หัวข้อ: พระราชวังบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 16:09:06 .
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/82299414608213_a1.jpg) พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งปราสาทโถงกลางน้ำ สร้างในแบบจตุรมุข พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จำลองแบบมาจาก พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เดิมสร้างด้วยไม้ทั้งองค์ต่อมา รัชกาลที่ ๖ โปรดฯ ให้เปลี่ยนเสาและพื้น เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด พระราชวังบางปะอิน ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มาตั้งแต่วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ.๑๘๙๓ เป็นเวลายาวนานถึง ๔๑๗ ปี จนถึงวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๓๑๐ จึงสูญเสียเอกราชให้แก่พม่า มีหลักฐานว่า อดีตราชธานีของสยามแห่งนี้เป็นเมืองในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๘ โดยมีร่องรอยของที่ตั้งเมือง โบราณสถาน โบราณวัตถุ และเรื่องราวเหตุการณ์ในลักษณะตำนานพงศาวดาร ไปจนถึงหลักศิลาจารึก ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานร่วมสมัยที่ใกล้เคียงเหตุการณ์มากที่สุด เมืองอโยธยา หรืออโยธยาศรีรามเทพนคร หรือเมืองพระราม มีที่ตั้งอยู่บริเวณด้านตะวันออกของเกาะเมืองอยุธยา เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร บ้านเมืองมีความเจริญทางการเมือง การปกครอง มีวัฒนธรรมที่รุ่งเรือง มีวีรกรรมการกอบกู้เอกราช มีการบังคับใช้กฎหมายในการปกครองบ้านเมือง ๓ ฉบับ คือพระอัยการลักษณะเบ็ดเสร็จ พระอัยการลักษณะทาส และพระอัยการลักษณะกู้หนี้ โดยมีพระมหากษัตริย์ปกครองอาณาจักรสืบต่อกันมา ๓๓ พระองค์ มีราชวงศ์ผลัดเปลี่ยนกันครองอาณาจักร รวม ๕ ราชวงศ์ ได้แก่ ๑.ราชวงศ์อู่ทอง ๓ พระองค์ ๒.ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ๑๓ พระองค์ ๓.ราชวงศ์สุโขทัย ๗ พระองค์ ๔.ราชวงศ์ปราสาททอง ๔ พระองค์ ๕.ราชวงศ์บ้านพลูหลวง ๖ พระองค์ จะเห็นได้ว่าพระนครศรีอยุธยาปัจจุบันนี้ ยังคงปรากฏหลักฐานและร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและน่าสนใจมากมาย เช่น เจดีย์ วัดวาอาราม ปราสาทราชวัง คูเมือง กำแพงเมือง ป้อมปราการ ฯลฯ ที่แสดงถึงอัจฉริยภาพและความสามารถของบรรพบุรุษ จนได้รับการพิจารณาจากยูเนสโก ขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๓๔ ในนาม นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ ๑๕ ปี พ.ศ.๒๕๓๔ ณ เมืองคาร์เธจ ประเทศตูนิเซีย ไม่เฉพาะพื้นที่มรดกโลกที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่และโบราณสถานที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของชนชาติไทยในอดีตเท่านั้น แต่พระนครศรีอยุธยายังมีของดีที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง โดยหนึ่งในนั้นก็คือ “พระราชวังบางปะอิน” พระราชวังที่ใหญ่โตและสวยงามมากแห่งหนึ่งในเขตอำเภอบางปะอิน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตตำบลบ้านเลน (เป็นชื่อเดิมของบางปะอิน) ภายในเขตพระราชวังเต็มไปด้วยสิ่งสวยงามน่าชมมากมาย ที่สำคัญคือ หอเหมมณเฑียรเทวราช มีลักษณะแบบปรางค์ขอม พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ประตูเทวราชครรไล ศาลาพลับพลาประพาส พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระที่นั่งวิทูรทัศนา พระที่นั่งเวหาสน์จำรูญ อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ บ้านเลน แต่ก่อนมีสภาพเป็นเกาะ เป็นชื่อเดิมของอำเภอบางปะอิน เรียก “เกาะบ้านเลน” และต่อมาเรียก “เกาะบางปะอิน” เล่ากันว่า “เกาะบ้านเลน” เคยเป็นสถานที่เกิดตำนานรักระหว่างเจ้านายสูงศักดิ์กับหญิงสาวชาวบ้าน สมัยที่สมเด็จพระเอกาทศรถยังดำรงตำแน่งวังหน้า ครั้งหนึ่งระหว่างเสด็จตามลำน้ำเกิดพายุเรือพระที่นั่งล่มบริเวณเกาะบ้านเลน ทรงว่ายน้ำขึ้นฝั่งและพักแรมบนเกาะ ได้พบรักกับหญิงสาวชาวบ้านชื่ออออิน กำเนิดบุตรเป็นชายเรียกชื่อว่า”พระองค์ไล” ทรงรับมาเลี้ยงไว้ในพระราชวังหลวง ได้เป็นออกญากลาโหม และต่อมาได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ พระนามว่า “พระเจ้าปราสาททอง” (http://www.sookjaipic.com/images_upload/97388461397753_2.