หัวข้อ: อาสวกิเลส เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 10:16:38 (http://www.taklong.com/pictpost/t/115307P5280003.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma ถ่ายภาพประกอบโดย Sometime ภาพจากงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาสงวนลิขสิทธิ์ภาพตามกฏหมาย ท่านอาจารย์ กำลังฟังธรรมหรือเปล่าค่ะ ? เห็นไหมค่ะทุกคน ที่เข้าใจถูกต้องตอบว่ากำลังฟังธรรมเพราะว่ามีเสียงและมี จิตที่คิดนึกจะกล่าวว่าไม่ได้ฟังธรรมไม่ได้นอกจากคนนั้น ไม่เข้าใจธรรม พราะว่า ทุกขณะเป็นธรรมไม่ใช่ใครคนหนึ่ง คนใดทั้งสิ้นนี่เป็นสิ่งซึ่งใครคนใดคนหนึ่งเกิดมาแล้วจะ มาถึง ณ.วันนี้เลือกได้หรือเปล่า ? ทุกอย่างเป็นไปตาม เหตุตามปัจจัยแม้แต่ความคิดของแต่ละคนแต่ละขณะนี้ เราไม่รู้เลยว่าขณะต่อไปเราจะคิดอะไรแต่ลืมอีกแล้ว ! ลืมว่าที่คิดอย่างนั้น ก็ไม่ใช่เรามีเหตุปัจจัยที่ แต่ละคนจะคิดต่างกันนั่งอยู่ด้วยกันได้ยินด้วยกันก็คิด ต่าง ๆ กันไปตามการสะสม เพราะฉะนั้น................ถ้ายิ่งเข้าใจธรรมจริง ๆ ก็จะรู้ว่า การได้เข้าใจอย่างนี้ จะมีประโยชน์กว่าการที่จะเกิดมา แล้วเป็นคนเก่ง มีความสำเร็จต่าง ๆ มีลาภ มียศ มีสรร - เสริญ แต่ไม่รู้ความจริงว่าเป็นธรรม ไม่มีตัวใครสักคนเดียว อย่างที่ได้กล่าวถึงในตอน ต้นเกิดมาเป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้หายไปได้ไม่ได้อยู่ในโลกนี้อีก ต่อไปแล้วลองคิดดู ทำไมจึงกล่าวว่าไม่มีคนนั้นอีกแล้ว หรือไม่มีอีกเลยเพราะไม่มีสภาพธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่งให้ เกิดขึ้นเป็นไปโดยใครก็บังคับบัญชาไม่ได้ ว่าจะให้อยู่ในโลก นี้อีกนานต่อไป หรือว่าอยู่ในโลกนี้อีกไม่นานเลย เพราะฉะนั้น..................ก็แสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วนี้เรา ไม่ได้เข้าใจว่าไม่มีเราประกาศนียบัตรหรืออะไรทั้งหมดก็ เป็นสิ่งที่ปรากฏทางตาให้คิดให้นึกปรุงแต่งให้ติดข้องไม่รู้ ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วชั่ว 1 ขณะจิตที่เกิดและดับไป ไม่มีใครสามารถจะทำอะไรได้เลยเพราะมีเหตุปัจจัยที่จะให้ ขณะต่อไปเกิดโดยเลือกไม่ได้แต่สามารถที่จะเข้าใจได้ใน ความเป็นอนัตตาและในทุกอย่างของทุกชีวิตนะคะ เกิดมา เป็นอย่างนี้แล้วหายไป ไม่กลับมาเป็นคนนี้อีกต่อไปเลยทั้งสิ้น เพราะเรายึดถือสภาพธรรมที่เกิดดับว่าเป็นเราเป็นเขา จะยึดถือสภาพธรรมแล้วแต่ว่าจะเป็นสัตว์ เป็นบุคคลใด ๆ ก็ตาม แต่เมื่อหมดปัจจัยที่จะให้สภาพธรรมซึ่งเป็นจิต เจตสิก รูป เกิดดับในความซึ่งเป็นบุคคลนั้น สิ้นสุดลงก็จะหายไป.....หายไป เลยไม่กลับมาอีกเลยแต่ธรรมไม่หายตราบใดที่ยังไม่ถึง ความเป็นพระอรหันต์ก็มีปัจจัยที่จะให้เกิดแล้วก็เลือกไม่ได้ อีกเกิดต่อไป(ชาติต่อไป)อาจะไม่มี(ประกาศนียบัตร)สักใบ เดียวก็ได้จะไปเกิดที่ไหนเมื่อไรยังไงก็ได้ทั้งนั้นเลยค่ะ ตามเหตุตามปัจจัยแต่การรู้การเข้าใจธรรมจะเห็นได้ เลยว่า มีค่ามากกว่าอย่างอื่นเพราะสามารถที่จะรู้ความ จริงว่าไม่มีเราแต่มีธรรมซึ่งเป็นความเห็นที่ถูกต้อง เมื่อได้รู้ว่า เราเองนั้นมีอาสวกิเลส และยึดมั่นในตัวตน เหนียวแน่นเพียงใดแล้ว ก็ยิ่งตระหนักใน พระพุทธคุณและ คุณของอาจารย์ ผู้ให้คำสอนอบรมมากขึ้น มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่อภิธรรม บ้านธรรมะ บุคโล ดาวคะนอง ธนบุรี บรรยายธรรมโดย อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ http://www.facebook.com/itsariyathanakorn (http://www.facebook.com/itsariyathanakorn) http://twitter.com/sok45 (http://twitter.com/sok45) http://forum.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/) ......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน.......................... ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ........................ หัวข้อ: Re: วันมาฆบูชาเวอร์ชั่น........... เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554 00:31:04 (http://www.nkgen.com/buddha1-2.gif) (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:) (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/851/7851/blog_entry1/blog/2009-03-17/comment/412660_images/2_1237293114.gif) |