[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ อนามัย => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 02 ตุลาคม 2558 05:11:11



หัวข้อ: การใช้ยาย้อมผม
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 02 ตุลาคม 2558 05:11:11


(http://www.womanandkid.com/images/stories/womanandkid/297-hair_colorings.jpg)
การใช้ยาย้อมผม

จากเอกสารเผยแพร่ความรู้ สารเคมีในชีวิตประจำวัน ของคณะเภสัชกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อธิบายถึงยาย้อมผมไว้ว่า เส้นผมของคนเราแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ รากผม ฝังอยู่ในผิวหนัง และส่วนของเส้นผมที่ประกอบด้วยเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ไม่ละลายน้ำ เมื่อตัดเส้นผมดูตามขวางจะเห็นแบ่งออกเป็น 3 ชั้นคือ ชั้นนอก มีลักษณะคล้ายเกล็ดงู, ชั้นกลาง เป็นชั้นที่มีเม็ดสี หรือเมลานินอยู่ เป็นสีตามธรรมชาติของเส้นผม หากขาดเม็ดสีจะทำให้เกิดผมขาว การเปลี่ยนสีผมจะทำให้เม็ดสีในชั้นนี้เปลี่ยนแปลง รวมทั้งการดัดหรือยืดผมก็เป็นการเปลี่ยนแปลงของสารในชั้นกลางนี้ และ ชั้นใน เป็นชั้นแกนของเส้นผม

สำหรับผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ
1.ยาย้อมผมชนิดชั่วคราว ประกอบด้วยสีที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ เคลือบบนชั้นนอกของเส้นผม สีจะหลุดออกภายหลังการสระผมด้วยแชมพูเพียงครั้งหรือสองครั้ง
2.ยาย้อมผมชนิดกึ่งถาวร ประกอบด้วยสีที่มีขนาดโมเลกุลเล็กและซึมเข้าไปถึงชั้นกลางของเส้นผมได้ สีจะคงทน 3-5 สัปดาห์ และ
3.ยาย้อมผมชนิดถาวร ติดทนบนเส้นผมและทนต่อการสระด้วยแชมพู

 ยาย้อมผมชนิดถาวรมี 2 ชนิดคือ ยาเคลือบสีผม สีจะสะสมที่ชั้นนอกของเส้นผมเท่านั้น (โดยสีที่ใช้มี 3 ประเภท ได้แก่ สมุนไพรย้อมผม เกลือโลหะย้อมผม และสีผสม) และอีกชนิดหนึ่งคือ ยาย้อมผมชนิดที่ซึมเข้าเส้นผม ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ ประกอบด้วยน้ำยา 2 ขวดคือ ขวดที่ 1 ครีมสี เป็นของเหลวหรือครีม ประกอบด้วยสีที่ใช้ในการเปลี่ยนสีผม เรียกว่า สีออกซิเดชัน หรือ สีพารา ได้แก่ พาราฟีนิลีนไดอะมีน (p-Phenylenediamine, PPD) และ พารา โทลูอีนไดอะมีน (p-Toluenediamine, PTD) ซึ่งอยู่ในสภาวะด่างจากการเติมแอมโมเนียด่างทำให้ชั้นนอกของเส้นผมบวม พองและแยกออก ทำให้สีซึมเข้าสู่ชั้นกลางของเส้นผม แต่ถ้าน้ำยาเป็นด่างมากจะละลายชั้นนอกของเส้นผม ทำให้ผมหยาบกระด้าง

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยให้สีซึมเข้าเส้นผมได้ดี และสารที่ทำให้ข้นเพื่อสีไม่ไหลออกจากเส้นผม

ขวดที่ 2 น้ำยาโกรก ประกอบด้วย 6% ของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) ทำหน้าที่ออกซิไดซ์สีพาราให้เกิดสีย้อมผม หากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มีความเข้มข้นมากกว่า 6% จะทำลายเส้นผมและระคายเคืองหนังศีรษะ แต่ถ้าความเข้มข้นต่ำกว่านี้ก็จะไม่สามารถออกซิไดซ์สีพาราได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ยาย้อมผมชนิดนี้ต้องผสมน้ำยาทั้ง 2 ขวดทันทีก่อนใช้ย้อมผม เพื่อให้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ปล่อยออกซิเจนอิสระไปออกซิไดซ์ สีพาราให้เกิดสีสำหรับการเปลี่ยนสีผม

ก่อนการใช้ยาย้อมผมควรทดสอบว่าจะแพ้สารเคมีที่เป็นส่วนผสมหรือไม่ แม้จะเคยใช้ยาย้อมผมชนิดนั้นโดยไม่เกิดการแพ้มาก่อน โดยทำความสะอาดบริเวณหลังใบหู หรือข้อพับข้อศอกด้านใน ใช้ก้านสำลีจุ่มยาย้อมผมที่ผสมแล้วเพียงเล็กน้อยทาที่บริเวณดังกล่าวให้กว้างประมาณครึ่งนิ้ว ทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก 24-48 ช.ม. หากมีอาการคันหรือผื่นแดง ก็ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์นั้น สารเคมีหลายตัวในยาย้อมผมอาจทำให้เกิดอาการผื่นคัน โดยเฉพาะ PPD ทำให้เกิดอาการแพ้ในผู้ใช้ยาย้อมผมส่วนใหญ่

ข้อควรระวังในการใช้ยาย้อมผม
1.ไม่ควรย้อมผมหากมีแผลบนศีรษะ
2.ทดสอบการแพ้ก่อนย้อมผม 24-48 ช.ม.
3.สวมถุงมือยางขณะย้อมผม
4.ทำตามวิธีใช้ของแต่ละผลิตภัณฑ์
5.หยุดใช้และล้างออกด้วยน้ำทันทีเมื่อมีอาการคัน ผื่นแดง ปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่ถูกน้ำยา
6.เก็บผลิตภัณฑ์ย้อมผมในที่มืดและเย็น
7.ไม่เทน้ำยาผสมที่เหลือกลับขวด เนื่องจากภาชนะบรรจุอาจระเบิด ให้ทิ้งในที่ที่เหมาะสม
8.ไม่ใช้ยาย้อมผม ย้อมขนตา หรือขนคิ้ว เพราะอาจทำให้ตาบอด และ
9.หญิงมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาย้อมผม