[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ห้องสมุด => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 30 มกราคม 2560 16:49:56



หัวข้อ: รัสปูติน อลัชชีจอมอิทธิพลแห่งจักรวรรดิรัสเซีย
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 30 มกราคม 2560 16:49:56

(http://www.iseehistory.com/images/column_1328586126/Rasputin.jpg)

รัสปูติน

อลัชชีจอมอิทธิพลแห่งจักรวรรดิรัสเซีย “กริกอรี เอฟิโมวิช รัสปูติน-Grigory Efimovic Rasputin” มีชีวิตรุ่งเรืองในรัชสมัยซาร์นิโคลัสที่ ๒ ราชวงศ์โรมานอฟ มีอิทธิพลสูงสุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อซาร์นิโคลัสที่ ๒ ทรงออกแนวหน้าบัญชากองทัพรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่ ๑ และที่สุดก็เป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนสำคัญให้ราชวงศ์ล่มสลายจากการปฏิวัติประชาชน

กริกอรี รัสปูติน เกิดในหมู่บ้านชาวนาในไซบีเรียเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ค.ศ.๑๘๖๙ ประวัติเล่าว่า เขาไม่สนใจการศึกษา ตามสภาพแวดล้อมที่ผู้คนในหมู่บ้านส่วนมากเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ เขาเป็นชาวนา ดื่มเหล้าหนัก เสเพลเรื่องผู้หญิง

มีข้อมูลจากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม บทความโดย พล อิฏฐารมณ์ เขียนไว้ว่า วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๐๑๖ ถือเป็น วันครบรอบ ๑๐๐ปี การจากไปของ กริกอรี รัสปูติน ผู้วิเศษ แห่งราชสำนักโรมานอฟ เนื่องจากเขาเสียชีวิตจากการลอบสังหาร ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๑๙๑๖

คำว่า “รัสปูติน” ในภาษารัสเซีย แปลว่า จอมตัณหา ชื่อจริงๆ คือ กริกอรี เยฟิโมวิช โนวิก (Grigory Yefimovich Novykh)

เมื่ออายุได้ ๑๘ ปี เขาเข้าหานิกาย คลีสตี (Khlysty) ซึ่งเชื่อในการทรมานตัวเองและแสดงศรัทธาต่อพระเจ้าด้วยพิธีกรรมที่โน้มนำจิตเข้าสู่ภวังค์ แต่รัสปูตินไปไกลกว่านั้น เขาเสนอว่าคนจะเข้าใกล้พระเจ้าได้มากที่สุดเมื่อคนๆ นั้นรู้สึกได้ถึง “การปราศจากกิเลสตัณหาอันศักดิ์สิทธิ์” และคนที่จะเข้าถึงภาวะดังกล่าวได้ก็จะต้องผ่านการร่วมเพศแบบมาราธอนจนหมดความกระหายทางเพศไปเอง

รัสปูตินเข้าสู่ราชสำนักของรัสเซียได้ ส่วนหนึ่งเพราะราชสำนักสมัยนั้นนิยมชมชอบเรื่องไสยศาสตร์

ชื่อเสียงของรัสปูติน ที่ว่ากันว่าหากใครเพียงได้รับสัมผัสลูบไล้จากเขาก็จะทำให้หายจากการป่วยไข้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อมกุฎราชกุมารอเล็กซี รัชทายาทของซาร์นิโคลัสที่ ๒ และซารินาอเล็กซานดรา ซึ่งป่วยด้วยอาการเลือดไหลไม่หยุด อาการกำเริบขึ้นมา ด้วยความที่สมัยนั้นยังไม่มียาที่ได้ผลดี รัสปูตินจึงถูกซารินาอเล็กซานดราเรียกไปเข้าเฝ้า และได้มีโอกาสสร้างความประทับใจต่อพระพักตร์ ด้วยการทำให้รัชทายาทพ้นจากความเจ็บปวดได้สำเร็จ (ว่ากันว่าน่าจะใช้การสะกดจิต)

เขากลายเป็นที่โปรดปราน เป็นผู้มีอิทธิพลสูงต่อราชสำนักและรัฐ แม้จะมีผู้ถวายฎีการ้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องขี้เมาและมักมากในกาม ชอบฉวยโอกาสสมสู่กับหญิงที่มาพัวพันไม่เลือกหน้า แต่ด้วยความรักต่อพระชายาและพระโอรส ซาร์นิโคลัสทรงเลือกที่จะเพิกเฉย

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๑ ซาร์นิโคลัสเสด็จไปร่วมทัพในแนวหน้าในปี ๑๙๑๕ ซารินาอเล็กซานดราเป็นผู้สำเร็จราชการ แต่พระนางมอบหมายให้รัสปูตินในฐานะที่ปรึกษาเป็นผู้ดูแลกิจการของรัฐแทน

รัสปูตินซึ่งเป็นที่เกลียดชังของทั้งสมาชิกราชวงศ์และชนชั้นสูงหลายรายอยู่ก่อนแล้วและเคยถูกลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง การที่ได้โอกาสเข้ามาก้าวก่ายกิจการบ้านเมืองโดยตรง จึงยิ่งทำให้ความเกลียดชังต่อตัวเขาหนักหนายิ่งขึ้น

เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ (Felix Yussoupov) พระสวามี ในพระนัดดาของพระเจ้าซาร์ ทรงเป็นผู้นำการวางแผนลอบสังหารรัสปูตินด้วยพระองค์เอง เพื่อยุติความฉาวโฉ่ของราชสำนัก

พระองค์เชิญรัสปูตินมาเฝ้าในคืนวันที่ ๓๐ ธันวาคม ทรงต้อนรับด้วยเค้กและไวน์ใส่ยาพิษ รัสปูตินเพลิดเพลินกับอาหารและไวน์ โดยที่พิษไม่ได้ทำให้เขาเจ็บป่วยประการใด เจ้าชาย เฟลิกซ์ จึงคว้าปืนยิงเข้าใส่ รัสปูตินกรีดร้องและดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด แต่ยังไม่ยอมทิ้งชีวิต เขาพยายามเข้าทำร้ายเจ้าชายเฟลิกซ์ ก่อนที่หลายคนซึ่งซุ่มอยู่ที่ชั้นบนจะวิ่งลงมา หนึ่งในผู้วางแผน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวลาดิเมียร์ พูริชเควิช (Vladimir Purishkevich) ผู้นำฝ่ายขวาของรัฐสภารัสเซีย กระหน่ำยิงเข้าใส่รัสปูตินหลายนัด และนัดหนึ่งเข้าที่ศีรษะพอดี

ดร.สตานิลัส ลาโซเวิร์ต (Dr.Stanislaus Lazovert) หมอ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมแผนการได้เข้าไปดูร่างของรัสปูตินที่ล้มกองอยู่ และประกาศว่าเขาเสียชีวิตแล้ว

จากนั้นพวกเขาได้ห่อร่างของรัสปูติน พาไปยังแม่น้ำเนวาที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง เอาร่างที่ห่อไว้ของรัสปูตินยัดลงไปในโพรงน้ำแข็ง

เมื่อภายหลังมีการค้นพบห่อร่างของเขา ปรากฏว่าเขาน่าจะยังมีชีวิต ขณะที่ถูกโยนลงน้ำและพยายามดิ้นรนให้พ้นจากใต้ผืนน้ำแข็ง แต่ไม่สำเร็จ จึงจมน้ำตาย


ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด