หัวข้อ: the dharma chapter place เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 07 เมษายน 2553 18:34:02 (http://img502.imageshack.us/img502/7629/dark1a.jpg) http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/02.%20Track%202.wma .....................การฆ่าตัวตายบาปมากแค่ไหนมาดูกัน........................... ฆ่าตัวตายเค้าว่าจะต้องตามไปฆ่าตัวเอง อีก 500 ชาติ เคยมีเรื่องราวสมัยพุทธกาลเล่าว่า มีพระรูปหนึ่งจะมาลาพระพุทธเจ้าไปเผยแผ่ศาสนา ก่อนไปพระพุทธเจ้าถามพระองค์นั้นว่า.............................................. ตถาคต -> ถ้ามีคนมาว่าท่านหละ ภิกษุ --> เขามามาว่าเราก็ดีกว่าเขาเอาก้อนดินมาปา ตถาคต --> ถ้าเขาเอาก้อนดินมาปาท่านหละ ภิกษุ --> เขาเอาก้อนดินมาปาก็ดีกว่าเขาเอาไม้มาตี ตถาคต --> ถ้าเอาไม้มาตีท่านหละ ภิกษุ --> เขาเอาไม้มาตีก็ดีกว่าเขาเอามีดมาฟันให้บาดเจ็บ ตถาคต --> ถ้าเขาทำให้ท่านบาดเจ็บหละ ภิกษุ --> เขาทำให้บาดเจ็บก็ดีกว่าเขาฆ่าเราให้ตาย ตถาคต --> ถ้าเขาฆ่าท่านให้ตายหละ ภิกษุ--> เขาฆ่าเราให้ตายก็ดีกว่าเราฆ่าตัวตาย ......................พระพุทธเจ้าจึงอนุญาติให้พระองค์นั้นไปตามแคว้นอื่นได้..................... หัวข้อ: Re: the dharma chapter place เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 07 เมษายน 2553 18:38:36 (http://img502.imageshack.us/img502/7629/dark1a.jpg) .................................โทษของการฆ่าตัวตาย....................... <-- ถาม –->การฆ่าตัวตายถือเป็นปาณาติบาตหรือเปล่า ? ...................................<--คำตอบ-->.............................. การฆ่าตัวตายไม่ใช่ปาณาติบาต แต่เป็นอัตวินิบาต เป็นกรรมคนละอย่างปาณาติบาตคือปลงชีวิตสัตว์อื่น มีผลให้ชีวิตของสัตว์อื่นขาดก่อนถึงอายุขัย พรากสิทธิ์ในการมีชีวิตไปจากเขา โดยเฉพาะหากเขามีบุญมาก ก็เท่ากับตัดโอกาสเสวยสุขของเขาทิ้งทั้งยวงส่วนอัตวินิบาตคือการปลงชีวิตตนเอง มีผลให้ไม่ได้ใช้กรรมที่ควรใช้ก่อนถึงอายุขัย โดยเฉพาะหากมีบาปมาก ก็เท่ากับพยายามแหกคุกเพื่อหนีโทษด้วยทางลัดการไม่ รอให้มีการล้างไพ่ใหม่ตามกาลจัดเป็นการตัดตอนสร้างปมยุ่งเหยิงขึ้นไม่ให้เป็นไปตามวิถีธรรมชาติกรรมวิบากเปรียบกับหนี้ก็ซับซ้อนกว่าหนี้ชนิด ไหน ๆ เนื่องจากการทบหนี้กรรมนั้นแตกต่างจากการทบต้นทบดอกของหนี้สินเงินทองมาก ถ้าคุณฆ่าคนมีบุญ โอกาสเสวยบุญของเขาที่ถูกตัดทิ้งย่อมสะท้อนกลับมาเป็นความหมดโอกาสเสวยบุญของคุณเช่นกัน คุณจะมีอายุมากในอัตภาพที่เป็นทุกข์ แต่จะมีอายุสั้นในอัตภาพที่เป็นสุข และถ้าฆ่าตัวเองขณะต้องใช้บาป การหนีโทษย่อมเป็นการเพิ่มโทษในตัวเอง ทุกข์ที่ยังไม่เสวยก็ต้องเสวยอยู่ดี แถมพ่วงทุกข์อันเกิดจากการพยายามแหกคุกเข้าไปอีกกระทง นั่นคือแทนที่จะต้องทนทุกข์ในสภาพมนุษย์ตามเดิม ก็ต้องไปทนทุกข์ในสภาพเปรต สภาพเดรัจฉาน หรือสภาพสัตว์นรก ซึ่งเป็นอัตภาพที่แย่หนักเข้าไปใหญ่ ข้อแตกต่างระหว่างปาณาติบาตกับอัตวินิบาตยังมีอีกมาก เช่น ปาณาติบาตมีผลในกาลต่อไปเป็นความโหดเหี้ยมของจิตใจ มีใบหน้าเหี้ยมเกรียม มีความเดือดร้อนเรื่องสุขภาพกาย อาจถูกรังแก อาจถูกฆ่าให้ตายก่อนวัยอันควร ส่วนอัตวินิบาตมีผลในกาลต่อไปเป็นความอ่อนแอทางใจมีใบหน้าเศร้าหมอง มีความเดือดร้อนเรื่องสุขภาพจิต คิดมากและน้อยใจเก่ง รู้สึกอ่อนแอ อยากตายด้วยเหตุบีบคั้นแค่ง่าย ๆ เป็นต้น การฆ่านั้น ไม่ว่าฆ่าผู้อื่นหรือฆ่าตนเอง ย่อมได้ชื่อว่าทำจิตให้เศร้าหมอง เมื่อจิตเศร้าหมองย่อมมีคติวิบัติเป็นที่หวัง แต่หากฆ่าตนเองโดยไม่มีจิตเศร้าหมอง ทำจิตให้ขาดจากอุปาทานว่าเป็นตัวตน อันนั้นพระพุทธเจ้าสรรเสริญ การสิ้นชีวิตขณะไร้อุปาทานไม่ถือเป็นบาปด้วยประการทั้งปวง ที่ทำอย่างนั้นได้ก็มีแต่ผู้ศึกษาธรรมจนเข้าใจ และปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงแล้วเท่านั้น |