หัวข้อ: เตรียมป้องกัน โรคร้าย ภัยหน้าฝน เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 12 ตุลาคม 2558 20:09:37 .
(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTf08IO7sf-yFaYqrfe836ZLqdFhYNZS32poY9D0pKtwi7zjKIpmw) เตรียมป้องกัน โรคร้าย ภัยหน้าฝน อากาศประเทศไทยในช่วงนี้ค่อนข้างแปรปรวน หลายภูมิภาคยังคงมีฝนตก และด้วยสภาพอากาศเช่นนี้เอง จึงทำให้หลายๆ คนมีอาการป่วย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก คนชรา และผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรต้องดูแลสุขภาพให้มากเป็นพิเศษ เพราะในน้ำฝนอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคและสารต่างๆ ที่อาจส่งผลให้ป่วยได้ พญ.สาวิตรี ผู้เจริญสุข แพทย์ศูนย์ตรวจสุขภาพ ร.พ.ปิยะเวท กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนมีกลุ่มโรคที่ควรระวังหลายโรค อาทิ กลุ่มโรคไข้เลือดออก ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ กลุ่มโรคอหิวาต์ รวมทั้งกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดเชื้อทางน้ำและอาหาร เป็นต้น สำหรับกลุ่มโรคที่พบว่ามีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากคือ กลุ่มโรคที่เกิดจากการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบหรือปอดบวม โดยพบผู้ป่วยทั้งปี แต่จะมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน ซึ่งโรคนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากเกิดขึ้นกับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ หรือผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หากผู้ปกครองสังเกตว่าบุตร หลานมีไข้ ไอ หายใจเร็วต้องรีบพาไปพบแพทย์ โดยมากโรคนี้แพทย์จะวินิจฉัยและรักษาตามอาการ แต่การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพียงปีละ 1 เข็มเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันมีราคาไม่สูงและฉีดได้ทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้ ยังพบโรคที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากในช่วงนี้อีกหลายโรค เช่น กลุ่มโรคไข้เลือดออก ซึ่งมีอาการค่อนข้างใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ แนะนำว่าหากพบว่ามีไข้สูงติดต่อกันหลายวัน หรือครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย หรือมีจุดเลือดขึ้นตามตัว ควรรีบมาพบแพทย์ อีกกลุ่มคือโรคติดเชื้อที่เกิดจากน้ำและอาหาร เช่น ท้องร่วง อหิวาตกโรค โรคบิด อาหารเป็นพิษ เป็นต้น วิธีการป้องกันตัวเองเบื้องต้น คือรับประทานอาหารที่ปรุงสุกและสดใหม่ หรือควรอุ่นร้อนก่อนรับประทาน ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร ส่วนกลุ่มโรคที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากในเขตชานเมืองและต่างจังหวัด ที่จำเป็นต้องตากฝนหรือลุยน้ำขังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสัมพันธ์กับการประกอบอาชีพ ได้แก่ โรคน้ำกัดเท้าและโรคฉี่หนู แพทย์แนะนำวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น คือหลังจากที่แช่เท้าในน้ำฝนหรือน้ำท่วมทุกครั้ง ต้องล้างเท้าออกด้วยน้ำสะอาดหรือสบู่ และเช็ดเท้าให้แห้ง สำรวจเท้าว่ามีบาดแผล ตุ่มคัน หนอง เกิดขึ้นหรือไม่ หากพบควรรีบมาพบแพทย์ และกลุ่มโรคสุดท้ายเป็นกลุ่มโรคที่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบ สาเหตุเกิดจากสิ่งสกปรกกระเด็นเข้าตา หรือการเกิดเชื้อจากการขยี้ตาด้วยมือที่ไม่สะอาด เป็นต้น |