|
หัวข้อ: พึงคบสหายผู้ประเสริฐสุดเสมอกัน เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 16 พฤษภาคม 2554 19:38:00 (http://static.panoramio.com/photos/original/52707568.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma (http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=19987.0;attach=1169;image) (http://uyfz9q.bay.livefilestore.com/y1puwwLyY1hQGevKbPEFyCjgBoQn3NSNeo-y8gjotl_lxJ--glH5i3PgMx-t56j5hxrXEdhp0j_jvxReSFv7ti_moNX3z_jaCAr/hyooneunhye.gif?psid=1) พระปัจเจกพุทธเจ้าได้ตรัสว่า เราย่อมสรรเสริญสหายผู้ถึงพร้อมด้วยศีลขันธ์เป็นต้น พึงคบสหายผู้ประเสริฐสุด ผู้เสมอกัน กุลบุตรไม่ได้สหายผู้ประเสริฐสุดและผู้เสมอกันเหล่านี้แล้ว พึงเป็นผู้บริโภคโภชนะไม่มีโทษ เที่ยวไปผู้เดียวเหมือน{นอแรด}ฉะนั้น ในชีวิตประจำวันย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่มีใครที่ไม่มีเพื่อนมีด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่ กับว่าจะเป็นเพื่อนประเภทใดสำหรับเพื่อนที่ดีหรือ มิตรที่ดี เป็นบุคคลผู้ประกอบ ด้วยคุณธรรมมี ศรัทธา ศีล ปัญญา เป็นต้น สามารถแนะนำประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ในโลกหน้าและประโยชน์อย่างสูงสุด ได้บุคคลผู้เป็นกัลยาณมิตร สูงสุด คือ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นความจริงที่ว่าบุคคลที่เราคบนั้นเป็นส่วนที่จะทำให้ชีวิตของเราเป็นไปใน ทางกุศล หรือ ทางอกุศล เป็นไปในทางเสื่อมหรือเป็นไปในทางเจริญ ได้ดังนั้น การได้คบเพื่อนที่ดีซึ่งเป็นเพื่อนที่ทำให้เราได้เข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น เป็นเพื่อนที่แนะ นำให้เราตั้งอยู่ในกุศลธรรม แนะนำให้เห็นโทษของอกุศลแล้วให้ออกจากอกุศล นั้น จึงเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญา{สูงสุดคือการดับกิเลส พ้นจากทุกข์ทั้งปวง} และกุศลธรรมประการอื่น ๆ ก็ย่อมจะเจริญขึ้นตามระดับของความเข้าใจด้วยไม่พบกับ ความเสื่อมเลย เราย่อมสรรเสริญสหายผู้ถึงพร้อมด้วยศีลขันธ์เป็นต้น สหายหรือเพื่อนผู้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมคือศีลไม่ใช่แค่ศีลเท่านั้นสมาธิและปัญญา พระปัจเจกพุทธเจ้าย่อมยกย่องสรรเสริญผู้ถึงพร้อมคือผู้ที่ประกอบด้วยคุณธรรมมี{ศีล} สมาธิและปัญญา พึงคบสหายผู้ประเสริฐสุดผู้เสมอกัน บุคคลควรคบบุคคลที่มีคุณธรรม เป็นเพื่อน เป็นกัลยาณมิตร ผู้มีคุณธรรมมาก เพราะ เมื่อบุคคลคบคนที่มีคุณธรรมคุณธรรมที่ยังไม่มีย่อมมีได้เพราะอาศัยการคบบุคคลที่มี คุณธรรม คุณธรรมที่ยังไม่มีเช่นศีล เมื่อคบบุคคลที่ถึงพร้อมด้วยศีล ศีลย่อมเจริญขึ้น เพราะอาศัยการฟัง การแสดงธรรมของผู้มีคุณธรรมนั้น ย่อมเห็นประโยชน์ในคุณธรรม คือศีล รวมทั้งคุณธรรมประการอื่น ๆ รวมทั้งปัญญาด้วย เมื่อได้คนที่มีปัญญาเป็นเพื่อน เป็นสหายย่อมทำให้ได้ความเจริญในทางปัญญาเพิ่มขึ้นเพราะอาศัยการฟังธรรมจาก ผู้มีปัญญานั่นเองเพราะฉะนั้นพึงคบสหายผู้ประเสริฐสุดและแม้ไม่ไ่ด้สหายเพื่อน ที่มีคุณธรรมประเสริฐสุดหรือสูงกว่าตนก็พึงคบผู้ที่มีคุณธรรมเสมอตนเพราะเมื่อคบ เพื่อนที่มีคุณธรรมเสมอกันกุศลธรรมและคุณธรรมประการต่าง ๆ ก็ย่อมไม่เสื่อมไปเพราะ เพื่อนนั้นย่อมกล่าวย่อมแสดง ย่อมสรรเสริญในคุณธรรมดังเช่นบุคคลนั้นเป็นอยู่ กุลบุตรไม่ได้สหายผู้ประเสริฐสุดและผู้เสมอกันเหล่านี้แล้ว