หัวข้อ: ต้นตระกูลหมาสิงห์โต หรือ หมาปักกิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 25 สิงหาคม 2559 18:15:10 (http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2010/03/J8967431/J8967431-31.jpg) ต้นตระกูลหมาสิงห์โต หรือ หมาปักกิ่ง หมาสิงห์โต (Lion dogs) ตัวกระจ้อยร่อย ขนยาวรุงรังที่เราเรียกกันว่า “หมาปักกิ่ง” แม้ตัวมันจะกระจิริด แต่ใจเติบกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวนัก สมกับที่เป็นสุนัขของจักรพรรดินีจีนในสมัยโบราณ ประวัติและความเป็นมาของต้นตระกูลมันก็พิลึกกึกกือเป็นที่สุด ในปี ๑๘๖๐ เมื่อกองทหารอังกฤษและกองทหารฝรั่งเศสบุกนครปักกิ่ง อันเนื่องมาจากกรณีพิพาททางการค้านั้น ทหารจีนสู้รบป้องกันนครหลวงของตนด้วยสรรพาวุธบรรดามีอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่อาจต่อกรกับอาวุธสมัยใหม่ เช่น ปืนไรเฟิล และปืนใหญ่ของชาติมหาอำนาจผิวขาวได้ ก็แตกพ่ายกระเจิงไป องค์จักรพรรดิเสด็จหนีจากนครหลวง ทิ้งพระราชวังและทรัพย์สินเหลือคณนานับไว้เบื้องหลัง ทหารผิวขาวบุกเข้าไปในพระราชวังอันเป็นที่ประทับขององค์จักรพรรดิอย่างเหิมเกริม ไม่ประสบพบใครในวังเลยสักคนเดียว บุกไปจนกระทั่งถึงห้องๆ หนึ่งซึ่งกั้นไว้ด้วยม่านไม้ไผ่อันวิจิตรก็แหวกม่านมองเข้าไป ภายในห้องอันเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ องค์จักรพรรดินีบรรทมอยู่กลางกองเลือด ฉลองพระองค์ชุ่มโชกด้วยพระโลหิต พระนางทรงกระทำอัตวินิบาตกรรม นายทหารผิวขาวทั้งหลายยืนสงบนิ่ง เป็นการถวายความคารวะแก่จอมนารีผู้กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว นายทหารคนหนึ่งก้าวเข้าไปในห้อง แต่ก็ต้องถอยออกมาโดยพลัน สุนัขหน้าหัก ตัวกระจ้อยร่อย ขนยาว ๕ ตัว ยืนแยกเขี้ยวขู่คำรามล้อมพิทักษ์พระบรมศพของปิ่นนารีผู้เป็นนายของมันอยู่ สุนัขน้อย ๕ ตัวนี้ตัวหนึ่งชื่อลูท ได้ถูกนำไปถวายควีนวิคตอเรียที่ประเทศอังกฤษ หมาสิงห์โตหรือหมาปักกิ่งมีบทบาทอยู่ในราชสำนักจีนอักโขอยู่ บางตัวได้รับพระราชทานตำแหน่งเสนาบดี บางตัวได้รับบรรดาศักดิ์เป็นชั้นดยุ๊คก็ยังมี กษัตริย์จีนสมัยโบราณทรงโปรดปรานสุนัขพันธุ์นี้จนออกจะเลยเถิด จักรพรรดิ์องค์หนึ่งทรงพระนามว่า หลิงไถ่ ถึงกับพระราชทานตำแหน่งเจ้ากรมอาลักษณ์แก่สุนัขปักกิ่งตัวหนึ่ง เจ้าสุนัขน้อยตัวนั้นคงไม่ชอบใจที่จะต้องสวมหมวกยศประจำตำแหน่ง ซึ่งสูงเกือบฟุต และกว้าง ๑ ฟุต บนหัวน้อยๆ ของมันแน่ ทีนี้เรามาฟังพื้นเพต้นตระกูลเดิมของเจ้าหมาสิงห์โตกันดูบ้าง อดีตกาล นานแสนนานมาแล้ว สิงห์โตแสนสุภาพตัวหนึ่งตระเวนร่อนเร่อยู่ในป่าดงพงไพรของประเทศเกาหลี สิงห์ตัวนี้กำลังหนุ่มฉกรรจ์ อยู่มาวันหนึ่ง สิงห์หนุ่มเห็นลิงมาโมเซ็ทสวยงามตัวหนึ่ง ก็เกิดรักใคร่นางวานรขึ้นมาอย่างแรง นางมาโมเซ็ทนั่นก็รักตอบ แต่รักของมันทั้งสองออกจะมีปัญหายุ่งยาก โดยเฉพาะเรื่องขนาดที่ผิดกันลิบลับ สิงห์ตัวนั้นมีสหายคนหนึ่งเป็นนักพรตในพุทธศาสนาซึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำแถบนั้น นักพรตผู้นี้เชี่ยวชาญในเวทย์มนต์กลคาถา รู้ภาษาสัตว์ทุกชนิด สิงห์โตก็นำเรื่องของตนไปเล่าสูสหายเฒ่าฟัง ขอให้ตะแกช่วยเหลือ “แกรักเจ้ามาโมเซ็ทอันต่ำศักดิ์อย่างจริงใจ จนยอมที่จะต้องเผชิญกับความเสื่อมเกียรติเพื่อนางหรือ?” นักพรตชราถาม “ข้ารักนางด้วยใจจริง” สิงห์โตว่า “ถ้างั้นเจ้าจะยอมสูญเสียอำนาจความเป็นเจ้าป่าและกลายสภาพเป็นสัตว์ตัวกระจิริดเพื่อนางไหม?” “ข้ายอม” สิงห์หนุ่มตอบอย่างหนักแน่น นักพรตชราผู้เรืองฤทธิ์เห็นใจในรักแท้ของมัน จึงสำรวมจิตตั้งสมาธิร่ายพระเวทย์อันศักดิ์สิทธิ์ เป่าพรวดลงที่หัวสิงห์โต อะโห! ดูนั่นซิ ร่างของสิงห์เจ้าป่าตัวมหึมาหดเล็กลงทุกทีๆ ในที่สุดก็มีขนาดเท่ากับนางลิงมาโมเซ็ทตัวนั้น สิงห์น้อยผงกศีรษะกระทำคารวะนักพรตเฒ่าแล้วก็กระโจนเข้าป่าไปหานางวานรแสนโสภาผู้เป็นขวัญใจทันที สิงห์น้อยผู้มั่นในรักแท้ เสพสุขกับนางวานรมาโมเซ็ทคู่ชีวิตจนกระทั่งสุดท้ายแห่งชีวิตมาถึง ลูกของมันที่เกิดมามีขนาดเท่ามาโมเซ็ทผู้เป็นแม่ แต่ได้เลือดกล้าและความสง่าองอาจจากสิงห์ผู้พ่อ นี่คือต้นตระกูลของหมาสิงห์โต (Lion dogs) หรือนัยหนึ่งหมาปักกิ่ง (Pekingese) แห่งมหาอาณาจักรจีนซึ่งสืบพันธุ์ติดต่อกันมาจนกาลบัดนี้. โดย จารึก จตุรภุช |