธันวาคม 2553 02:03:42



หัวข้อ: จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 30 ธันวาคม 2553 02:03:42
จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพุทธศาสนา


จิตนั้นเป็นสุญญตา หรืออนัตตาธรรม ซึ่งเป็นของว่าง

ในความว่างที่เป็นสุญญตา จิตไม่บริสุทธิ์และจิตบริสุทธิ์จะสร้างอายตนะหรือขันธ์แตกต่างกัน

(1.) อายตนะหรือขันธ์ ที่จิตซึ่งว่างเข้าไปอยู่  ถ้าเกิดจากจิตที่มีกิเลสตัณหา(จิตสังขาร)  อายตนะหรือขันธ์นั้น จะไม่เที่ยง และเป็นทุกข์ มีสภาพเป็นอนิจจัง คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป (เกิด แก่ เจ็บ ตาย) = อนัตตา

(2.) อายตนะหรือขันธ์ ที่จิตซึ่งว่างเข้าไปอยู่  ถ้าเกิดจากจิตที่ไม่มีกิเลส ไม่มีตัณหา อายตนะหรือขันธ์นั้น จะเที่ยง และไม่เป็นทุกข์ ไม่มีสภาพเป็นอนิจจัง คือ เป็นนิจจังแทน  ไม่เกิดขึ้น ไม่ตั้งอยู่ และไม่ดับไป  (ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย) = อัตตา  

จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพุทธศาสนา

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนเพื่อให้ทิ้ง  จิตที่มีกิเลส ตัณหา ที่สร้างขันธ์หรืออายตนะ ที่ไม่เที่ยง และเป็นทุกข์ มีสภาพเป็นอนิจจัง คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป (เกิด แก่ เจ็บ ตาย) = อนัตตา  

จุดมุ่งหมายที่ต้องทิ้งจิตไม่บริสุทธิ์  ก็เพื่อจะได้ จิตที่ไม่มีกิเลส ไม่มีตัณหา ที่สร้างขันธ์หรืออายตนะ ที่เที่ยง และไม่เป็นทุกข์ ไม่มีสภาพเป็นอนิจจัง คือ เป็นนิจจัง ไม่เกิดขึ้น ไม่ตั้งอยู่ และดับไป (ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย) = อัตตา  


หัวข้อ: Re: จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 30 ธันวาคม 2553 10:50:43
จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพุทธศาสนา


จิตนั้นเป็นสุญญตา หรืออนัตตาธรรม ซึ่งเป็นของว่าง

ในความว่างที่เป็นสุญญตา จิตไม่บริสุทธิ์และจิตบริสุทธิ์จะสร้างอายตนะหรือขันธ์แตกต่างกัน

(1.) อายตนะหรือขันธ์ ที่จิตซึ่งว่างเข้าไปอยู่  ถ้าเกิดจากจิตที่มีกิเลสตัณหา(จิตสังขาร)  อายตนะหรือขันธ์นั้น จะไม่เที่ยง และเป็นทุกข์ มีสภาพเป็นอนิจจัง คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป (เกิด แก่ เจ็บ ตาย) = อนัตตา

(2.) อายตนะหรือขันธ์ ที่จิตซึ่งว่างเข้าไปอยู่  ถ้าเกิดจากจิตที่ไม่มีกิเลส ไม่มีตัณหา อายตนะหรือขันธ์นั้น จะเที่ยง และไม่เป็นทุกข์ ไม่มีสภาพเป็นอนิจจัง คือ เป็นนิจจังแทน  ไม่เกิดขึ้น ไม่ตั้งอยู่ และไม่ดับไป  (ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย) = อัตตา  

จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพุทธศาสนา

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนเพื่อให้ทิ้ง  จิตที่มีกิเลส ตัณหา ที่สร้างขันธ์หรืออายตนะ ที่ไม่เที่ยง และเป็นทุกข์ มีสภาพเป็นอนิจจัง คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป (เกิด แก่ เจ็บ ตาย) = อนัตตา  

จุดมุ่งหมายที่ต้องทิ้งจิตไม่บริสุทธิ์  ก็เพื่อจะได้ จิตที่ไม่มีกิเลส ไม่มีตัณหา ที่สร้างขันธ์หรืออายตนะ ที่เที่ยง และไม่เป็นทุกข์ ไม่มีสภาพเป็นอนิจจัง คือ เป็นนิจจัง ไม่เกิดขึ้น ไม่ตั้งอยู่ และดับไป (ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย) = อัตตา  


 ;D ;D ;D

จะเอาจิตไม่บริสุทธิ์ ไปทิ้งที่ไหนครับ คุณเดียรถีย์พ่นสาก
จิตดวงเดียวท่องเที่ยวไป

 ;D ;D ;D


พระผู้มีพระภาค // ตรัสกับอฬวกยักษ์
จนมีดวงตาเห็นธรรม


เรายังไม่มองเห็นบุคคลผู้ที่จะพึงควักดวงจิตของเราออกโยนทิ้ง จะพึง ฉีกหัวใจของเรา หรือจะพึงจับที่เท้าทั้งสองแล้วขว้างไปที่ฝั่งแม่น้ำคงคาได้ ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ ดูกรท่าน ก็และท่านหวังจะถามปัญหาก็จงถามเถิด

 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 30 ธันวาคม 2553 10:59:26
 ;D ;D ;D

คุณพลศักดิ    เข้าใจจิตผิดๆ  ก็ผิดตลอดสายยยยยยยยยย

มีแต่คนคุยโอ่ เท่านั้น ที่ทิ้งจิต

นักปราชญ์ เค้าไม่ทิ้งจิตหรอกครับ


 ;D ;D ;D

คาถาธรรมบท จิตตวรรคที่ ๓
[๑๓] นักปราชญ์ย่อมทำจิตที่ดิ้นรน กลับกลอกรักษาได้โดยยากห้ามได้
โดยยาก ให้ตรง ดังช่างศรดัดลูกศรให้ตรง ฉะนั้นจิตนี้
อันพระโยคาวจรยกขึ้นแล้วจากอาลัย คือเบญจกามคุณเพียงดังน้ำ
ซัดไปในวิปัสสนากรรมฐานเพียงดังบก เพื่อจะละบ่วงมาร ย่อมดิ้นรน
ดุจปลาอันชาวประมง ยกขึ้นแล้วจากที่อยู่คือน้ำโยนไปแล้วบนบก
ดิ้นรนอยู่ ฉะนั้น การฝึกฝนจิตที่ข่มได้ยาก อันเร็ว มีปรกติตกไปใน
อารมณ์อันบุคคลพึงใคร่อย่างไร เป็นความดี เพราะว่าจิตที่บุคคล
ฝึกดีแล้วนำสุขมาให้ นักปราชญ์พึงรักษาจิตที่เห็นได้แสนยากละเอียด
อ่อนมีปกติตกไปตามความใคร่ เพราะว่าจิตที่บุคคลคุ้มครองแล้วนำสุข
มาให้ ชนเหล่าใดจักสำรวมจิตอันไปในที่ไกล ดวงเดียวเที่ยวไป
หาสรีระมิได้ มีถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยชนเหล่านั้นจะพ้นจากเครื่องผูกแห่งมาร
ปัญญาย่อมไม่บริบูรณ์แก่บุคคลผู้มีจิตไม่ตั้งมั่น ไม่รู้แจ่มแจ้งซึ่งพระ
สัทธรรมมีความเลื่อมใสอันเลื่อนลอย ภัยย่อมไม่มีแก่พระขีณาสพ ผู้มี
จิตอันราคะไม่รั่วรด ผู้มีใจอันโทสะไม่ตามกระทบแล้วผู้มีบุญและบาป
อันละได้แล้ว ผู้ตื่นอยู่ กุลบุตรทราบกายนี้ว่าเปรียญด้วยหม้อแล้ว
พึงกั้นจิตนี้ให้เปรียบเหมือนนครพึงรบมารด้วยอาวุธคือ ปัญญา อนึ่ง
พึงรักษาตรุณวิปัสสนาที่ตนชนะแล้ว และไม่พึงห่วงใย กายนี้อันบุคคล
ทิ้งแล้วมีวิญญาณปราศแล้วไม่นานหนอจักนอนทับแผ่นดิน ประดุจ
ท่อนไม้ไม่มีประโยชน์โจรหัวโจกเห็นโจรหัวโจก ก็หรือคนมีเวรเห็น
คนผู้คู่เวรกันพึงทำความฉิบหาย และความทุกข์ใดให้จิตที่บุคคลตั้งไว้ผิด
พึงทำบุคคลนั้นให้เลวยิ่งกว่าความฉิบหายและความทุกข์นั้นมารดาบิดา
ไม่พึงทำเหตุนั้นได้ หรือแม้ญาติเหล่าอื่นก็ไม่พึงทำเหตุนั้นได้ จิตที่บุคคล
ตั้งไว้ชอบแล้วพึงทำเขาให้ประเสริฐกว่าเหตุนั้น ฯ
จบจิตตวรรคที่ ๓   
 


หัวข้อ: Re: จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 31 ธันวาคม 2553 14:27:41
อืม อ่านแล้วคิดแบบนี้ท่าน
อัตตาคือความทนได้ด้วยความไม่มีกิเลสด้านร้าย
แต่ยังมีกิเลสด้านดีเป็นความเมตตาใช่มั๊ยนะ
แต่อนัตตาคือไม่เหลือกิเลสดีหรือร้ายเหลืออยู่เลย
คิดแบบนี้ผิดถูกยังไงท่าน :37:
เฮ่อ...ยังคิดอยู่ร่ำไปน๊อเรา เพราะสงสัยนี่แหละ :24:

ถ้าคุณมีเมตตา  พยายามช่วยเหลือคนอื่น แล้วช่วยไม่ได้ล่ะ  คุณจะไปคิดปรุงแต่งต่อหรือเปล่า  หรือจะปล่อยวางเป็นอุเบกขา  เพราะเราได้พยายามที่สุดแล้ว  ก็ยังช่วยไม่ได้

ถ้าคุณปล่อยวางเป็นอุเบกขาได้  นั่นแหละ คือภาวะอรหันค์  ดังเช่นเจ้าแม่กวนอิม  ท่านก็พยายามช่วยเหลือคนที่มาขอให้ท่านช่วย  บางคนท่านก็ช่วยไม่ได้  เพราะกรรมของเขาหนักมาก  ถ้าเจ้าแม่กวนอิมไปคิดปรุงแต่ง  ไม่ปล่อยวางเป็นอุเบกขา  เจ้าแม่กวนอิมคงไม่ได้เป็นพระอรหันต์มหาโพธิสัตว์  อยู่วนเวียนมานับกัปไม่ถ้วนหรอก

สรุป

เมตตากรุณา+ปล่อยวางเป็นอุเบกขาอรหันต์ = อรหันต์โพธิสัตว์

พระพุทธเจ้าตอนที่ท่านตรัสรู้  ตอนนั้นท่านได้ภาวะอรหันต์แล้ว  แต่พระองค์ท่านมีเมตตากรุณาต่อโลก  ต้องการเผยแพร่สิ่งที่ท่านรู้  ให้ผู้อื่นรู้ตามด้วย  โดยท่านยังไม่ยอมดับขันธ์ไป  ช่วงที่ท่านเป็นตถาคตสอนธรรมอยู่ตั้งแต่ตรัสรู้เมื่อพระชนมายุได้ 35 พรรษา จนถึง 80 พรรษา   

ช่วง 45 ปีนั้น  พระพุทธเจ้า ดำรงอยู่ในฐานะอรหันต์โพธิสัตว์  ที่เป็นตถาคตสอนธรรมใน 3 ภพ


หัวข้อ: Re: จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 31 ธันวาคม 2553 14:43:20
จิตมี 2 ชนิด

1. จิตสังขาร จิตตัวนี้สร้างวิญญาณธาตุ หรือกายทิพย์หรืออทิสมานกาย  ผู้ที่เข้านิพพาน  ต้องดับจิตสังขารหรือกายทิพย์ก่อน เพราะมันเกิดจากความไม่บริสุทธิ์หรืออวิชชา  เมื่อดับจิตสังขารหรือกายทิพย์ตัวนี้แล้ว  จะได้

2. จิตบริสุทธิ์ที่เป็นจิตปภัสสรที่หมดกิเลสอวิชชา  จิตปภัสสรที่หมดกิเลสอวิชชา จะสร้างกายทิพย์ และกายธรรม ขึ้นมาแทน


