หัวข้อ: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 30 เมษายน 2553 14:35:08 (http://seesod.com/storage33/4hdJVcFjUq1272613664/o.jpg) ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาโดยข้าพเจ้า(บางครั้ง)ภาพนี้เก็บอยู่ที่ สีสด DOTCOM ............................本師釋迦牟尼佛............................... .........................คาถาหฤทัยประจำพระองค์.............................. ......................โอม มุนี มุนี มหา มุนี เย สวาหา............................... ด้วยสัตว์โลกจะต้องยอมทนในความทุกข์ทั้งปวง เนื่องจากมิรู้ถึงวิธีการที่จะหลุดพ้นออกมาได้ ดังเช่นโลกแห่งนี้ที่เหล่าสัตว์ยากแก่การสั่งสอนอบรม เหตุเพราะไม่มีพระพุทธะองค์ใดมาตรัสรู้เว้นแต่พระศากยมุนีพระองค์เดียวที่อุบัติขึ้นในโลก ด้วยพระมหากรุณา จึงสามารถทรงอดทนต่อความ เหนื่อยยากได้ และด้วยพระมหาปัญญาจึงสามารถทรงตรัสรู้ได้ โดยไม่แปดเปื้อนกับมลทินของโลกพระองค์จึงทรงอุบัติด้วยกายสังขารขึ้นที่สวนลุมพินี ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์ของพระราชชนก และกรุงเทวทหะของพระราชชนนี และเหตุที่พระองค์ทรงได้ตรัสรู้และสั่งสอนสรรพสัตว์จึงได้รับการถวายพระสมญานามว่า พระบรมศาสดาแห่งโลก(本師) โดยที่แท้จริงแล้ว บรรดาพระพุทธเจ้าทั้งปวงทรงมีพระหทัยตั้งมั่นปรารถนาช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงอยู่แล้ว และด้วยอำนาจแห่งความปรารถนาที่แรงกล้า(ปณิธาน)นั้น พระองค์จึงทรงถืออุบัติขึ้นในโลกทั้งหลาย และทรงมุ่งมั่นบำเพ็ญเพียร เพราะได้ประสบกับความทุกขเวทนาต่างๆ ของโลกแล้วจึงมีพระปณิธานว่าจะโปรดฉุดช่วยให้หมดสิ้น สหาโลกธาตุเป็นชื่อเรียกโลกที่เราอยู่นี้ของพุทธศาสนา มีความหมายว่า โลกธาตุที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ซึ่งจำต้องอดทน ต้องอยู่ด้วยขันติธรรม เพราะโลกนี้เต็มไปด้วยทุกข์จากการเกิด แก่เจ็บ ตาย และโลกธรรมทั้ง ๘ เป็นต้น พระศากยมุนีทรงสามารถชำนะได้แล้ว ชาวโลกจึงถวายพระสมญา นามว่า พระผู้สามารถและผู้อารี อันแสดงถึงความไม่หวาดหวั่นต่อภัยแห่งวัฏฏสงสาร และความเมตตากรุณาเป็นที่สุด ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นเครื่องสักการะ แด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และขออุทิศเพื่อสรรพสัตว์ทั้งปวง ที่มาของเนื้อหาฉบับนี้ 後學釋聖傑 พระวิศวภัทร เสี่ยเกี๊ยก วัดเทพพุทธาราม (เซียนฮุดยี่) จ.