[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 26 พฤษภาคม 2554 22:59:42



หัวข้อ: ปริเวกคาถา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 26 พฤษภาคม 2554 22:59:42
(http://www.seesod.com/storage17/j0qBKEuN6e1254969156/l.jpg)



(:LOVE:)ถ่ายภาพได้อารมณ์ วิเวก โดย Sometime (:LOVE:)



วิเวก หมายถึง ความสงัด ความสงัดที่ว่านี้ไม่ไ้ด้หมายถึงสถานที่แต่เป็นสภาพ

จิตที่สงัดจากอกุศลสงัดจากกิเลสซึ่งก็มีหลายระดับขั้นด้วยกันเพราะว่าในบาง

แห่งจะแสดงวิเวก(ความสงัด)ไว้ ๕ ประการ คือ..................................

๑. ตทังควิเวก ความสงัดจากอกุศลชั่วขณะที่กุศลจิตเกิดขึ้น

๒. วิกขัมภนวิเวก ความสงัดจากอกุศล ด้วยการข่มไว้ด้วยกำลังของฌานขั้นต่าง ๆ

๓. สมุจเฉทวิเวก ความสงัดจากกิเลสอย่างสิ้นเชิงในขณะที่{มัคคจิต}เกิดขึ้น

ทำกิจประหารกิจดับกิเลสตามลำดับมรรค

๔. ปฏิปัสสัทธิวิเวก ความสงัดจากกิเลส ซึ่งเป็นความสงบระงับจากกิเลสเป็น

ผลของการดับกิเลสนั่นก็คือขณะที่ผลจิตเกิดขึ้น

๕. นิสสรณวิเวก ความสงัดอย่างแท้จริง คือ พระนิพพานเป็นสภาพธรรมที่สงัด

จากกิเลสสงัดจากสังขารธรรมทั้งปวง(สังขารธรรม เป็นสภาพธรรมที่เกิดดับ  

พระนิพพานเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ)

ซึ่งจะเห็นได้ว่าธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดมากต้องอาศัยการฟังการศึกษาจึงจะเข้า

ใจแม้แต่ในเรื่องของวิเวกก็เช่นเดียวกันไม่ว่าจะโดยนัย ๓ หรือ โดยนัย ๕ ก็ตรง

กันเพราะเป็นเรื่องความสงัดจากกิเลสสงัดจากอกุศลไม่ใช่สถานที่สำคัญอยู่ที่

ปัญญาเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงความสงัดมีเป็นลำดับขั้น ตั้งแต่ขั้นต้น

ที่เป็นกุศลธรรมในชีวิตประจำวันจนกระทั่งถึงความสงัดขั้นที่สามารถดับกิเลส

ทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด



พระพุทธเจ้าจึงไมได้บังคับให้ภิกษุทั้งหลาย หรือ อุบาสก อุบาสิกา เป็นผู้หลีกออก

จากหมู่อยู่ผู้เดียว เป็นกายวิเวก แต่พระองค์ทรงแสดงหนทางในการอบรมปัญญาเพื่อ

ว่าไม่ว่าอยู่ที่ไหน มีสภาพธรรมก็สามารถแทงตลอด ปัญญาเกิดละกิเลสได้ในขณะนั้น

ซึ่งก็มีตัวอย่างในพระไตรปิฎกมากมายที่มีผู้ที่บรรลุธรรม ท่ามกลางบริษัท ผู้คนมากมาย

ขณะที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรม

จิตวิเวก คือ ขณะที่จิตสงบจากกิเลส สูงสุดคือขณะที่ได้ฌานเป็นสมบัติ 8

อุปธิวิเวกคือสภาพธรรมที่สงัดจากสิ่งที่เป็นไปในทุกข์เป็นไปในกิเลสนั่นก็คือ

พระนิพพาน{อุปธิวิเวก}จึงเป็นความสงัดจากสังขารธรรมสงัดจากกิเลสธรรมและ

สภาพธรรมทีทุกอย่างคือพระนิพพานนั่นเอง



เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก

ผู้หวังความสวัสดีได้พากันคิดมงคลทั้งหลาย

ขอพระองค์ได้โปรดตรัสอุดมมงคล

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระคาถาตอบว่า

จิตของผู้ใดอันโลกธรรมทั้งหลายถูกต้องแล้ว

ย่อมไม่หวั่นไหว ๑

ไม่เศร้าโศก ๑

ปราศจากธุลี ๑

เป็นจิตเกษม ๑

นี้เป็นอุดมมงคล....................................



http://www.facebook.com/itsariyathanakorn (http://www.facebook.com/itsariyathanakorn)

http://twitter.com/soka45 (http://twitter.com/soka45)

http://forums.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/)

http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/03.%20Track%203.wma



......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน.........................

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ...............................  


หัวข้อ: Re: ปริเวกคาถา
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 27 พฤษภาคม 2554 07:20:30


(http://sl.glitter-graphics.net/pub/540/540957x9slahm5jk.gif)


ค่ะ น้อง"บางครั้ง"(http://www.apichoke.net/Smileys/default/avsd21abc.gif)


(http://upic.me/i/zz/kapook111596349.jpg)