|
หัวข้อ: น้ำทับทิม เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 13 มีนาคม 2559 18:39:30 น้ำทับทิมมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ มีสารที่สามารถป้องกันผิว ไม่ให้โดนรังสีอุลตร้าไวโอเลตทำร้ายได้ และยังช่วยเสริมสุขภาพ เป็นน้ำผลไม้ที่อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก แคลเซียม และแมกนิเซียมซึ่งเป็นธาตุอาหารที่สำคัญของร่างกาย (http://healthlover.net/wp-content/uploads/2013/01/น้ำทับทิม.jpg) ประโยชน์ของน้ำทับทิม จากอรรถาธิบายของ ดร.ณัฐพล ตั้งสุภูมิ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ว่า น้ำทับทิมมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระมากเกือบ ๓ เท่าของชาเขียวและไวน์แดงในปริมาณที่เท่ากัน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินซี วิตามินบี ๕ และโพแทสเซียม และยังมีงานวิจัยบอกว่า ดื่มน้ำทับทิมเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดความดันโลหิต ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและการติดเชื้อจากไวรัส ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ลูคีเมีย เบาหวาน ไปจนถึงลดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง อย่างไรก็ตาม น้ำทับทิมในท้องตลาดมีปริมาณน้ำตาล ๑๑-๑๒% ซึ่งนับว่าอยู่ในเกณฑ์สูง จึงควรบริโภคแต่พอดี ไม่มากจนเกินไป ยังมีความรู้จากเอกสารเผยแพร่ฉบับประชาชน ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ว่า ทับทิม ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum Linn. ชื่อท้องถิ่น เซียะลิ้ว พิลา พิลาขาว มะก่องแก้ว มะเก๊าะ หมากจัง เป็นไม้พุ่ม ปลายกิ่งอ่อนโค้งเล็กและมักมีหนามแหลม ใบเดี่ยว ออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน รูปรีแกมขอบขนาน โคนใบสอบแคบ ปลายใบกว้าง เนื้อใบบางและเป็นมัน ดอกเดี่ยวหรือช่อออกตามปลายกิ่ง กลีบดอกสีส้มแดง ร่วงง่าย กลีบรองดอกหนาแข็ง สีส้มแกมเหลือง โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายหลอดจักเป็นฟันเลื่อยและโค้งออก ผลกลมโต ผิวนอกแข็งเป็นมัน สีเขียวอมเหลือง สีแดงอมน้ำตาล หรือสีทับทิม เมื่อแก่จะแตกอ้าออก เมล็ดมีเนื้อเยื่อใสสีขาวอมชมพูหรือสีแดงหุ้มอยู่ สำหรับส่วนที่ใช้เป็นยา เปลือกผลทับทิมมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะฤทธิ์ต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร อาหารเป็นพิษ และอุจจาระร่วง จะยืดระยะเวลาจากเริ่มถ่ายครั้งแรกและลดการถ่ายเหลว นอกจากนี้ยังมีผลยับยั้งการเคลื่อนตัวของลำไส้ ทั้งนี้ กลไกในการยับยั้งอาการท้องเสียของเปลือกผลทับทิมอาจเกิดจากการเพิ่มการดูดซึมของน้ำในลำไส้ หรือลดการขับน้ำออกสู่ลำไส้ และลดการบีบตัวของลำไส้ ส่วนน้ำทับทิมช่วยป้องกันการทำลายเนื้อเยื่อในลำไส้เล็กและลดการถ่ายเหลวเนื่องจากเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียก่อโรคอาหารเป็นพิษ และกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันและช่วยระบบขับถ่าย ทั้งพบว่าน้ำทับทิมมีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในเลือดของผู้ป่วยไขมันในเลือดสูง ลดระดับการเกิดออกซิเดชั่นของไขมัน และช่วยเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในเลือด สำหรับฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดนั้นมีรายงานว่า ดอก เมล็ด น้ำทับทิม สารสกัดจากเปลือกทับทิม และสารสำคัญจากทับทิม มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด โดยเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นและยับยั้งการดูดซึมและการสร้างกลูโคส ยับยั้งเอ็นไซม์กลูโคซิเดส และกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากเซลล์ตับอ่อน น้ำมันจากเมล็ดและสารสกัดจากเปลือกผลทับทิมมีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวหนัง โดยกระตุ้นการสร้างและยับยั้งการทำลายคอลลาเจน และพบว่าสารสกัดทับทิมช่วยยับยั้งไม่ให้ผิวคล้ำเนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตในหนูได้ และป้องกันการทำลายผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตชนิดเอ ขณะที่สารสกัดจากดอกและเปลือกทับทิม ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ สารจากผลทับทิมยังสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบ ปวดบวม และสารสกัดด้วยเอทานอลและน้ำจากผลทับทิมสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียจากคราบหินปูนบนฟัน ด้านโทษ อาจทำให้แพ้ มีรายงานการแพ้ในคนที่รับประทานผลสดของทับทิม โดยจะเกิดผื่นลมพิษ บวมที่ลิ้น ริมฝีปาก มือ แขน ใบหน้า คันตา ตาแดง ระคายเคืองจมูก หายใจลำบาก และเกิดภาวะแพ้รุนแรง และยังมีรายงานว่าเด็กที่รับประทานเมล็ดทับทิมแล้วเกิดอาการหอบหืด นอกจากนี้การทดสอบการแพ้ทางผิวหนังของผลสด พบว่ามีอาการแพ้ |