ลองฟังที่หลวงปู่มั่นเล่าให้ฟังในเรื่องนิพพานไม่สูญ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตนะครับ

http://www.watpanonvivek.com/index.php?option=com_content&view=article&id=1257:%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%95%E0%B9%92-%m-%E0%B9%91%E0%B9%95-%E0%B9%91%E0%B9%98-%M-%S&catid=39:2010-03-02-03-51-18

นิพพานเป็น แดนของวิสุทธิเทพคือผู้เป็นพระอรหันต์ ที่ละลายกายทิพย์หมดสิ้นแล้วเหลืออยู่แต่จิตสุขใสเป็นดวงประกายพรึกพระ อรหันต์สถิตย์อยู่ในแดนพระนิพพานนั้น.......

ไม่ใช่กายทิพย์ธรรมดาเหมือนโอปปาติกะทั้งหลาย กายทิพย์ หรือ ธรรมกาย   ของพระอรหันต์ในแดนนิพพานเป็นกายทิพย์ที่นฤมิตขึ้นด้วยธรรม

ไม่ได้เกิดขึ้นเองเป็นเองโดยธรรมชาติของโลกวิญาณ ร่างธรรมกายของพระอรหันต์เป็นทิพย์ละเอียดใสสะอาดใสเป็นประกายคล้ายแก้วประกายพรึก

มีรัศมีสว่างไสวมากกว่าพระพรหมอย่างเทียบกันไม่ได้เลย มีความสุขที่สุดอย่างไม่มีอะไรเปรียบเทียบเพราะความรู้สึกอื่นไม่มี มีแต่จิตสงเคราะห์  


หัวข้อ: Re: จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 31 ธันวาคม 2553 15:26:20
จิตมี 2 ชนิด

1. จิตสังขาร จิตตัวนี้สร้างวิญญาณธาตุ หรือกายทิพย์หรืออทิสมานกาย  ผู้ที่เข้านิพพาน  ต้องดับจิตสังขารหรือกายทิพย์ก่อน เพราะมันเกิดจากความไม่บริสุทธิ์หรืออวิชชา  เมื่อดับจิตสังขารหรือกายทิพย์ตัวนี้แล้ว  จะได้

2. จิตบริสุทธิ์ที่เป็นจิตปภัสสรที่หมดกิเลสอวิชชา  จิตปภัสสรที่หมดกิเลสอวิชชา จะสร้างกายทิพย์ และกายธรรม ขึ้นมาแทน


ลองฟังที่หลวงปู่มั่นเล่าให้ฟังในเรื่องนิพพานไม่สูญ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตนะครับ

http://www.watpanonvivek.com/index.php?option=com_content&view=article&id=1257:%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%95%E0%B9%92-%m-%E0%B9%91%E0%B9%95-%E0%B9%91%E0%B9%98-%M-%S&catid=39:2010-03-02-03-51-18

นิพพานเป็น แดนของวิสุทธิเทพคือผู้เป็นพระอรหันต์ ที่ละลายกายทิพย์หมดสิ้นแล้วเหลืออยู่แต่จิตสุขใสเป็นดวงประกายพรึกพระ อรหันต์สถิตย์อยู่ในแดนพระนิพพานนั้น.......

ไม่ใช่กายทิพย์ธรรมดาเหมือนโอปปาติกะทั้งหลาย กายทิพย์ หรือ ธรรมกาย   ของพระอรหันต์ในแดนนิพพานเป็นกายทิพย์ที่นฤมิตขึ้นด้วยธรรม

ไม่ได้เกิดขึ้นเองเป็นเองโดยธรรมชาติของโลกวิญาณ ร่างธรรมกายของพระอรหันต์เป็นทิพย์ละเอียดใสสะอาดใสเป็นประกายคล้ายแก้วประกายพรึก

มีรัศมีสว่างไสวมากกว่าพระพรหมอย่างเทียบกันไม่ได้เลย มีความสุขที่สุดอย่างไม่มีอะไรเปรียบเทียบเพราะความรู้สึกอื่นไม่มี มีแต่จิตสงเคราะห์  


 ;D ;D ;D

555+ 
เพิ่งนึกได้เหรอ  จึงเปลี่ยนมาเป็นจิต สองชนิด

 (:BR:) (:BR:) (:BR:)