ชลบุรี หัวข้อ: Re: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 30 เมษายน 2553 14:41:37 (http://seesod.com/storage33/4hdJVcFjUq1272613664/o.jpg) ในคัมภีร์กรุณาปุณฑริกสูตร กล่าวว่า ในอดีตกัลป์อันแสนยาวนานที่ล่วงมาแล้วนั้นพระศากยมุนีทรงเคยเสวยพระชาติเป็นมนุษย์นามว่า รัตนสาคร ได้เป็นผู้นำพา สั่งสอน ชี้นำสรรพสัตว์จำนวนมากมายไม่มีประมาณ ประดุจพระอวโลกิเตศวร พระสมันตภัทรและพระเมตไตรย ด้วยเหตุที่ พระรัตนสาครบังเกิดพระบรมโพธิจิต เวลานั้นจึงมีพระปณิธานแน่วแน่จักชำระโลกธาตุของพระองค์เองให้บริสุทธิ์อลังการ เพื่อจักสงเคราะห์แก่สรรพสัตว์ที่มีกุศลมูล ปรารถนาให้ไม่มีแม้สิ่งเดียวที่จะยังความเสื่อมชั่วร้ายแก่โลก แต่พระรัตนสาครโพธิสัตว์ในสมัยนั้นได้มีดำริว่า สัตว์ในสหาโลกธาตุ ยากที่จะช่วยเหลือ ยากที่จะโปรดยิ่งนัก แม้นหากไร้ซึ่งผู้ยินดีจะฉุดช่วยแล้วไซร้ สรรพสัตว์ในโลกแห่งความเสื่อมทั้ง ๕ นี้ก็จักมิต้องตกสู่นิรยภูมิอบายสถาน มิอาจหลุดพ้นได้เป็นอันมากเชียวหรือ พระรัตนสาคร(พระศากยมุนีในปัจจุบัน) จึงทรงประกาศพระมหาปณิธานถึง ๕๐๐ ประการ เพื่อจักได้ทรงสามารถอดทนต่อความทุกข์ของโลกแห่งความเสื่อมได้ แล้วจึงประกาศความปรารถนาว่าจะเสด็จสู่ดินแดน สหาโลกธาตุ แห่งนี้ ว่าด้วยเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายก่ออนันตริยกรรม ทำลายพระสัทธรรม พระอริยบุคคลประพฤติตนด้วยความเห็นผิด ก่อสร้างอกุศลอันสาหัสทั้งปวง ประดุจมหาบรรพตอันใหญ่ยิ่ง คือถูกอวิชชา ความโง่หลงครอบงำกดทับไว้ ด้วยเหตุที่เราจักกระทำเพื่อสรรพสัตว์แล้ว เราจึงมีจิตตั้งมั่นที่อลังการพากเพียรสั่งสมในบารมีทั้ง ๖ ประการ เหตุที่เราจักปลูกฝังกุศลมูลความดีงามในแต่ละสรรพสัตว์ทั้งปวงในสิบกัลป์จึงเข้าสู่อเวจีมหานรกเสวยทุกข์ทรมานทั้งปวง รวมทั้งเป็นเดรัจฉาน เปรต ภูติผีที่ยากไร้ และเกิดเป็นมนุษย์ที่ยากจนแสนเข็ญด้วยประการฉะนี้ในคัมภีร์พุทธมูลจริยาสูตร กล่าวว่า พระศากยมุนีเคยทรงถืออุบัติเป็นกุลบุตรเมื่อสมัยอดีตที่ยาวนานเวลานั้นได้เข้าเฝ้าฯและได้สดับฟังธรรมจากพระทีปังกรพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิดในจิตให้เกิดปีติโสมนัสศรัทธาเป็นที่สุด ได้ถวายสักการะด้วยสิ่งมีค่าเป็นอันมาก พร้อมทั้งสยายเกศาและน้อมกายของตนให้พระทีปังกรเสด็จข้ามร่างไป ด้วยมิต้องการให้มีสิ่งแปดเปื้อนต้องพระพุทธยุคลบาท เพลานั้นเมื่อ พระบาทแห่งพระทีปังกรสัมผัสร่างแล้ว จึงตั้งปณิธานว่า เราขอปณิธานสำเร็จซึ่งพระอนุตรสัมโพธิญาณในอนาคตกาลเบื้องหน้า ประดุจพระทีปังกรพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดในวารนี้อย่างมิมิดเพี้ยนจากกันเลย แลได้เป็นบรมศาสดาจารย์แห่งเทวดาและมนุษย์ทั้งปวงครั้งนั้นเมื่อพระทีปังกรพุทธเจ้าทรงทราบด้วยพระพุทธเจโตปริยญาณ ถึงมหาปณิธานอันลึกซึ้งยิ่งใหญ่นั้น ทรงทราบว่ากุลบุตรนี้ได้เพาะบ่มกุศลมูลสุกงอมแล้ว จึงประทานพุทธพยากรณ์ว่าจากนี้ไป................................................. หัวข้อ: Re: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 