หัวข้อ: the decline goes to intellect เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 26 เมษายน 2553 16:08:19 (http://seesod.com/storage33/P9EdS5tr921272272573/o.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/17.wma ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาโดยข้าพเจ้า(บางครั้ง)ภาพนี้เก็บอยู่ตากล้อง DOTCOM เว็ปถ่ายภาพ ........วันไหนไม่ได้ Post มันนอนไม่หลับเลยจริง ๆ พับผ่าสิ....เอ้า ! ! !.......... ความเสื่อมแห่งโภคะและความเสื่อมแห่งปัญญาอะไรจะชั่วร้ายกว่า ? ควรพิจราณาว่าความสื่อมทั้งหลายนั้นความเสื่อมแห่งปัญญานั้นชั่วร้ายน่ากลัวที่สุดเพราะเหตุว่าความเสื่อมปัญญานั้นเป็นปัจจัยให้เกิดความเห็นผิด ความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นเหตุทำให้การประพฤติปฏิบัติผิดบางคนอาจไม่เห็นโทษเห็นภัยของความเสื่อมแห่งปัญญาไม่เห็นอันตรายตามความเป็นจริงแล้ว ความเสื่อมญาติก็ดีความเสื่อมแห่งโภคทรัพย์ก็ดีเป็นแต่เพียงความเสื่อมในภพชาตินี้ที่เห็น ๆ กันอยู่เท่านั้นแต่ความเสื่ยมแห่งปัญญานั้นจะเป็นเหตุปัจจัยให้ไปเกิดในทุคติภูมิเกิดในอบายภูมิเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน เป็นต้น อันจะเป็นเหตุตัดรอนไม่ให้ปัญญาเจริญขึ้นจนกระทั่งสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ในทางกลับกัน ถ้ากล่าวถึงความเจริญความเจริญด้วยปัญญาย่อม ประเสริฐที่สุดเลิศที่สุดถ้าไม่ได้พิจารณาไม่ได้ไตร่ตรองก็อาจจะเข้าใจว่าความเจริญด้วยญาติ การเป็นผู้มีญาติมากย่อมจะเป็นประโยชน์เกื้อกูลมากสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลได้ในยามจำเป็นแต่ถ้าไม่มีปัญญาแล้วก็ไม่ประเสริฐเลยเพราะญาติทั้งหลายไม่สามารถติดตามไปเกื้อกูลในชาติต่อไปได้แต่ปัญญาที่มี ที่อบรมเจริญในชีวิตประจำวันไม่สูญหายไปไหนสะสมสืบต่ออยู่ในจิตทุกขณะ และเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง เรื่องทรัพย์สมบัตินั้นมีได้ก็ย่อมเสื่ยมไปได้แล้วแต่เหตุปัจจัยที่ได้สะสมมาไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาได้แต่เมื่อเสื่อมจากลาภ ยศ สรรเสริญ สุขผู้ไม่มีปัญญาย่อมรู้สึกเดือดร้อนมาก แต่ตราบใดที่ยังเป็นผู้เจริญด้วยปัญญายังประเสริฐกว่าการมี ทรัพย์สมบัติแต่ขาดปัญญาหรือเสื่อมจากปัญญาดังนั้นสิ่งที่เป็นสาระ เป็นประโยชน์แก่ชีวิตจริง ๆ คือ ปัญญา ความเข้าใจถูก - เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงที่จะต้องอาศัยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมค่อย ๆ สะสมความเข้าใจไปตามลำดับ......... โย จ วสฺสสตํ ชีเว อปสฺสํ อมตํ ปทํเอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย ปสฺสโต อมตํ ปทํ ก็ผู้ใดไม่เห็นบทอันไม่ตายพึงเป็นอยู่ 100 ปีความเป็นอยู่วันเดียวของผู้เห็นบทอันไม่ตายประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ของผู้นั้น |