[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 16:20:02



หัวข้อ: หลวงปู่เหลา ธัมมสาโร วัดอัมพวัน บ้านม่วง ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 16:20:02
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/27984644803735__3627_3621_3623_3591_3611_3641.jpg)
หลวงปู่เหลา ธัมมสาโร
วัดอัมพวัน บ้านม่วง ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม

“พระครูอัมพวันสารกิจ” หรือ หลวงปู่เหลา ธัมมสาโร อดีต เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน บ้านม่วง ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม เป็นพระภิกษุอีกรูปหนึ่งที่มีอายุและพรรษาสูง เป็นปูชนียบุคคลของวงการสงฆ์เมืองมหาสารคาม อยู่ในศรัทธาของชาวมหาสารคาม

เกิดในสกุล สะนิจนวน เมื่อปี 2467 ณ บ้านม่วง ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา
 
ในช่วงวัยเยาว์ เรียนจบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนในหมู่บ้าน แล้วต้องออกมาช่วยงานครอบครัว

จนเมื่ออายุครบบวช พ.ศ.2491 จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดโพธิ์ศรีบ้านลาด ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม มีพระครูพุทธสังวรกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการเดือน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาสนธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาอยู่ที่วัดอัมพวันบ้านม่วง เป็นผู้มีความวิริยอุตสาหะเป็นเลิศ ในแต่ละวันท่านจึงเดินเท้าไปตามคันนาหลายกิโลเมตร ไปเรียนพระปริยัติธรรม ณ สำนักเรียนวัดโพธิ์ศรีบ้านลาด สำนักเรียนใหญ่ในสมัยนั้น

มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี โท และเอก ตามลำดับ
 
ต่อมาตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดบ้านอัมพวันบ้านม่วงว่างลง คณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม จึงได้นิมนต์ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส
 
หลังได้รับตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดของวัด แล้วท่านได้ตั้งสำนักเรียนขึ้น เนื่องจากท่านเห็นว่าพระเณรที่บวชเรียนล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน และสมัยนั้นต้องเดินทางไปเรียนไกลที่วัดอื่น ซึ่งเป็นสำนักเรียนใหญ่และ บางครั้งต้องเข้าไปไกลถึงในตัวเมืองมหาสารคาม ได้รับความลำบาก

ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจพัฒนาการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเพียงไม่กี่ปี ชื่อเสียงของสำนักเรียนวัดอัมพวันบ้านม่วง ก็เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในแต่ละปีจะมีพระภิกษุ-สามเณรหมู่บ้านใกล้เคียงมาอยู่จำพรรษา ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยจำนวนมาก

ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หลวงปู่เหลาเริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันจะมีญาติโยมในพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรม ประพรมน้ำพุทธมนต์ ที่เข้มขลังกับหลวงปู่อย่างล้นหลาม น้ำมนต์ท่านเด่นด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย

สำหรับปัจจัยที่ได้รับ นำไปพัฒนาสร้างความเจริญให้วัดแห่งนี้ อาทิ ประตูโขง ศาลาการเปรียญ และอุโบสถ และส่วนหนึ่งจะนำมา ช่วยเหลือสังคมชุมชน

 
นอกจากนี้ ยังได้นำพาชาวบ้านพัฒนาสาธารณูปการภายในหมู่บ้านควบคู่กับการพัฒนาวัดมาโดยตลอด เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ของวัดอัมพวันบ้านม่วง ตั้งอยู่ติดกับฝั่งลำชี ท่านจึงพยายามชี้แนะให้ญาติโยมร่วมกันอนุรักษ์ลำน้ำชี ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชาวอีสานทั้งอุปโภค บริโภค และการเกษตร ไม่ให้ทิ้งสิ่งของสกปรกหรือน้ำเน่าเสียลงไปในลำน้ำชี รวมทั้งนำชุมชนร่วมกันปลูกต้นไผ่ป้องกันตลิ่งลำชีพัง

นอกจากนี้ ท่านยังนำพาพระภิกษุ-สามเณร ปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีแต่ความร่มรื่นสวยงาม ปลูกต้นไม้ไว้เต็มวัด ทำให้ทั่วบริเวณวัดมีแต่ความสงบวิเวกเหมาะสมกับการเจริญภาวนายิ่งนัก

สำหรับหลักธรรมที่หลวงปู่พร่ำสอนญาติ มาโดยตลอด ท่านจะเน้นให้รักษาศีล 5 เป็นหลัก ในการดำเนินชีวิต และอย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท เนื่องเพราะความตายนั้นแขวนคออยู่ทุกย่างก้าว จะตายวันตายพรุ่งไม่มีใครกำหนดได้ หากจะทำอะไรลงไป ขอให้มีสติ รับรองว่าชีวิตตนเองและครอบครัวจะพานพบแต่ความสุขความเจริญ ตลอดไป

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2500 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัมพวันบ้านม่วง พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ “พระครูอัมพวันสารกิจ”

พ.ศ.2540 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง จึงมรณภาพ เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2554 สิริอายุ 88 ปี พรรษา 63
        ข่าวสดออนไลน์