30 เมษายน 2553 14:49:08 (http://seesod.com/storage33/4hdJVcFjUq1272613664/o.jpg) อีกเก้าสิบเอ็ดกัลป์ ในกัลป์ชื่อว่า ภัทร จักได้สำเร็จพระพุทธญาณในอนาคตกาลเบื้องหน้า โดยจะมี พระพุทธนามว่า ศากยมุนี อย่างแน่นอนในพระสูตรต่าง ๆกล่าวไว้ว่า พระพุทธะและโพธิสัตว์ทั้งปวงเคยทรงบำเพ็ญบารมีและกุศลความดีทั้งปวงมา แล้วในอดีตที่แสนยาวนาน ดังเช่นพระศากยมุนีที่ในอดีตชาติเคยทรงถือกำเนิดในภูมิมนุษย์ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ กษัตริย์ มหาอำมาตย์ บ้างก็เป็นชาวบ้านธรรมดา จนถึงการเป็นเดรัจฉานซึ่งล้วนด้วยปณิธานอันเปี่ยมด้วยพระมหากรุณา จึงทรงกระทำประโยชน์แก่ตนและประโยชน์แก่ผู้อื่น นานัปการในคัมภีร์ที่ชื่อว่า เหตุแห่งการสร้างพระสถูปที่พระโพธิสัตว์เฉือนมังสะให้พยัคฆ์ กล่าวว่า............................................. พระศากยมุนีในสมัยหนึ่งนั้น ได้เสวยพระชาติเป็นราชบุตร แต่มิทรงยินดีในกามคุณทั้ง ๕ มุ่งมั่นต้องการแต่พระโพธิญาณความรู้แจ้ง จึงได้เสด็จสู่คิริพนาไพรเพื่อบำเพ็ญธรรม ระหว่างนั้นทรงพบเสือแม่ลูกอ่อนเพิ่งตกลูกออกมาเจ็ดตัว ด้วยหิมะตกไม่หยุดเสือนั้นจึงไม่สามารถหาอาหารได้ จึงได้แต่กอดลูกไว้ทั้งความหิวอยู่เช่นนั้น แต่ด้วยความหิวรุ่มเร้าจึงจะกินลูกในไส้ของตัวเอง ราชกุมารโพธิสัตว์เมื่อ ทอดพระเนตรแล้วจึงสลดสังเวชยิ่งนัก ทรงพิจารณาถึงชีวิตและสังขารของตนว่ามีเกิดมีดับ อันจักหาความเที่ยงแท้ไม่ได้ ล้วนแต่เป็นทุกข์ เป็นที่ประชุมของพิษร้ายทั้งปวง แลเมื่อทรงพิจารณาเห็นเช่นนี้แล้ว จึงประกาศมหาปณิธานว่าเราขออุเบกขาในชีพแลสังขารนี้ ขออุทิศตนเพื่อช่วย เหลือชีวิตแห่งสรรพสัตว์นี้ไว้อันกุศลใดจะพึงมีนั้นขอให้เราจงสำเร็จซึ่งพระโพธิญาณโดยเร็วเทอญ ฯลฯ อันสรรพสัตว์ใดที่ยังมิได้รับการโปรดเราก็จักโปรด ยังมิได้หลุดพ้นเราจักยังให้หลุดพ้น ที่ยังมิสงบระงับเราจะเป็นผู้ยังให้สงบระงับเองแล้วจึงสละสังขารเป็นทานแก่พยัคฆ์นั้นในคัมภีร์มหาปรินิรวาณสูตร บรรยายว่า ในโลกที่ไร้ซึ่งพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ พระศากยมุนีทรงบำเพ็ญทุกรจริยาอย่างยิ่งยวด ด้วยใฝ่มุ่งในพระสัตยธรรมแท้จริงเพื่อยังประโยชน์แก่สรรพสัตว์ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมิอาจสำเร็จซึ่งเป้าหมาย ภายหลังจึงเร้นกายสู่คิรีพนาวาส เพื่อบำเพ็ญเพียรสมาธิอันลึกซึ้งคัมภีรภาพ และพิจารณาธรรม เมื่อกาลเลยล่วงนับปีแต่มิทรงย่อท้อเบื่อหน่าย เทวราชสักรินทร์ด้วยปรารถนาจักทดสอบความตั้งใจจริงนั้น จึงเนรมิตกายเป็นรากษส ยักษ์ชนิดหนึ่ง ร้ายน่าสะพึงกลัวยิ่งนักมาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าและกล่าวธรรมโศลกเพียงครึ่งบทว่า สรรพจริยาเป็นอนิจจังหามั่นคงเที่ยงแท้อยู่ไม่ อันคือธรรมแห่งการเกิดขึ้นและดับลงของสรรพสิ่งทั้งปวง.................................................................. หัวข้อ: Re: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 30 เมษายน 2553 14:57:51 (http://seesod.com/storage33/4hdJVcFjUq1272613664/o.jpg) ..................................