[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ อนามัย => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 15 พฤษภาคม 2561 19:13:59



หัวข้อ: โรคพิษสุนัขบ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 15 พฤษภาคม 2561 19:13:59

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/45914001928435_homeopathic_medicine_for_rabie.jpg)

โรคพิษสุนัขบ้า

โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) หรือ โรคกลัวน้ำ (Hydrophobia) จัดเป็นโรคติดต่อร้ายแรง เกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ (Rabies) ที่ทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันของสมองในมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ทั้ง สุนัข แมว ลิง กระรอก ค้างคาว ฯลฯ เมื่อเป็นแล้วจะมีอาการทางประสาท โดยเฉพาะที่ระบบประสาทส่วนกลาง เริ่มจากมีไข้และอาการเป็นเหน็บ ณ ตำแหน่งสัมผัส ตามด้วยอาการต่อไปนี้อย่างหนึ่งหรือมากกว่า

ได้แก่ การเคลื่อนไหวรุนแรง ความตื่นเต้นควบคุมไม่ได้ กลัวน้ำ ไม่สามารถขยับร่างกายบางส่วน สับสน ไม่รู้สึกตัว เมื่อเกิดอาการแล้วจะถึงแก่ชีวิตแทบทั้งสิ้นหากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไม่ทัน เนื่องจากโรคนี้จะวินิจฉัยได้หลังเริ่มแสดงอาการแล้วเท่านั้น โดยช่วงเวลาการติดต่อโรคจนถึงเริ่มแสดงอาการปกติอยู่ระหว่าง ๑ ถึง ๓ เดือน แต่ช่วงเวลาดังกล่าวก็อาจมีได้ตั้งแต่น้อยกว่า ๑ สัปดาห์ จนถึงกว่า ๑ ปี ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ไวรัสเข้าถึงระบบประสาทส่วนกลาง

เรียกโรคพิษสุนัขบ้าว่าโรคกลัวน้ำ จากอาการกลัวน้ำของผู้ป่วย ทั้งเวลากินน้ำจะสำลักและเจ็บปวดมาก เพราะกล้ามเนื้อคอเป็นอัมพาตและเกร็ง

คนติดโรคพิษสุนัขบ้าได้จากการรับเชื้อซึ่งแยกได้เป็น ๒ ทาง คือ ถูกสัตว์ที่เป็นโรคกัดหรือข่วน เชื้อไวรัสจากน้ำลายของสัตว์ที่เป็นโรคจะเข้าสู่บาดแผลที่ถูกกัด หรือถูกสัตว์ที่เป็นโรคเลีย ซึ่งปกติจะไม่ติดเชื้อ นอกจากว่าบริเวณที่ถูกเลียจะมีบาดแผล หรือรอยถลอก ขีดข่วน รวมทั้งถูกเลียที่ริมฝีปาก ดวงตา จมูก

ลำดับอาการของโรคพิษสุนัขบ้า
๑.เชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำลายของสัตว์ป่วยเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลโดยการกัด ข่วน หรือเลียผิวหนังที่มีบาดแผล เพิ่มจำนวนระยะแรกในบริเวณที่ได้รับเชื้อ
๒.เชื้อเข้าสู่แขนงประสาทและระบบประสาทส่วนกลางในเส้นประสาท เชื้อจะไม่เพิ่มจำนวน
๓.เชื้อเข้าสู่สมองและเริ่มเพิ่มจำนวนเชื้อ จะมีอาการคลุ้มคลั่ง ดุร้าย กระวนกระวาย และ
๔.เชื้อเข้าสู่ไขสันหลัง เชื้อจะเพิ่มจำนวนมาก ทำให้สมองและไขสันหลังทำงานผิดปกติ มีอาการอัมพาตและตายในที่สุด ถ้าเชื้อเดินทางมาถึงสมองแล้วภูมิต้านทานที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนก็จะป้องกันไม่ได้

อาการพิษสุนัขบ้าหลังถูกสุนัขกัด ผู้ป่วยจะมีการอักเสบที่สมองและเยื่อสมอง ในระยะ ๒-๓ วันแรก โดยอาจปวดเมื่อยตัว มีไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย คันหรือปวดแสบบริเวณที่ถูกกัด ทั้งๆ ที่แผลอาจหายเป็นปกติแล้ว ต่อมาจะมีทางระบบประสาท หงุดหงิด กระสับกระส่าย อาละวาด ไม่อยู่สุข มีอาการเช่นนี้ ๒-๓ วัน

จากนั้นจะเริ่มซึมเศร้า และมีอาการกลัว ไม่ชอบแสงสว่าง ลม เสียงดัง กลัวน้ำ ซึ่งอาจพบอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ มีน้ำลายไหล กลืนอาหารลำบากและเจ็บ เพราะเกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืน แต่ยังพูดจารู้เรื่อง กระทั่งระยะสุดท้าย มีอาการเอะอะมากขึ้น สงบสลับกับชัก บางรายอาจเป็นอัมพาต หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด

เพราะส่วนที่สำคัญของสมองถูกทำลายไปหมด โดยเฉลี่ยจะเสียชีวิตใน ๒-๖ วัน เนื่องจากอัมพาตของกล้ามเนื้อ ระบบทางเดินหายใจ เพราะโรคลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

หากถูกสุนัขกัดต้อง
๑.ล้างแผลทันทีด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ ๒-๓ ครั้ง ถ้ามีเลือดออกก็ปล่อยให้เลือดไหลออก อย่าบีบหรือเค้นแผล เพราะจะทำให้เชื้อแพร่กระจายไปส่วนอื่น
๒.ใส่ยา เช่น เบตาดีน ทิงเจอร์ไอโอดีน แอลกอฮอล์ ๗๐% จะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ อย่าใส่สิ่งอื่น เช่น เกลือ ยาฉุน ลงในแผล ไม่ต้องเย็บแผล และไม่ใช้รองเท้าตบแผล เพราะอาจทำให้เชื้อกระจายไปรอบบริเวณเกิดแผลได้ง่าย และอาจมีเชื้อโรคอื่นเข้าไปด้วย ทำให้แผลอักเสบ
๓.รีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการฉีดวัคซีนและเซรุ่ม
๔.กักสัตว์ที่กัดไว้ดูอาการอย่างน้อย ๑๕ วัน โดยให้น้ำและอาหารตามปกติ อย่าฆ่าสัตว์ให้ตายทันที เว้นแต่สัตว์นั้นดุร้าย กัดคนหรือสัตว์อื่น หรือไม่สามารถกักสัตว์ไว้ได้ ถ้าสัตว์หนีหายไปให้ถือว่าสัตว์นั้นเป็นโรคพิษสุนัขบ้า และ
๕.หากสุนัขตายให้นำซากมาตรวจหาเชื้อ หากไม่ตายให้ขังไว้ดูอาการ

ย้ำ การรักษาส่วนใหญ่ทำได้โดยให้วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าหลังจากสัมผัสโรค โดยเมื่อให้อย่างถูกต้องภายใน ๑๐ วันหลังจากรับเชื้อจะสามารถป้องกันโรคได้เป็นอย่างดี การล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ทันทีเมื่อรับเชื้อ (ภายใน ๕ นาที) ก็มีส่วนช่วยลดจำนวนตัวไวรัสได้ และยังสามารถลดจำนวนเชื้อได้ด้วยการใช้โพวิโดน ไอโอดีน หรือแอลกอฮอล์ในการทำแผล


ที่มา : หนังสือพิมพ์รายวันข่าวสด