พึงเป็นผู้บริโภคโภชนะไม่มีโทษ เที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอ{แรด}ฉะนั้น แต่่เมื่อไม่ได้สหายหรือเพื่อนที่มีคุณธรรมที่สูงกว่าหรือเสมอตนแล้วก็พึงเป็นผู้ บริโภคโภชนะไม่มีโทษการเป็นผู้บริโภคโภชนะไม่มีโทษ หมายถึง เมื่อได้รับอาหาร จากใครที่ถวายบิณฑบาตรไม่ว่าดีหรือไม่ดีก็ไม่ยินดีและยินร้ายในสิ่งที่ได้ และไม่ หลอกลวงเที่ยวไปในการดำรงชีวิต ผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้บริโภคโภชนะไม่มีโทษ(หมายถึง เพศบรรพชิต) และเมื่อไม่ไ่ด้สหาย เพื่อนที่มีคุณธรรมสูงกว่าประเสริฐสุดหรือเสมอกับ ตนก็ควรเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด คือไม่คบกับบุคคลใด เป็นผู้เดียวเหมือนกับนอ แรดที่มีนอเดียวเพราะว่าเมื่อไปคบบุคคลที่คุณธรรมต่ำกว่าก็ทำให้คุณธรรมของผู้ นั้นเสื่อมไปตามบุคคลนั้นเพราะฉะนั้นเมื่อไม่ไ่ด้สหายที่ดีประเสริฐกว่าหรือเสมอ ตนการเที่ยวไปผู้เดียวจึงประเสริฐ การคบสัตบุรุษจึงเป็นธรรมประการหนึ่งที่จะทำให้ถึงฝั่งคือการดับกิเลส สหายหรือ มิตรที่ประเสริฐสูงสุดคือพระผู้มีพระภาคเจ้าแม้พระองค์จะปรินิพพานไปแล้วแต่พระ ธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เปรียบเหมือนมิตรที่แนะนำ พร่ำสอนให้สัตว์โลกที่เต็มไป ด้วยความไม่รู้และกิเลสค่อย ๆ ละคลายกิเลสขึ้นด้วยพระธรรมของพระองค์ให้สัตว์โลก ผู้กำลังหลับด้วยความไม่รู้ตื่นขึ้นด้วยปัญญาที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยมิตรที่ประเสริฐคือ พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าเพราะฉะนั้นหมู่สัตว์ทั้งหลายที่สะสมปัญญามาจึง ควรเห็นประโยชน์ในการเสพคุ้นกับสิ่งที่ประเสริฐคือการศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อันจะเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขส่วนเดียวนำมาซึ่งกุศลธรรมและปัญญากับสัตว์โลกที่ ได้ศึกษาและเข้าใจจึงควรคบพระธรรม คบด้วยความเข้าใจ กุศลขั้นทานก็ควรเจริญ กุศลขั้นศีลก็ควรเจริญ กุศลขั้นความสงบก็ควรเจริญ คือ................................................. มีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาต่อบุคคลอื่น ระลึกถึงคุณของพระผู้มีพระภาค คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ ระลึกถึงคำสอนที่ทำให้จิตใจพ้นจาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ในขณะนั้นก็เป็นกุศลขั้นความสงบ เป็นการอบรมเจริญสมถะในชีวิตประจำวัน ขอเชิญร่วมการสนทนาธรรม เนื่องในวันวิสาขบูชา โดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร ณ. มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา โดยมีรายการดังนี้ ๐๙:๐๐ - ๑๒:๐๐ น. สนทนาพระธรรมวินัย ๑๒:๐๐ - ๑๔:๐๐ น. เชิญร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ๑๔:๐๐ - ๑๖:๐๐ น. สนทนาเรื่องปฏิบัติธรรม สอบถามรายละเอียดโทรศัพท์สอบถาม 02 - 4680239 http://www.facebook.com/itsariyathanakorn (http://www.facebook.com/itsariyathanakorn) http://twitter.com/soka45 (http://twitter.com/soka45) http://forums.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/) ......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน......................... ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ............................ |