[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 04 พฤษภาคม 2554 15:17:25



หัวข้อ: รูปกับกาย
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 04 พฤษภาคม 2554 15:17:25
(http://seesod.com/storage36/ucXyM1pT2Q1304167888/l.jpg)

http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma



......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน.........................

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ......................  



ถาม.........รูปกับกายแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ ?



ตอบ............เข้าใจคำว่ากายก่อน กาย หมายถึง การประชุม การรวมกันของสิ่งใด สิ่งหนึ่ง

เพราะฉะนั้นเมื่อพูดถึงแต่คำว่ากาย ไม่ไ่ด้หมายถึง ร่างกายของเราเท่านั้น แต่หมายถึง

การประชุม การรวมกันของสิ่งใด สิ่งหนึ่งก็ได้ ดังนั้นคำว่า กาย คือการประชุม รวมกัน

กาย มี 2 อย่างคือ นามกายและรูปกาย นามกายคือการประชุมกัน รวมกันของสภาพ

ธรรมที่เป็นนามธรรม ซึ่งก็ได้แก่ขันธ์ 4 มี เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ ส่วนรูป

กาย ก็ คือสภาพธรรมทั้งหมดที่เป็นรูปธรรม มี ธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม เป็นต้น อันเป็น

สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไรเลยที่เป็น{รูปธรรม}เป็นรูปกายคือการประชุมของสภาพธรรมที่

เป็นรูปธรรม



พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม 7 ภาค 2 -> หน้าที่ 116



กาย ในคำว่า กาโย มี ๒ คือ.................

นามกาย ๑

รูปกาย ๑

นามกายเป็นไฉน ? เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ เป็นนามด้วยเป็นนาม

กายด้วยและท่านกล่าวจิตสังขารว่า นี้เป็นนามกายรูปกายเป็นไฉน ?

มหาภูตรูป ๔ รูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ ลมอัสสาสปัสสาสะ นิมิต และท่าน

กล่าวว่ากายสังขารที่เนื่องกัน นี้เป็นรูปกาย

ส่วนคำว่ารูป กับ กายแตกต่างกันอย่างไร ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว คำว่ากาย หมายถึง

การประชุมรวมกันของสิ่งใด สิ่งหนึ่งและคำว่ากายยังหมายถึงที่เกิดของสิ่งไม่สะอาด

แต่โดยทั่วไปจะใช้คำว่ารูปกายรวมกัน หมายถึงการประชุมกันของรูปธรรมแต่เมื่อพูดถึง

คำว่ารูปและกายกายบางครั้งจะกว้างกว่าคำว่ารูปกายจะหมายถึงการประชุม

บัญญัติว่าเป็นกายนี้ อันเป็นที่ประชุมของอวัยวะะต่าง ๆ ที่บัญญัติขึ้นว่าเป็น หัวใจ ปอด

ผม - ขน เป็นต้น รวมกันประชุมกัน การประชุมกันของสิ่งต่าง ๆ จึงเรียกว่า กาย ส่วนรูป

นั้นก็คือสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร มีรูป 28 เป็นต้น ซึ่งจะไมไ่ด้หมายถึงการประชุม เหมือน

คำว่ากาย แต่หมายถึง รูปแต่ละอย่างที่เป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไรเลยเพราะฉะนั้น

ความแตกต่างของรูปและกาย{บางนัย}คือ กายหมายถึงการประชุมส่วนรูปหมายถึง

สภาพธรรมที่ไม่รู้อะไรเท่านั้น

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ ->หน้าที่ 475

อรรถกถาภินทนสูตร


บทว่า กาโย ได้แก่รูปกายก็รูปกายนั้นชื่อว่ากาย เพราะอรรถว่า เป็นที่ประชุม

แห่งอวัยวะน้อยใหญ่ทั้งหลายมีผม เป็นต้นด้วยและชื่อว่ากายเพราะมีวิเคราะห์ว่า

เป็น{อายะ}คือ เป็นแหล่งเกิดแห่งของน่าเกลียดน่าชังทั้งหลายอย่างนี้บ้าง



แต่บางนัยนั้น รูปและกายก็มีอรรถความหมายเดียวกัน คือกายก็คือ รูปธรรมนั่นเอง รูป

แต่ละรูปก็คือกาย ดังเช่นใน{มหาสติปัฏฐาน}ที่มีข้อความว่า ภิกษุพึงพิจารณาเห็นกายใน

กาย กายในที่นี้ก็คือ  รูปธรรมนั่นเองครับ กายแต่ละอย่างก็คือ  รูปธรรมแต่ละอย่าง

ดังข้อความในพระไตรปิฎก

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม 5 ภาค 2 ->หน้าที่ 243

อรรถกถากิมิลสูตร

คำว่า กายอันหนึ่งในบรรดากายทั้งหลาย คือเรากล่าวกายอย่างใดอย่างหนึ่งใน

กายทั้งหลายมีกายคือ ดินเป็นต้นหมายความว่าเรากล่าวถึงกายคือ ลม อีกอย่าง

หนึ่งส่วนแห่งรูป ๒๕ ชนิด คือ อายตนะคือ ตา ฯลฯ อาหารที่ทำเป็นคำ ๆ ชื่อ

ว่ารูปกายในส่วนแห่งรูปเหล่านั้นลมหายใจออกและหายใจเข้าย่อมเป็นกายอย่าง

หนึ่งเพราะรวมเข้าในอายตนะ คือ สิ่งที่จะพึงถูกต้อง

ในความเป็นจริงแล้ว รูปและกายมักใช้คู่กัน คือ รูปกาย อันหมายถึงการประชุมของ

รูปธรรม และบางนัยก็แสดงว่า  กายก็คือรูปแต่ละอย่างนั่นเองดังนั้นสำคัญที่เมื่อ

เข้าใจอรรถความหมายแล้วย่อมส่องให้เห็นถึง สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าแม้ตัว

เราเองก็เป็นเพียง กาย การประชุมของสิ่งใด สิ่งหนึ่งที่เป็นการประชุมของรูปธรรมที่

เป็นรูปกาย และการประชุมของนามธรรมที่เป็นนามกาย หาความเป็นสัตว์ บุคคลไ่ม่ไ่ด้

เลย นอกจากสภาพธรรมเท่านั้นประโยชน์คือการเข้าใจความจริงอย่างนี้เพื่อละความ

ยึดถือว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน ละความยึดถือว่ามีเรา เพราะมีแต่กายการประชุมของ

สภาพธรรมเท่านั้น..............................



http://www.facebook.com/itsariyathanakorn (http://www.facebook.com/itsariyathanakorn)

http://twitter.com/soka45 (http://twitter.com/soka45)

http://forums.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/)



ดูก่อนคฤหบดีบุตร

คนชักชวนในทางฉิบหาย

ท่านพึงทราบว่าไม่ใช่มิตร

เป็นแต่คนเทียมมิตร โดยสถาน ๔ คือ

ชักชวนให้ดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย

อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๑

ชักชวนให้เที่ยวตามตรอกต่าง ๆ ในเวลากลางคืน ๑

ชักชวนให้ดูการมหรสพ ๑

ชักชวนให้เล่นการพนัน อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๑