หัวข้อ: ชีวิตจะมีความสุขได้ต้องคิดบวกไม่คิดลบ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 18 มีนาคม 2553 16:13:01 (http://image.ohozaa.com/i6/opvn1.jpg) ...................................ขอเชิญดาวน์โหลดไฟล์ได้ตามอัทยาศัย.......................... หัวข้อ: Re: ชีวิตจะมีความสุขได้ต้องคิดบวกไม่คิดลบ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 18 มีนาคม 2553 16:14:20 (http://image.ohozaa.com/it/pv3p2.jpg) หัวข้อ: Re: ชีวิตจะมีความสุขได้ต้องคิดบวกไม่คิดลบ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 18 มีนาคม 2553 16:14:55 (http://image.ohozaa.com/it/t4i93.jpg) หัวข้อ: Re: ชีวิตจะมีความสุขได้ต้องคิดบวกไม่คิดลบ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 18 มีนาคม 2553 16:15:38 (http://image.ohozaa.com/i5/lpgh4.jpg) หัวข้อ: Re: ชีวิตจะมีความสุขได้ต้องคิดบวกไม่คิดลบ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 18 มีนาคม 2553 16:32:26 (http://www.seesod.com/storage17/SN6pMsTE5r1254909484/o.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/24.wma .................................ถ่ายภาพโดย(บางครั้งเองแหละ)..................................... ........................................ภาพที่ถ่ายมาเองมีสิขสิทธิ์คุ้มครองถูกต้องตามกฏหมาย............................... ...............ขอสงวนสิทธิ์ภาพห้ามทำซ้ำดัดแปลงและเผยแพร่โดยไม่ได้รับอยุญาต................. ถ้าอยากเป็นคนงาม อย่าวู่วามโกรธง่าย ถ้าอยากเป็นคนสบาย อย่าเบื่อหน่ายความเพียร ถ้าอยากเป็นคนมี อย่าเอาดีแต่จ่าย ถ้าอยากเป็นคนนำสมัย อย่าทำลายวัฒนธรรม ถ้าอยากเป็นคนมีเกียรติ อย่าเหยียดหยามคนอื่น ถ้าอยากเป็นคนมีความรู้ อย่าลบหลู่ครูอาจารย์ ถ้าอยากหาความสำราญ อย่าล้างผลาญสมบัติ ถ้าอยากมีอำนาจ อย่าขาดความยุติธรรม ถ้าอยากเป็นคนดัง อย่างหวังความสงบ ดูบ้านเมือง ดูที่ความสะอาด ดูประชาชาติ ดูที่ความสามัคคี ดูคนดี - ดูทีการงาน ดูลูกหลาน - ดูที่การเคารพ ดูหญิง - ดูที่ความอาย ดูชาย - ดูที่ความกล้าหาญ ดูพระ - ดูทีกิจวัตร ดูคฤหัสถ์ - ดูที่ความขยัน ดิน จะกลบ ลบกาย วายสังขาร ไฟจะผลาญ เผาซาก สิ้นสาบสูญ แต่ความดี มีอยู่ คู่ค้ำคูณ เหมือนเทิดทูน แทนซาก ที่จากไป อยาก เกิดเป็นมนุษย์ ต้องรักษาศีล 5 อยากเกิดเป็นเทวดา ต้องมีมหากุศล 8 อยากเกิดเป็นพรหม ต้องเจริญสมาถกรรมฐาน อยากไปพระ นิพพาน ต้องเจริญวิปัสสนากรรมฐาน อยากมีปัญญามาก ต้องให้ธรรมะ - การศึกษา อยากเกิดมาสวย ต้องรักษาศีล อยากเกิดมารวย ต้องให้ทำบุญให้ทานและขยัน อยากมีอายุยืนยาว ต้องไม่ฆ่า - ปล่อยสัตว์ อยากมีอำนาจวาสนา ต้องมีขันติความอดทน อยากมีผิวพรรณงาม ต้องให้อาหารเสื้อผ้า ไม่อยากเกิดมาจน อย่าลักขโมย โกงเขา ไม่อยากพิกลพิการ อย่าทรมานสัตว์ ไม่อยากขี้เล่ห์ อย่าอิจฉาริษยา อาฆาต ไม่อยากเกิดในนรก ต้องทำลายความโกรธ ไม่อยากเป็นเปรตอสูรกาย ต้องทำลายความโลภ ไม่อยากเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ให้ล้างผลาญความหลง ฯ เราเลือกเกิดได้ ด้วยการทาแต่ความดี เลือกตายไม่ได้ ไม่รู้จะตายที่เมื่อใด ?ไม่รู้จะตายที่ไหน ?