หัวข้อ: ท่านพระราธะ เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 29 มีนาคม 2554 21:52:53 (http://static.panoramio.com/photos/original/49630259.jpg) http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma ขอสงวนลิขสิทธิ์ภาพถ่ายตามกฏหมายภาพ ๆ นี้ได้รับการคัดเลือกไปอยู่บน Google Earth Photo By {Sometime} พระสารีบุตรเถระพาท่านพระราธะ{ผู้บวชเมื่อแก่}หลีกไปสู่ที่จาริกแล้วกล่าวสอน พร่ำสอนท่านเนือง ๆ ว่า {สิ่งนี้คุณควรทำสิ่งนี้}คุณไม่ควรทำเป็นต้น ท่านพระราธะได้เป็นผู้ว่าง่ายมีปกติรับเอาโอวาทโดยเคารพแล้วเพราะฉะนั้น เมื่อท่านปฏิบัติตามคำที่พระเถระพร่ำสอนอยู่โดย 2 - 3 วันเท่านั้นก็ได้บรรลุพระอรหัต แล้ว{เป็นพระอรหันต์}พระเถระ พาท่านไปสู่สำนักพระศาสดาถวายบังคมนั่งแล้ว ลำดับนั้นพระศาสดาทรงทำปฏิสันถารกะท่านแล้ว ตรัสว่าดูก่อนสารีบุตร อันเตวาสิก{ลูกศิษย์}ของเธอ เป็นผู้ว่าง่ายแลหรือ ? พระสารีบุตรเถระกราบทูล ว่า.........อย่างนั้นพระเจ้าข้าเธอเป็นผู้ว่าง่ายเหลือเกินเมื่อโทษไร ๆ ที่ข้าพระองค์ แม้กล่าวสอนอยู่ไม่เคยโกรธเลย พระศาสดา ตรัสถามว่า ดูก่อนสารีบุตร เธอเมื่อได้ลูกศิษย์เห็นปานนี้จะพึง รับได้ประมาณเท่าไร ? พระสารีบุตร กราบทูลว่า ข้าพระองค์พึงรับได้แม้มากทีเดียว พระเจ้าข้า พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม 1 ภาค 2 ตอน 2 หน้า 288 เพราะฉะนั้น........บุคคลใหม่จะเป็นคนยังไงดี ? จะเป็นคน โลภมาก โกรธมากหลงมาก ทุจริตมาก ร้ายกาจมากหรือว่า เป็น คนดีแล้วเป็นคนที่มีความเข้าใจธรรมด้วยซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมาจาก ใครก็ช่วยไม่ได้แต่ละหนึ่งก็เป็นแต่ละหนึ่งจริง ๆ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ ว่าอดีตก็เคยมีมาแล้วและเป็นกุศล - อกุศลสะสมกันมามากน้อย เท่าไร ไม่มีใครมีปัญญาหยั่งลึกลงไปถึงการสะสม ไม่ต้องถึงชาติก่อน แสนโกฏิกัปล์ เพียงแค่เมื่อเช้านี้หยั่งได้ไหม ? อกุศลที่เกิดหลัง เห็น หลังได้ยินอย่างรวดเร็วนี้ มากสักแค่ไหนหรือแม้แต่การฟังธรรม แต่ละครั้งมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นแค่ไหนก็หยั่งลงไปไม่ถึงใช่ไหมค่ะ เพราะบางทีก็สามารถที่จะเข้าใจบางทีก็ลืมไปอีกแล้วและความ เข้าใจนี้ระดับไหน ? ระดับที่เป็นเราฟังธรรม เพื่อเราจะได้เข้าใจธรรมเราจะได้รู้ ธรรม เราจะได้เก่งหรือว่าฟังแล้วเข้าใจว่าไม่มีเราเลย เป็นธรรมทั้ง - หมดเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปแม้แต่ขณะที่ฟังก็ยังต่างกัน เพราะฉะนั้น.........ก็จะรู้ได้ต่อเมื่อ มีคำถาม หรือ คำพูดถ้าเป็น คำพูดที่มีความต้องการ{ทำยังไงถึงจะรู้ธรรม}อย่างนี้ก็คือความ ไม่เข้าใจความเป็น{อนัตตา}แล้วฟังอีกนานเท่าไรจะมีความมั่นคงว่า ไม่มีเราแต่มีธรรมซึ่งเกิดเพราะเหตุปัจจัย............... .............โดย... ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์............... โมหะยังสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ให้เกิด โมหะยังจิตให้กำเริบ โมหะเป็นภัยเกิดขึ้นในภายใน พาลชนย่อมไม่รู้สึกภัยนั้น คนผู้หลงแล้วย่อมไม่รู้อรรถ คนผู้หลงแล้วย่อมไม่เห็นธรรม เมื่อใดความหลงครอบงำนรชน เมื่อนั้นนรชนนั้นย่อมมีความมืดตื้อ................ ...................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน......................... ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ...................... |