หัวข้อ: ๐ ผู้มีมิตรดีพึงบรรลุธรรม เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2554 08:29:48 (http://www.baliclifftopvilla.com/img_villa/Mana%20-%20Swimming%20Pool%20and%20Ricefield%20View%20at%20Sunset.jpg) ๐ ผู้มีมิตรดีพึงบรรลุธรรม 00243 ผู้มีมิตรดีพึงบรรลุธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสคาถาประพันธ์ ดังนี้ว่า ภิกษุใดผู้มีมิตรดี มีความยำเกรง ความเคารพ กระทำตามคำของมิตรดีทั้งหลาย มีสติสัมปชัญญะ ภิกษุนั้น พึงบรรลุธรรม อันเป็นที่สิ้นไปแห่งสังโยชน์ทั้งปวง โดยลำดับ ธรรมเตือนใจ วันที่ : 22-01-2548 (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTYwpL7aUahzN10wPgUVAz4xZf0SigQx9TxRe24IXtTqq9dxuOE) www dhammahome.com ภาพจาก : Google ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต * อกาลิโกโฮม อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ... หัวข้อ: Re: ๐ ผู้มีมิตรดีพึงบรรลุธรรม เริ่มหัวข้อโดย: คนดีศรีอยุธยา2 ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2554 12:19:08 (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:)
สุโข บุญญัต สะ อุตจโย การสะสมบุญนำสุขมาให้ หัวข้อ: Re: ๐ ผู้มีมิตรดีพึงบรรลุธรรม เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2554 12:36:19 สาธุ อนุโมทนา อ.ป้าแป๋ม กับคุณ คนดีศรีอยุธยา ด้วยครับ
(:88:) (:88:) (:88:) หัวข้อ: Re: ๐ เราเป็นเพียงผู้ชี้ทาง เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 22 กันยายน 2554 07:58:24 (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/168/40168/blog_entry1/blog/2010-03-09/comment/568465_images/24_1268152149.jpg) ๐ เราเป็นเพียงผู้ชี้ทาง “ภิกษุทั้งหลาย ตถาคตจะเกิดหรือไม่เกิดก็ตามข้อที่ว่าสังขาร ทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตานั้น เป็นหลักธรรมดาที่ดำรงอยู่อย่างนั้นเป็นนิจ ไม่วิปริตแปรผันเป็นอื่นเลย ตถาคตได้ตรัสรู้เรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้ง ได้หยั่งรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ครั้นตรัสรู้และหยั่งรู้อย่างนี้แล้วก็นำมาบอก นำมาสอน บัญญัติวางเป็นหลัก เปิดเผยจำแนกแจกออกเป็นหัวข้อ และทำให้เข้าใจง่ายขึ้น ” พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า เราเป็นเพียงผู้ชี้ทาง ต่อให้มีเราหรือไม่มีเรา ความเป็นไปของสิ่งต่างๆ ย่อมเป็นไปตามเหตุและผล การเป็นพระพุทธเจ้าของเรา ไม่ได้ถูกลิขิตมาเพียงเพื่อเรา ในอดีตที่ผ่านมาก็เคยมีผู้รู้แล้ว (เป็นพุทธ) และอนาคตก็จะมีผู้ค้นพบธรรมอีก พระองค์เคยตรัสว่า เคยมีพระพุทธเจ้า (ผู้รู้) มาแล้วนับไม่ถ้วน เปรียบกับเม็ดทรายในมหาสมุทร สรรพสิ่งย่อมดำเนินไปตามเหตุและปัจจัยของมัน มิได้ขึ้นอยู่กับอำนาจบังคับของใคร พระพุทธองค์เป็นเพียงผู้ชี้ทาง ส่วน เราจะปฏิบัติตามทางที่แนะไว้หรือไม่ก็แล้วแต่ พระพุทธองค์เป็นผู้ชี้ทางว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เพราะมันมีผลที่ต่างกันนั่นเอง อันหนึ่งให้ผลเป็นทุกข์ อีกอันให้ผลเป็นสุข หนทางนั้นมีอยู่ แต่การเดินทางเป็นหน้าที่ของเธอ เราเป็นเพียงผู้ชี้ทางเท่านั้น เราเป็นเพียงผู้ชี้ทางสว่างทางธรรมให้เท่านั้น ไม่อาจจะบังคับให้เขามาทำตามสิ่งที่เราพูดได้ เราเป็นเพียงผู้ชี้ทาง ท่านต่างหากเป็นผู้เดิน ทางเดินก็มีอยู่ คนเดินก็มีอยู่ คนไปถึงแล้วก็มีอยู่ แผนที่ก็มีอยู่ ขึ้นกับว่า ท่านจะเริ่มเดินเมื่อใด ๚ะ๛ (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR7R3MC61ODHv6i-x1ChH-qGSZbt86vx_mAI53tFK41MmGcbgyWGA) ปล่อยวางตัวตนลงเสียบ้าง เปิดใจยอมรับความเห็นของผู้อื่น พร้อมกันนั้นก็เร่งฝึกตน เพื่อละทิ้งความชั่วทางกาย วาจา และใจ เท่านั้นก็เพียงพอ Credit by :http://www.chiangmai-thailand.net/tian_ ... _line.html :http://www.oknation.net/blog/j-direk/2010/01/21/entry-3 :http://agaligohome.com/index.php?topic=3795.new#new Pics by : Google อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ... |