หัวข้อ: หลวงพ่อบัวทอง ปัญญาทีโป วัดโพธิ์ศรีบ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 03 มีนาคม 2559 18:56:00 .
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/11374747339222_1.jpg) หลวงพ่อบัวทอง ปัญญาทีโป อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีบ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม "หลวงพ่อบัวทอง ปัญญาทีโป" อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีบ่อใหญ่ และรองเจ้าคณะตำบลบ่อใหญ่ ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีเมตตาธรรมสูง อยู่ในศรัทธาชาวมหาสารคามมายาวนาน เกิดในสกุล สาเกตุ เมื่อปี 2472 ณ บ้านบ่อใหญ่ ต.บ่อใหญ่ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ในวัยเยาว์ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ต้องออกมาช่วยงานครอบครัว อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่อุโบสถวัดโพธิ์ศรีบ่อใหญ่ มีพระครูบริรักษ์ธรรมกิตติ เจ้าคณะอำเภอบรบือ เป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังอุปสมบท เดินทางไปจำพรรษาศึกษาพระปริยัติธรรมและบาลีที่สำนักเรียนวัดบ้านฝาง จ.ขอนแก่น มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก แต่ในพรรษาที่ 5 ท่านจำต้องลาสิกขา เพื่อช่วยครอบครัวเลี้ยงชีพ ต่อมาได้แต่งงาน มีบุตร 1 คน ใช้ชีวิตครอบครัวในเวลาเพียงไม่กี่ปีบุตรและภรรยาได้เสียชีวิตไล่เลี่ยกัน พ.ศ.2507 ท่านจึงตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง ที่อุโบสถวัดโพธิ์ศรีบ่อใหญ่ มีพระครูบริรักษ์ธรรมกิตติ เจ้าคณะอำเภอบรบือ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อบัวทอง เป็นพระที่เคร่งในปฏิบัติพระธรรมวินัย มีความสำรวมตามคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า หลังออกพรรษา หากมีเวลาว่าง กิจนิมนต์น้อย ท่านจะออกธุดงค์ไปตามป่าเขาแถบภาคอีสาน เพื่อแสวงหาความหลุดพ้น ด้วยวัตรปฏิบัติดีเสมอต้นเสมอปลาย หลวงพ่อบัวทอง เริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันจะมีญาติโยมในพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมากราบ นมัสการอย่างล้นหลาม คณะศิษยานุศิษย์ที่มาหาต่างคุ้นเคยในจริยวัตรอันงดงามของท่าน ทำให้ชื่อเสียงของท่านขจรไปไกล สำหรับหลักธรรมที่หลวงพ่อพร่ำสอนญาติโยม จะเน้นให้รักษาศีล 5 และอย่าดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ถึงแม้เกิดแก่ เจ็บ ตาย สัตว์โลกไม่สามารถหลีกพ้นได้ แต่การไม่ประมาท สามารถทำให้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข หลวงพ่อบัวทอง ยังเป็นพระนักพัฒนาอันทรงคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาอย่างมากมาย สิ่งปลูกสร้างต่างๆ อาทิ พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กำแพงแก้ว กุฏิ หอกลอง เมรุ เป็นต้น ยังนำพาพระภิกษุ-สามเณร ปรับปรุงพัฒนาภายในบริเวณวัด ให้มีแต่ความสงบร่มรื่นสวยงามโดยปลูกต้นไม้ และอนุรักษ์ป่าไม้เดิมเอาไว้เต็มวัด ทำให้ทั่วบริเวณมีแต่ความสงบวิเวกเหมาะสมกับการเจริญภาวนายิ่ง นอกจากนี้ ยังมีความสามารถทางด้านการแต่งกาพย์กลอน โดยเฉพาะกลอนลำอีสาน อีกทั้งยังได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาพระปริยัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ท่านสนับสนุนปัจจัยการเรียนการสอนให้กับสำนักเรียนวัดโพธิ์ศรีบ่อใหญ่ พระภิกษุ-สามเณรรูปใดเรียนเก่งท่านจะส่งเสริมมอบทุนการศึกษาให้ทุกปี สำหรับตำแหน่งทางด้านปกครอง พ.ศ.2518 ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีบ่อใหญ่ พ.ศ.2520 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะตำบลบ่อใหญ่ ช่วงปัจฉิมวัย หลวงพ่อมีอาการอาพาธบ่อยครั้ง แต่ท่านจะไม่ค่อยยอมเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากไม่ต้องการสร้างภาระให้กับญาติโยมและลูกศิษย์ สุดท้าย หลวงพ่อบัวทอง มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2541 สิริอายุ 69 พรรษา 36 ก่อนมรณภาพ หลวงพ่อบัวทองได้เขียนจดหมายถึงเจ้าคณะตำบลบ่อใหญ่ ความว่า "หากอาตมาเสียชีวิตลง อย่าได้พิมพ์การ์ดแจกชาวบ้าน ไม่ต้องการปัจจัยจากพุทธศาสนิกชนมาฌาปนกิจสังขาร เพราะญาติโยมส่วนใหญ่ล้วนยากจน แต่ขอให้นำปัจจัยของอาตมาที่มี ออกมาทำบุญให้หมด" ทุกวันนี้ยังคงรำลึกถึงคุณงามความดีตลอดมา อริยะโลกที่ 6 |