ไม่รู้จะตายอย่างไร ? บางคนตายบนถนน (รถชนตาย) บางคนในน้ำ (ตกน้ำตาย) บางคนตายในอากาศ (เครื่องบินตก) บางคนตายบนที่นอนบางคน เป็นลมตาย บางคนถูกยิงตายบางคนเป็นมะเร็งตาย บางคนหัวใจวายตายบางคนถูกงูกัดตาย บางคนตกตึกตายบางคนเป็นอัมพาตตาย บางคนเป็นโรคเอดส์ตาย เมื่อเป็นเช่นนี้เราจะประมาทมัวเมาอยู่ทำไม ? เราจะไปเกิดที่ดีหรือที่ชั่ว อยู่ที่การกระทำของเรามิใช่หรือ ? ธรรมชาติของจิต โดยหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ วัดถ้ำเสือ เหมือน ลิง ชอบซุกซน วิ่งไล่ ปีนป่าย เหมือน เด็ก ดื้อรั้นไม่ฟังเหตุฟังผล ไม่รู้ดี รู้ชั่ว เหมือน นก ชอบบินไปไกล ไม่อยู่กับตัวเอง ชอบคิดโน่นคิดนี่ เหมือน ธง”ปลายเสาไม่หยุดนิ่ง เมื่อมีลมก็จะหวั่นไหว เปรียบเหมือนมีอะไรมา กระทบก็จะรู้สึกเป็นไปตามอารมย์ ภายนอก ............................สิ่งที่จะต้องละวางเพื่อให้เกิดปัญญา............................ (ละ) กิเลสบังคับจิต (ละ) สิ่งเสพติดบังคับร่างกาย (ละ) วิบากกรรมทั้งดีทั้งชั่วที่บังคับให้เป็นไป (ต้องบังคับเพื่อที่จะละ)อาสวักขยญาณ โดยบังคับกิเลสให้หมดไป พระอริยะน่ะ เขาดูจริยาไม่ได้ พระอริยะนี่ถ้าดูจริยาภายนอกผิดหมด เพราะพระอริยะนี่เป็นคนใจเปิด ถ้าเป็นพระอรหันต์เมื่อใดก็ดูเหมือนเด็ก ๆ ตอนเด็ก ๆ หรือก่อนบวชเป็นยังไง ท่านจะใช้จริยานั้นเพราะเป็นพระไม่มีการผูกอีกต่อไป จึงไม่มีมายานิสัยเดิม ๆ เป็นยังไง พระอริยะก็ใช้นิสัยนั้น ท่านปล่อยตามสบายเพราะจิตท่านไม่มีอะไร อย่างพระสารีบุตร ท่านไปกับพระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์ พอถึงลำรางพระองค์อื่น ๆ ค่อย ๆ ย่อง ๆ ไป พระสารีบุตรขัดเขมร โดดแพล๊บนั่นพระอัครสาวกเบื้องขวานะ ภายหลังมีพระถามพระพุทธเจ้าว่า ทำไมพระอัครสาวกเบื้องขวาจึงขัดเขมรโดด พระพุทธเจ้าบอก อย่าไปว่าท่านเลย ลูกตถาคตไม่มีอะไรหรอกก็มาจากลิง แล้วก็มี พระอีกองค์หนึ่งท่านเป็นแม่ทัพมาก่อน พอเป็นพระอรหันต์แล้วท่านก็อยู่ในป่า ท่านรบของท่านองค์เดียวก็เอาไม้เล็ก ๆ นี่มันหักแล้วมาตัด มาวางตั้งเป็นกองทัพ ไอ่นี่เป็นเมือง ไอ่นี่ตั้งเป็นกำแพงเมือง ไอ่นี่เคลื่อนทัพมาทางนี้ ข้าศึกมาทางโน้น และก็ทัพนั้นตี ตีอยู่คนเดียว เล่นง่วนอยู่องค์เดียว ตีไปตีมาในที่สุดพระย่องมาเห็นเข้า จึงไปฟ้องพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอก ลูกตถาคตเป็นพระอรหันต์แล้วไม่ไปตีกับใครหรอก ก็ตีอยู่แค่นั้นแหละ น่ากลัวจะเป็นต้นตระกูลหมากรุกนะ นี่เห็นไหม กลับไปเป็นสภาวะเดิมหมด องค์นี้เขายังนึกถึงนิสัยของสภาวะเดิม เพราะสิ่งนั้นมันไม่เป็นพิษเป็นภัยกับท่าน ที่ท่านเล่นตีไปตีมาอย่างนั้นน่ะ ท่านก็มองดูว่ามันไม่เป็นเรื่องตีกันเพื่อประโยชน์อะไร บ้านก็แตก เมืองก็แตก แล้วแต่ แต่ละคนก็ตายไปหมด เรียกว่าทุกคนมีอำนาจวาสนาก็ตาย ตายไปแล้วเอาอะไรไปได้หรือเปล่า แล้วก็ทำให้ชีวิตมนุษย์ตายทำให้คนลำบาก ใช่ไหม...................ไม่เกิดประโยชน์นี่ท่านเห็นความไม่เป็นเรื่องเป็นราวของชีวิต ทีนี้ที่คุณถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า พระองค์นั้นองค์นี้เป็นพระอริยะ ถามคนอื่นมันจะถูกรึ ถ้าหากว่าคุณกินแกง แล้วถามคนอื่นว่าเค็มไหมวะ เผ็ดไหมวะ.............................................................เขาจะรู้ไหม ? ................................จาก หนังสือธัมวิโมกข์ ฉบับรวมเล่มปีที่ 2............................. http://forums.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/) หัวข้อ: Re: ชีวิตจะมีความสุขได้ต้องคิดบวกไม่คิดลบ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 18 มีนาคม 2553 18:29:07 (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:pTe7I8zjalW5oM:http://pirun.ku.ac.th/~b5001030/picc11.jpg) (:88:) (:LOVE:) (:88:) |