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/44345319933361_3.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/26863338467147_a9.jpg) พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร อยู่ทางทิศตะวันออกตรงข้ามกับสระน้ำ เป็นพระที่นั่งเรือนไม้หมู่ทั้งชั้นบนและชั้นล่างมีเฉลียงตามแบบชาเลตของสวิส ทาสีเขียวอ่อนแก่สลับกันด้วยงานช่างที่ประณีต สิ่งประดับตกแต่งภายใน ประกอบด้วย เครื่องไม้มะฮอกกานี จัดสลับลายทองทับที่สั่งจากยุโรปทั้งสิ้น นอกนั้นเป็นสิ่งของหายากในประเทศ อันเป็นเครื่องราชบรรณาการจากหัวเมืองต่างๆ ทั่วราชอาณาเขตรอบๆ มีสวนดอกไม้สวยงาม เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรได้เกิดเพลิงไหม้ขณะที่มีการซ่อมรักษาเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๑ ทำให้พระที่นั่งถูกทำลายไปกับกองเพลิงหมดสิ้นทั้งองค์ คงเหลือแต่หอน้ำ ปัจจุบันได้สร้างขึ้นใหม่ตามแบบเดิมทุกประการ แต่เปลี่ยนวัสดุจากไม้เป็นอาคารคอนกรีตแทน (http://www.sookjaipic.com/images_upload/94867292626036_4.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/94410911699136_5.JPG) หอวิฑูรทัศนา เป็นพระที่นั่งหอสูงยอดมน ตั้งอยู่กลางเกาะน้อย ในสวนเขตพระราชวังชั้นในระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร กับพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่ง ๓ ชั้น มีบันไดเวียน เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศบ้านเมืองโดยรอบ สร้างในรัชกาลที่ ๕ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๒๔ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/27591001863280_6.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/61480231293373_7.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/47741112609704_8.JPG) พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของพระราชวังถัดจากหอวิฑูรทัศนาขึ้นไป พระที่นั่งองค์นี้มีนามเป็นภาษาจีนว่า "เทียน เม่ง เต้ย" (เทียน=เวหา, เม่ง=จำรูญ, เต้ย=พระที่นั่ง) ประชาชนทั่วไปเรียกว่า "เก๋งจีน" เพื่อเป็นพระที่นั่ง สำหรับประทับในฤดูหนาว โดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีนในไทยสร้างถวาย รัชกาลที่ ๕ ในปี พ.ศ.๒๔๓๒ ลักษณะเป็นพระที่นั่งศิลปะแบบจีน ที่มีลายแกะสลักได้อย่างงดงามวิจิตรยิ่ง โถงด้านหน้าปูด้วยกระเบื้องแบบกังไส เขียนภาพด้วยมือทุกชิ้น แม้ว่าภาพจะเหมือนกันแต่เนื่องจากเป็นงานฝีมือ จึงมีความแตกต่างกันในรายละเอียด ที่ทำให้ดูสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง ปัจจุบันเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/89061715743607_9.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/69201003304786_a12.jpg) พระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นท้องพระโรงอยู่ทางตอนเหนือของ "สะพานเสด็จ" ซึ่งเป็นท่าน้ำสำหรับเสด็จพระราชดำเนินขึ้นลง เดิมเป็นเรือนไม้สองชั้น เป็นที่ตั้งประทับและท้องพระโรงร่วมกัน ต่อมารัชกาลที่ ๕ โปรดฯให้รื้อสร้างใหม่ เป็นอาคารทรงวิหารกรีกแบบคอรินเธียรออร์เดอร์ ใช้เป็นท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกขุนนาง ในงานพระราชพิธี สร้างเสร็จในปี พ.ศ.๒๔๑๙ เคยเป็นที่รับรองแขกเมืองหลายครั้ง เช่นปี พ.ศ.๒๔๖๓ รับรองพระเจ้าชาร์ลคลัสแห่งประเทศรัสเซีย ปี พ.ศ.๒๔๓๖ รับรองมองซิเออราวีร์ ฑูตฝรั่งเศส และปี พ.ศ.๒๔๕๒ รับรองดุ๊กและดัชเชสโยฮันเบรต แห่งเมืองบรันทวีท แห่งประเทศเยอรมัน ถึงในปัจจุบัน ก็ยังใช้เป็นที่รับรองแขกเมืองสำคัญอยู่เสมอ สิ่งสำคัญในพระที่นั่ง เป็นภาพชุดพระราชพงศาวดาร กับภาพเรื่องอิเหนา พระอภัยมณี และรามเกียรติ์ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/65023171115252_10.JPG) อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (อนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม) ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระราชวัง ก่อสร้างด้วยหินอ่อนก่อเป็นแท่ง ๖ เหลี่ยม สูง ๓ เมตร บรรจุพระสริรังคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (http://www.sookjaipic.com/images_upload/21122090559866_11.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/66585469411479_a8.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/20014947652816_38.jpg) อนุสาวรีย์พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์และเจ้าฟ้าสามพระองค์ หรืออนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ ในปี พ.ศ.๒๔๓๐ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเศร้าโศก เสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งหนึ่ง ด้วยทรงสูญเสียพระอัครชายาเธอฯ พระราชโอรสและพระราชธิดา ถึง ๓ พระองค์ ในปีเดียวกัน คือ สมเด็จเจ้าฟ้าสิริราชกกุธภัณฑ์ เมื่อ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๓๐ พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์ เมื่อ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๐ สมเด็จเจ้าฟ้าพาหุรัตมณีชัย เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ๒๔๓๐ และสมเด็จเจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตมดำรง เมื่อ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๓๐ ดังนั้นในปี พ.ศ.๒๔๓๑ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์ที่ระลึกทำด้วยหินอ่อน แกะสลักพระรูปเหมือนไว้ใกล้กับอนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี (http://www.sookjaipic.com/images_upload/74769426923659_13.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/72268303483724_14.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/44962602977951_15.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/46656619260708_16.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/29341994639899_a10.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/19231536197993_a11.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/43690921738743_a13.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/65989689777294_17.JPG) หัวข้อ: Re: พระราชวังบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 24 มีนาคม 2559 13:44:15 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/11181821715500_a2.