หัวข้อ: เหตุใด? พระคเณศจึงเสียงา เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 13 ธันวาคม 2558 17:35:23 .
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/42687306180596_SAM_2848.jpg) เรื่องราวของพระคเณศ มีอยู่ในเกร็ดตำนาน ตามความเชื่อลัทธิพราหมณ์ แตกต่างกันโดยพิสดารหลายคัมภีร์เหตุใด? พระคเณศจึงเสียงา เสฐียรโกเศศ นาคะประทีป เล่าประวัติ พระคเณศ ไว้ในเทพนิยายสงเคราะห์ภาค ๔ หนังสือศิลปากรฉบับปีที่ ๑ เล่ม ๕ ก.พ.๒๔๘๐ ว่า เป็นเชษฐโอรสของพระอิศวร และพระอุมา มีชายา ๒ องค์ ชื่อพุทธิ และสิทธิ มีโอรส ๒ องค์ ชื่อเกษม และลาภ ชาวฮินดูเชื่อว่าถ้าได้กราบไหว้บูชา ก็จะประสบแต่ความสุขความเจริญ กำเนิดพระคเณศ ตามคัมภีร์ไววรรตปุราณ...ครั้งนั้นพระอิศวรแนะนำให้พระอุมา ทำพิธีปันยากรพรตบูชาพระนารายณ์ เริ่มบูชาตั้งแต่วันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๓ เรื่อยไปจนครบ ๑ ปี เพื่อขอประทานโอรส พระอุมาทำพิธีจนครบเวลา...ไม่ได้โอรสก็เสียใจ แต่เมื่อกลับไปห้องก็พบพระโอรสเป็นพระกฤษณะ (ปางหนึ่งพระนารายณ์) แบ่งภาคมาเกิด ก็มีความปีติโสมนัส ทวยเทพทั้งสวรรค์ ทราบข่าวก็พากันมาแสดงความยินดี แต่พระศนิ (พระเสาร์) ท่าทีผิดปกติ ไม่กล้ามองพระกุมาร ก้มดูแต่พื้น พระอุมาถาม พระศนิตอบว่า ครั้งหนึ่งมัวเพลินภาวนาถึงองค์พระวิษณุ จนละเลยหน้าที่สามี องค์ชายาคิดว่าไปมีหญิงอื่น โกรธมากสาปว่า ถ้าพระศนิมองผู้ใด ผู้นั้นจะพินาศ พระอุมาไม่เชื่อ...ขอให้พระศนิมองดูพระกุมาร พระศนิขอให้พระยมเป็นพยานแล้วก็เงยหน้า...ทันทีที่มอง เศียรพระกุมารก็ขาดกระเด็น...หายไปอยู่ที่เดิม คือที่เศียรพระ-กฤษณะที่แบ่งภาคมาเกิด ขณะพระอุมาและทวยเทพตกพระทัยโทมนัสกันแสงกันทั่วหน้า พระวิษณุองค์เดียวทรงครุฑไปยังแม่น้ำบุษปภัทร เห็นช้างนอนหลับหันหัวไปทิศเหนือ ก็ทรงตัดเศียรช้างนำกลับมาต่อที่พระศอพระกุมาร พระกุมารก็คืนชีพเหมือนเดิม คัมภีร์ศิวปุราณ เล่าไว้อีกอย่าง หลายครั้งพระศิวะเสด็จเข้าไปหาพระอุมาขณะทรงสรงน้ำ โดยไม่ทันรู้ตัว พระอุมาจึงเอาไคลขมิ้นทาพระกายปั้นเป็นชายหนุ่มรูปงาม ทำหน้าที่ยามเฝ้าประตู เมื่อพระอิศวรเสร็จไป ชายรูปงามก็ขวาง เกิดสู้กันพระศิวะสู้ไม่ได้ ป่าวร้องให้พระวิษณุและทวยเทพอื่นๆมาช่วย...ก็ยังสู้ไม่ไหว รบกันด้วยฤทธิ์แพ้กุมาร พระวิษณุต้องใช้วิชาถนัด...เนรมิตรูปมายาเป็นนางงาม ชายรูปงามเผลอมองเพลิน พระวิษณุได้ทีตัดคอชายเนรมิตขาด พระอุมากริ้วมาก พระศิวะสั่งเทพองค์หนึ่ง เหาะไปตัดเอาหัวช้างที่นอนเอาหัวไปทางทิศเหนือมาต่อให้ ฟื้นคืนชีพให้แล้ว พระศิวะก็ต้องเอาใจ...ตั้งให้พระ กุมารเศียรช้าง...เป็นใหญ่ในหมู่เทพที่รับใช้ ชื่อ คเณศ ที่แปลว่า เป็นใหญ่ในคณะ...มาจากคัมภีร์นี้ คัมภีร์กันทปุราณ กล่าวไว้อีกทาง...พระศิวะมีโองการว่า ถ้าใครบูชาพระองค์ ณ เทวาลัยโสมนาถ ก็จะได้ขึ้นสวรรค์ ผลก็คือมีมนุษย์จำนวนมากได้ขึ้นสวรรค์ ไปแย่งที่เทวดา... พระอินทร์นำเทวดาไปร้องทุกข์พระ-ศิวะว่า มนุษย์นอกศาสนาทำบาปหยาบช้าได้ขึ้นสวรรค์ เป็นการไม่สมควร พระศิวะก็เอาใจเทวดา เนรมิตบุรุษรูปงาม ทำหน้าที่กลั่นกรองการบูชาของมนุษย์...ไม่ให้ขึ้นสวรรค์ได้ง่ายๆ จู่ๆ พระอิศวรก็ทรงมีโอรสรูปงาม พระอุมากริ้วว่าพระนางหาได้มีส่วนเป็นมารดาไม่ จึงสาปหนุ่มรูปงามให้พิการ มีเศียรเป็นช้าง รูปร่างที่สะโอดสะอง เป็นอ้วนท้องพลุ้ย พระศิวะ...เกรงพระทัยไม่กล้าปริปากแย้งพระอุมา แต่หันไปให้พรพระโอรส “ให้เจ้าเป็นผู้ได้รับบูชาก่อนเทพองค์ใด หากใครไม่บูชากิจการนั้นจะติดขัดไม่สมประสงค์ ชื่อ พระพิฆเนศวร หรือพระพิฆเนศ...แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในความขัดข้อง และชื่อสิทธิธาดา ผู้อำนวยความสำเร็จ ได้มาจากคัมภีร์นี้ล่ะกระมัง นอกจาก ๓ คัมภีร์นี้ พระคเณศ ยังมีเกร็ดเรื่องเล่าอีกมากมาย บางเรื่องงาซ้ายหัก อีกเรื่องงาขวาหัก บางเรื่องชอบเสวยขนมต้ม จนวันหนึ่งหล่นจากหลังหนูจนพุงแตกต้องใช้งูรัดเอว เพราะมีหลายคัมภีร์ หลายเรื่องเล่า ลักษณะของพระคเณศ ภาพรวมที่เหมือนกัน มีกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง ส่วนงาที่หักข้างหนึ่ง จากคัมภีร์ที่ถูกปรศุรามขว้างขวานที่พระอิศวรประทานให้...เข้าใส่ พระคเณศเอางารับ งาจึงหักข้างหนึ่ง แต่ก็ยังเถียงกันว่า หักข้างซ้าย หรือหักข้างขวา ส่วนอื่นๆ ต่างกัน ตั้งแต่ เตี้ย พุงพลุ้ย หูยาน สีกายแดง บางตำราก็ว่าเหลือง ปกติมี ๔ กร บางตำราว่ามี ๖ หรือ ๘ กร ของที่ถือในมือ...มีขอช้าง บ่วงบาศ งาหัก ขนมต้ม หม้อน้ำ ดอกบัว ส้ม สังข์ จักร หลาว ธนู ลูกธนู คทา ขวาน ลูกประคำ งู ทับทิม หัวผักกาด สมุดหนังสือ และเหล็กจาร ที่มาของการถือเหล็กจาร ว่ากันว่า มหากาพย์เรื่อง มหาภารตะ...ที่วยาสฤาษี เล่าจากปากนั้น พระคเณศเป็นผู้เขียนเป็นตัวหนังสือ ตามศัพท์...“คเณศ ” แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในคณะ... มีความหมายเดียวกับ “นายกรัฐมนตรี” ที่แปลว่าผู้นำมนตรี...ในเมืองไทย... หน้าที่ก็รับใช้ทุกฝ่าย รับใช้สารพัดเทพเจ้า เอาใจพ่อค้านายทุน แล้วก็ยังต้องรับใช้เอาใจชาวบ้าน ไม่แปลก...ที่เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่...จาก บุรุษรูปงาม...สะโอดสะอง จึงถูกจินตนาการตกแต่งให้เป็นพิการ...หัวเป็นช้าง งาหักไปข้างหนึ่ง ทั้งพุงก็พลุ้ย... มนุษย์นั้น ถ้าเป็นพ่อค้า เป็นชาวบ้าน รับราชการ เป็นทหาร...ก็ยังคงลักษณะเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่ได้ แต่ถ้าวันหนึ่งวันใด... เป็นนักการเมือง ก็จะถูกอุปโลกน์ให้เป็นอะไรก็ได้สารพัดสารพัน จนถึงพิกลพิการไปก็มี. (http://www.sookjaipic.com/images_upload/44548849885662_3.JPG) ภาพจาก : วัดศรีสุพรรณ ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (ศูนย์เรียนรู้ศิลปะหัตถกรรมการตีเครื่องเงินที่สืบทอดมาแต่โบราณ) บทความโดย 'บาราย' หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ |