[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ห้องสมุด => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 12 พฤศจิกายน 2561 11:06:04



หัวข้อ: “ช้างบรรณาการ” จากรัชกาลที่ 4 จบชีวิตที่ร้านขายเนื้อกรุงปารีส!?
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 12 พฤศจิกายน 2561 11:06:04
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/51523014654715_Chang_Thai_696x554_1_.jpg)
ช้างบรรณาการจากสยามถูกปลิดชีพโดยกองกำลังป้องกันชาติเพื่อนำเนื้อไปจำหน่ายที่ร้านขายเนื้อ
ของปารีสในยามข้าวยากหมากแพง (ภาพจาก THE ILLUSTRATED LONDON NEWS, 28 January 1871)

“ช้างบรรณาการ” จากรัชกาลที่ 4 จบชีวิตที่ร้านขายเนื้อกรุงปารีส!?
ที่มา : นิตยสารศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2561

เครื่องราชบรรณาการจากสยามสมัยรัชกาลที่ 4 ส่งไปพระราชทานพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ถึงฝรั่งเศส ไม่ได้มีเพียงพระมหามงกุฎเท่านั้น แต่ยังมีช้างสยามอีก 2 เชือก ที่มีชีวิตอยู่ที่นั่นนานกว่า 10 ปี แต่อนิจจา ช้างทั้ง 2 เชือก ต้องเผชิญชะตากรรมน่ารันทด และจบชีวิตลงด้วยฝีมือทหารฝรั่งเศส ใน ค.ศ.1870 เกิดอะไรขึ้นกับของขวัญจากสยาม

ช้างบรรณาการจากสยามได้รับการต้อนรับที่ปารีสอย่างอบอุ่น พระเจ้านโปเลียนที่ 3 ได้ทรงมอบให้หน่วยงานของสวนสัตว์กรุงปารีสเป็นผู้ดูแลเป็นอย่างดี จนพอจะคุ้นเคยกับสภาพภูมิอากาศแบบเมืองหนาว และมีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางกับเด็กๆ ที่มาเยี่ยมเยียนสวนสัตว์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เมื่อใดที่มีการโฆษณาหรือพูดถึงสวนสัตว์ Jardin des Plantes ช้างสยาม 2 เชือกนี้ก็จะเป็นดาวเด่นในใบโฆษณาเสมอ

ที่ปารีสพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ได้พระราชทานชื่อใหม่อันโก้หร่านให้ช้างบรรณาการคู่นี้ว่า คาสเตอร์ และพอลลุกซ์ (Castor & Pollux) ตามชื่อของพระโอรสแฝดของเทพธิดาลีด และเทพเจ้าซีอุส (Leda & Zeus) ทำให้ช้างทั้งคู่มีสถานภาพค่อนข้างมีเส้นสายกับทางราชสำนักและมีกิตติศัพท์พอควร

ช้างสยามทั้ง 2 เชือก ใช้ชีวิตอยู่ภายในสวนสัตว์กรุงปารีสจนมีอายุราว 14 ปี ก็เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองขึ้นปลายรัชกาลของพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของช้างคู่นี้โดยตรง!?

ในปี ค.ศ.1870-71 เกิดสงครามฟรังโก-ปรัสเซีย ส่งผลให้ฝรั่งเศสพ่ายแพ้อย่างยับเยิน พวกสาธารณรัฐนิยมในปารีสฉวยโอกาสทำการปฏิวัติล้มราชบัลลังก์ แล้วจัดตั้งระบอบสาธารณรัฐขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโจมตีและประณามพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ว่าเป็นต้นเหตุของความพ่ายแพ้และอับจน ทรงถูกจับและเนรเทศออกนอกประเทศอย่างน่าเวทนา คุณความดีของราชวงศ์โบนาปาร์ตลบเลือนออกไปจากหัวใจของประชาชนจนหมดสิ้น


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/39113989844918_Napol_on_3_892x1024_1_.jpg)
พระเจ้านโปเลียนที่ 3

กรุงปารีสถูกปิดล้อมนานหลายเดือน เกิดยุคข้าวยากหมากแพง แต่ในปารีสเป็นที่อยู่ของทั้งคนรวยและคนจน คนจนต้องจับหนู และเอาหมาแมวที่ตนเลี้ยงไว้มากินกันตาย

แต่คนรวยที่อยู่ในปารีสก็ยังพอใช้เงินซื้อหาอาหารได้ แต่ที่ขาดแคลนคืออาหารชั้นดีที่คนมีฐานะต้องการในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของสังคมมีระดับปลายปี ค.ศ.1870 ทางการจึงตัดสินใจชำแหละเนื้อของสัตว์ในสวนสัตว์อันเป็นแหล่งเนื้อชั้นดีแห่งเดียวที่เหลืออยู่ และกองกำลังป้องกันชาติตั้งกองกำลังดูแลสัตว์จากการถูกขโมยมาปีกว่า

แต่แล้วในที่สุด ช้างสยาม 2 เชือกสุดท้าย ซึ่งเป็นของขวัญจากพระเจ้ากรุงสยามก็ถูกสังเวยชิวิตเพื่อเอาใจคนมีฐานะ ถูกฆ่าและชำแหละที่ร้านขายเนื้อ เป็นเมนูอาหารชั้นเลิศ ณ ภัตตาคารหรูของปารีส เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วยุโรปต้นปี ค.ศ.1871



คัดบางส่วนมาจากบทความ “ช้างบรรณาการ” จากรัชกาลที่ 4 จบชีวิตที่ร้านขายเนื้อกรุงปารีส จริงหรือ? โดย ไกรฤกษ์ นานา ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกันยายน 2559