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/14105324985252_a3.jpg) พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๒๔ แห่งกรุงศรีอยุธยา (ครองราชย์ พุทธศักราช ๒๑๗๒-๒๑๙๙) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังบางปะอินในบริเวณที่ร่มรื่นบนเกาะบางปะอิน กลางแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อันเป็นพระราชเคหสถานเดิมของพระองค์ พระมหากษัตริย์หลายพระองค์ในสมัยอยุธยาได้ประพาสพระราชวังบางปะอินเสมอมา จวบจนสิ้นกรุงศรีอยุธยาพระราชวังแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้างไป ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังพระราชวังบางปะอิน ทรงมีพระราชดำริให้รื้อฟื้นความงดงามของพระราชวังบางปะอินให้ปรากฏอีกครั้งหนึ่ง จึงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์พระราชวังเดิมและวัดชุมพลนิกายาราม และให้สร้างพระที่นั่งขึ้นกลางสระน้ำ พระราชทานนามว่า “พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์” ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยในพระราชวังบางปะอินเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีความร่มรื่นด้วยสวนมะม่วง เงียบสงบ และอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ แล้วสร้างพระตำหนักและพระที่นั่งเพิ่มขึ้นอีกหลายองค์ โดยเสด็จพระราชดำเนินมาประพาสเพื่อสำราญพระราชอิริยาบถส่วนพระองค์และรับรองพระราชอาคันตุกะอยู่เสมอตลอดรัชกาล พระราชวังบางปะอินมีศิลปะสถาปัตยกรรมที่งดงามแปลกตาน่าชม เนื่องจากแสดงถึงลักษณะของศิลปะสถาปัตยกรรมนานาชาติ ตั้งแต่ไทย ยุโรป จีน และเขมรโบราณ ภายในพระราชวังยังประกอบด้วยพระนั่งและอาคารสำคัญซึ่งมีนามคล้องจองกัน ๕ องค์ ได้แก่ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพอาสน์ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระที่นั่งเวหาสน์จำรูญ หอวิฑูรทัศนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประทับพระราชวังบางปะอินหลายครั้ง ทรงใช้เป็นสถานที่รับรองพระราชอาคันตุกะระดับประมุขของประเทศหลายพระองค์ พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะพระนั่งและอาคารต่างๆ ในพระราชวังบางปะอินให้มีสภาพสวยงามมั่นคงแข็งแรง โดยเฉพาะในพุทธศักราช ๒๕๓๗ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรขึ้นใหม่โดยใช้วัสดุคอนกรีตตามแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกของพระที่นั่งองค์เดิมซึ่งทำด้วยไม้แต่ถูกเพลิงไหม้เสียหายไปแล้ว เมื่อพุทธศักราช ๒๔๘๑...ที่มา - นิตยสารศิลปากร (http://www.sookjaipic.com/images_upload/67678457953863_a4.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/15388706781797_a5.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/54564236270056_a6.jpg) เหมมณเฑียรเทวราช เป็นศาลประดิษฐานเทวรูป รัชกาลที่ ๕โปรดให้สร้างขึ้นตรงศาลเดิม ที่ชาวบ้านสร้าง อุทิศถวายสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง -------------------- (http://www.sookjaipic.com/images_upload/34422078521715_b1.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/15384996765189_b2.JPG) พระตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (http://www.sookjaipic.com/images_upload/67062036982840_b1.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/17128305385510_b2.JPG) พระตำหนักสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี (http://www.sookjaipic.com/images_upload/18446680034200_b6.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/79347877369986_b7.JPG) พระตำหนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/46297891851928_b5.JPG) เรือนเจ้าจอม เอี่ยม เอิบ อาบ เอื้อน เจ้าจอมมารดาอ่อน (http://www.sookjaipic.com/images_upload/60870524909761_b3.JPG) เรือนเจ้าจอมมารดาแส หมู่พระตำหนักและเรือนพัก ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นในของพระราชวังบางปะอิน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น สำหรับเป็นที่ประทับและพำนักของเจ้านายฝ่ายในเมื่อเสด็จแปรพระราชฐาน ณ พระราชวังแห่งนี้ |