บทไตรสรณคมน์............................... ......................................ซากุยอี........................................ .............................ทำวัตรเย็นและบทมหากรุณาธารณีสูตร................................ ............................................ไตปุยจิว................................................... Chinese Buddhist Evening Ceremony 佛教 晚課 大悲咒 伽藍讚 (1) (http://www.youtube.com/watch?v=VJ2HoTtbTvc#) หัวข้อ: Re: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 30 เมษายน 2553 16:32:41 อ้อ ค่ะ อนุโมทนาสาธุรรมนะคะ น้อง"บางครั้ง" ( (o0!) ภาพประกอบอลังการ งานสร้าง!) สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ (:LOVE:) (:fall:) (:LOVE:) หัวข้อ: Re: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 30 เมษายน 2553 16:55:42 (http://kungsss.exteen.com/images/Aurora-Borealis-thumb.jpg) โอ สารีบุตร ธรรมทั้งปวงว่างเปล่า ไม่มีรูป ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่เพิ่ม ไม่ลด ในความว่างเปล่าไม่มีรูป ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ( ตอนปรัชญาปารามิตาหฤทัยสูตร ) อ่านต่อรายละเอียดเนื้อหา คลิ๊กค่ะ : http://www.sookjai.com/index.php?topic=976.0#top (http://www.sookjai.com/index.php?topic=976.0#top) หัวข้อ: Re: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 30 เมษายน 2553 18:33:16 สาธุ.........สาธุ..........สาธุ พี่ แป๋ม นับว่าเรามีบุญวาสนาต่อกันจึงได้มาศึกษาพระธรรมร่วมกันใน (:LOVE:)สุขใจ แห่งนี้ สาธุ สาธุ สาธุ (:LOVE:) (http://www.seesod.com/storage32/TSMZ7UYTe11270803878/o.jpg) หัวข้อ: Re: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้ เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 30 เมษายน 2553 19:04:55 สาธุ ๆ
หัวข้อ: Re: กระทู้นี้สำหรับ พี่ แป๋ม คร่าว ๆ น่ะ เต็มไม่ได้ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 01 พฤษภาคม 2553 04:59:37 (http://img693.imageshack.us/img693/8421/250b.gif) (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:) ต้องขอบพระคุณทุกๆท่านผู้มีส่วนร่วมในการก่อตั้งเวปสุขใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้องแม๊คค่ะ |