|
หัวข้อ: วุฏฐิสูตร เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 02 มีนาคม 2554 20:13:04 (http://www.taklong.com/pictpost/r/78753IMG0037.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma http://7star2011.wordpress.com/2010/11/27/ (http://7star2011.wordpress.com/2010/11/27/) ก่อนอื่นควรทราบว่า{ภาวนา}หมายถึงการอบรมความดีให้มากขึ้นโดยที่ ความดีนั้นมาจากการเจริญขึ้นของปัญญาด้วย ไม่ใช่การทำ แต่มาจากความเข้าใจถูก ที่เกิดจากการฟัง การศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดง ซึ่งการที่ผู้ใดจะเจริญภาวนาโดยมีใจหนักแน่น ไม่หวั่นไหวเสมอด้วยแผ่นดิน เสมอด้วยน้ำ เสมอด้วยไฟ และเสมอด้วยลม ได้นั้นผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่อบรมปัญญา ถ้าไม่อบรมปัญญาก็ไม่สามารถจะถึงความเป็นผู้มีใจเช่นนั้นได้ และต้องอบรมจนกว่าจะ ค่อย ๆ มีปัญญามากขึ้นด้วย จึงจะสามารถน้อมไปสู่ความเป็นผู้ไม่เดือดร้อน - ไม่หวั่นไหว ไม่อึดอัด ไม่ระอา ไม่เกลียดชัง เมื่อได้รับกระทบกับสิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็นสิ่งที่น่าพอใจ และ สิ่งที่ไม่น่าพอใจทั้งหลายได้ มูลเหตุของเรื่องนี้คือในครั้งนั้น พระภิกษุรูปหนึ่ง ถูกชายจีวรของท่านพระ - สารีบุตร ปลิวไปกระทบตนเข้าจึงผูกอาฆาตท่านพระสารีบุตร และเมื่อพระภิกษุรูปนี้ ได้เห็นท่านพระสารีบุตรออกไปพร้อมกับภิกษุผู้เป็นบริวารของท่านเป็นอันมากบังเกิด ความริษยาจึงได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบสิ่งที่เกิดกับตนแต่สำหรับ ท่านพระสารีบุตรนั้นท่านเป็นผู้มีปรกติ{เจริญกายคตาสติระลึกรู้ธรรมที่ปรากฏที่กาย} ท่านไม่มีอกุศลจิตไม่มีความหลงลืมสติ ท่านไม่มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใครและท่าน จะไม่หลีกไปโดยไม่ขอโทษแน่นอน ถ้าหากว่าท่านได้มีการกระทำอย่างนั้นจริงเรื่อง นี้เป็นเหตุให้ท่านพระสารีบุตรได้บันลือสีหนาท ประกาศถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่าง สูงยิ่งของท่านไว้อย่างไพเราะคุณธรรมของท่านเป็นแบบอย่างที่ดีมากสำหรับผู้ที่ ศึกษาพระธรรมทุกรุ่นที่ควรจะเป็น{อนุสสติ}ใฝ่ใจให้ระลึกถึงบ่อย ๆ เพื่อเตือนใจให้ตั้ง จิตไว้ชอบ เพื่่อจะได้ศึกษาพระธรรม และน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมที่ได้เข้าใจ ด้วยความเคารพด้วยความเป็นผู้ว่าง่ายอ่อนน้อมถ่อมตนไม่เย่อหยิ่ง ไม่จองหอง ไม่ ยกตนข่มผู้อื่นและเคารพในคุณธรรมของผู้ที่มีคุณธรรม สนทนาธรรมที่มูลนิธิบ้านธรรมะ บุคโล ธนบุรี ท่านใดมีความประสงค์จะฟังปาฐคาถาธรรมเรียนเชิญสอบถามที่มูลนิธิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทรัพย์ ๗ ประการนี้ ๗ ประการ เป็นไฉน คือ ทรัพย์คือ............................. ศรัทธา ๑ ศีล ๑ หิริ ๑ โอตตัปปะ ๑ สุตะ ๑ จาคะ ๑ ปัญญา ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายก็ทรัพย์คือศรัทธาเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีศรัทธาคือ................ เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตว่าแม้เพราะเหตุนี้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ เป็นผู้ตื่นแล้วเป็นผู้จำแนกธรรมนี้เรียกว่า ทรัพย์คือ..........ศรัทธา http://7star2011.wordpress.com/2010/11/27/%E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3/ (http://7star2011.wordpress.com/2010/11/27/%E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B8%8F%E0%B8%90%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3/) |