หัวข้อ: การบำรุงบิดา - มารดา เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 21 เมษายน 2553 11:25:06 (http://img.zuzaa.com/image.php?id=E1B0_4BCE964F) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma ก็รู้แล้วว่าพระในบ้านนั้นคือใคร ยังเหลืออีกเพียงขั้นตอนเดียวเท่านั้น คือ ทำอย่างไรจึงจะทำให้พระในบ้านมีความสุขความสบาย ใจได้บ้าง ให้ท่านได้มีโอกาสชื่นชมยินดีในความสำเร็จของลูกหลานทันเวลาก่อนที่จะลาโลกไป และให้ท่านได้มีโอกาสพักบ้าง หลังจากได้ตรากตรำทำงานหาเลี้ยงลูกมาจนถึงวัยปูนแก่แล้ว คือ ช่วยยืดอายุให้ท่านอยู่กับเรานาน ๆ นั่นแหละ โอกาสที่จะทำได้อย่างว่านั้น สำหรับลูก ๆ แล้วมีตลอดไป และมีมากเสียด้วย เว้นไว้แต่จะไม่ยอมมอบโอกาสเช่นนี้ให้พ่อแม่บ้างเท่านั้น เพราะปกติเรามักจะอ้างกันอยู่เสมอว่าไม่มีเวลาไม่มีโอกาสโดยเฉพาะสำหรับพ่อแม่ แต่สำหรับกิจการอื่น ๆ หรือการแสวงหาความสุข การใช้เวลา การใช้เงินใช้ทองไปบำรุงบำเรอผู้อื่นนั้น เราช่างมีเวลาโอกาสเหลือเฟือ พอที่ จะทำได้เสมอๆ โดยมิพักต้องกังวลหรือคิดหน้าคิดหลังเสียด้วยซ้ำไป การบำรุงท่านเป็นวิธีการเดียวที่ถูกต้องและสมน้ำสมเนื้อกับคุณข้าวป้อนน้ำนม รวมทั้งหยาดเหงื่อแรงงานที่ท่านได้ลงไว้กับเรา เพื่อให้เราดีจนกระทั่งเรามีหลักฐาน มีงานทำอยู่ทุกวันนี้ ตามหลักธรรมะหรือจะพูดให้ชัด คือหลักธรรมตามสัจธรรมอันเป็นเรื่องจริง และเป็นธรรมชาติธรรมดาของโลก การบำรุง พ่อแม่เพื่อตอบแทนพระคุณท่านั้นเราอาจทำได้หลายวิธี เป็นต้นว่า การเลี้ยงดูท่าน การช่วยเหลือท่านทำกิจการงานต่าง ๆ บรรดามีการประพฤติตนให้ดี มิให้ท่านมีมลทินเสียชื่อเสียงไปด้วย การดำรงอยู่ในโอวาสคำตักเตือนแนะนำของท่าน การรักษามรดก ทั้งมรดกที่เป็นเลือดเนื้อคือตัวเราเอง และมรดก คือทรัพย์สินที่ท่านมอบไว้ให้ด้วยดี ไม่ให้มรดกนั้นมลายสูญไปเพราะตัวเรา และใช้มรกดกของท่านให้เกิดดอกออกผลงอกเงยขึ้นมาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปกว่านั้น การบำรุงพ่อแม่นั้น เราอาจทำได้ทุกเวลาและทุกโอกาสและทุกวัย เพราะไม่ยากจนเกินไปหากจะทำ แม้ว่าเราจะมีครอบครัวไปแล้ว แม้ว่าเราจะแยกกันอยู่ต่างหากจากพ่อแม่หรือไปอยู่ห่างไกลในหนใดก็แล้วแต่ ก็ยังพอทำได้เช่นกัน อย่าได้นึกเลยว่าอยู่ไกล คิดว่าท่านล้มหายตายจากไปแล้ว จะไปบำรุงท่านที่ไหน การบำรุงพ่อแม่ไม่ใช่เพียงต้องเลี้ยงดูท่านอย่างเดียว เราอยู่ที่ไหรท่านก็ไปอยู่กับเราที่นั่น เราขึ้นเขาลงห้วย เราไปอยู่ในสมาคมคนดีหรือคนเลวท่านก็ไปกับเราด้วยก็ตัวเรานี่แหละ ที่เป็นเสมือนตัวท่านเป็นตัวแทนของท่านและเป็นส่วนหนึ่งที่แยกภาคมาจากท่าน เพราะตัวเราคือเลือดเนื้อเชื้อไขจากสายโลหิตของท่าน แต่การบำรุงพระในบ้านที่สำคัญเป็นอันดับแรกที่เราควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือการเลี้ยงดูท่านให้เป็นสุข เพราะการเลี้ยงดูเป็นการต่อเติมชีวิตของท่านให้อยู่นาน ๆ เท่ากับเป็นการเพิ่มเติมพลังกายพลังใจให้ท่านนั่นเอง และเป็นการสนองระคุณท่านในขณะที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่ ทั้งเป็นการแสดงน้ำใจของเราให้ท่านเห็นด้วย คนเราจะรู้ว่าใครดีไม่ดีก็ต่อเมื่อได้เห็นน้ำใจกันก่อนน้ำใจย่อมมีค่าสูงและ มีพลังมากกว่าน้ำใด ๆ ในโลก พระในบ้านปรารถนาเหลือเกินจะได้เห็นน้ำใจจากลูก ๆ ที่ท่านอุตส่าห์เลี้ยงดูอุ้มชูมาแต่น้อยคุ้มใหญ่ แต่ความปรารถนาของพ่อแม่จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับน้ำใจของเราผู้เป็นลูกเท่านั้น............................................................................ |