หัวข้อ: หลวงพ่ออาคม อินทสโร วัดดาวนิมิต อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 21 พฤศจิกายน 2559 19:16:24 (http://www.web-pra.com/upload/auction2/2013/01/2591712-4.jpg) [size=5หลวงพ่ออาคม อินทสโร [/size] วัดดาวนิมิต อำเภอบึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ "พระครูอนุรักษ์วาปีพิสัย" หรือ หลวงพ่ออาคม อินทสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดดาวนิมิต และอดีตเจ้าคณะอำเภอบึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พระเกจิและพระนักพัฒนาที่มีคุณูปการต่อกิจการคณะสงฆ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ เกิดในสกุล ประทุมทอง เมื่อวันเสาร์ ที่ 10 เม.ย.2467 ที่บ้านโนนแดง หมู่ที่ 20 ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.มหาสารคาม (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น ต.ลำชี อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์) จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 เมื่อปี พ.ศ.2480 จากนั้นอีกเพียง 1 ปี บรรพชา เมื่ออายุ 14 ปี ที่วัดบ้านตูนน้อย ต.หนองแปน ศึกษาพระปริยัติธรรมด้วยความมุ่งมั่น สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ พร้อมทั้งเรียนบาลีไวยากรณ์ควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากเป็นผู้ฝักใฝ่การศึกษา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาวิทยาคมต่างๆ จากพระเกจิที่มีชื่อเสียงใน จ.มหาสารคาม ท่านฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ป้อ ธัมมสิริ วัดโพธิ์ศรีบ้านเอียด ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม ครั้นอายุครบ 20 ปี ในปี พ.ศ.2487 เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบ้านโนนแดง จ.มหาสารคาม โดยมีพระสารคามมุนี เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "อินทสโร" ภายหลังอุปสมบท เดินทางไปศึกษาบาลีบทในกรุงเทพฯ ที่วัดสระเกศ, วัดสุทัศนเทพวราราม และวัดมหาธาตุฯ สามารถสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค จากนั้นเดินมาที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ อยู่จำพรรษาที่วัดไพรสณฑ์วราราม ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าอาวาสให้เป็นครูสอนบาลีธรรม ธรรมบาลี พ.ศ.2494 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลปุ้งน้ำเตา อ.หล่มสัก ณ ที่แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของหลวงพ่ออาคม เริ่มงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หลวงพ่อใช้เวลาว่างศึกษาวิชาทางโลกเพิ่มเติมจนได้รับสิทธิให้เข้าสอบวิชาชุดครูและสอบผ่านจนได้รับใบประกาศนียบัตรจากกระทรวงศึกษาธิการในหลักสูตรครูมูลพิเศษ นับเป็นพระรูปแรก ใน จ.เพชรบูรณ์ จนเป็นแบบอย่างของพระรูปอื่นสืบมา หลวงพ่ออาคม ได้รับโปรดประทานจากสมเด็จพระสังฆราชให้ดำรงตำแหน่ง "พระวินัยธรในเขตภาคหนือ" มีหน้าที่ดูแลความเป็นระเบียบของพระภิกษุและสามเณรให้อยู่ในพระธรรมวินัย ท่านได้รับกล่าวขวัญจากหมู่ศิษย์ผู้ใกล้ชิด ว่าเป็นพระยอดกตัญญู เลี้ยงดูมารดาชราจนถึงวินาทีสุดท้าย หลวงพ่ออาคม เริ่มออกธุดงค์สู่ภาคเหนือ ผ่าน จ.พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ข้ามภูพระวอที่ จ.ตาก ลงมายังแม่สอด ข้ามแม่น้ำเมยไปยังประเทศพม่า และวกขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงหนือทาง จ.เลย มุ่งสู่อีสาน ข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศลาว ที่เมืองจำปาสัก จากนั้นมุ่งสู่ภาคใต้ เริ่มจาก จ.ประจวบฯ ไปสุราษฎร์ธานี ปักกลดแถบเทือกเขาโตนงาช้าง จ.สงขลา เข้าประเทศมาเลเซีย ท่านใช้เวลาเดินธุดงค์และศึกษาศาสตร์ต่างๆ พร้อมปฏิบัติสมาธิในถ้ำกลางป่าดงดิบนานถึง 12 ปี ได้พบพระคณาจารย์เรืองวิทยาคมหลายรูป ครั้งถึงปี พ.ศ.2520 หลวงพ่อหยุดการท่องธุดงค์ เริ่มจำพรรษาที่วัดบ้านราหุล ต.โคกตะยอ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ตามคำนิมนต์และค้นหาภูเขาเล็กๆ ที่เคยเดินธุดงค์พบที่เหมาะแก่การสร้างวัด เมื่อค้นพบ จึงชวนชาวบ้านและลูกศิษย์ก่อสร้างวัดขึ้นใหม่ ซึ่งต่อมา คือ "วัดดาวนิมิต" ในปัจจุบัน ด้านวัตถุมงคล หลวงพ่ออาคม ได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย อาทิ เหรียญรูปไข่ ตะกรุดโทน รุ่นแรก สร้างปี พ.ศ.2520 และ พ.ศ.2523 สร้างตะกรุดโทนดอกเล็ก ประมาณ 200 ดอก, พ.ศ.2530 สร้างตะกรุดโทนคู่ชีวิตดอกใหญ่ พิเศษ 50 ดอก สร้างพระสมเด็จเนื้อดินดำ, พระสมเด็จเนื้อผงจากดินกรุเก่า ฝังเหล็กไหลดำ, รูปหล่อปั๊มทองเหลืองปี 2531 พระร่มโพธิเพชรบูรณ์ เนื้อชินตะกั่วเก่า พระนาคปรกเสาร์ 5 ปี เป็นต้น มรณภาพด้วยโรคชรา ในปี พ.ศ.2547 อริยะโลกที่ 6 |