หัวข้อ: หลวงพ่อคูณ สิริธัมโม วัดดอกบัวทอง หมู่ 3 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 21 พฤศจิกายน 2561 15:25:41 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/36271337088611_1_1024x768_.jpg) พระครูสุวรรณปทุมรักษ์ หรือ หลวงพ่อคูณ สิริธัมโม วัดดอกบัวทอง หมู่ 3 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พระครูสุวรรณปทุมรักษ์ หรือ หลวงพ่อคูณ สิริธัมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดดอกบัวทอง หมู่ 3 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เป็นพระปฏิบัติสายมหานิกาย ที่มีศีลาจารวัตรงดงาม เคร่งธรรมเคร่งวินัย เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยและยังเป็นพระนักพัฒนา ทำให้เป็นที่นับถือศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนในจังหวัดสุรินทร์และใกล้เคียง มีเลือดเนื้อเชื้อไขสายขะแมร์ เมืองแปะ บุรีรัมย์ เกิดวันพุธที่ 6 ส.ค.2456 บ้านเลขที่ 32 บ้านเขว้า ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนบ้านเขว้า ในปี 2477 อายุครบ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดจำปา อ.ประโคนชัย มีพระครูบริหารกิจโกศล เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า อโสโก จากนั้นไปจำพรรษาที่วัดบ้านเขว้า ศึกษาพระธรรมวินัย 1 พรรษา จากนั้นไปธุดงค์ประเทศกัมพูชา 4 ปี ศึกษาอักขระขอม จนสามารถเขียนอ่านอักษรอย่างผู้ชำนาญ และฝึกช่างวาดภาพ แกะสลัก ช่างอิฐปูนปั้นรูปเหมือน และช่างไม้อีกด้วย ในปี พ.ศ.2481 กลับภูมิลำเนา ขอลาสิกขาและแต่งงานอยู่กินกับนางเสริญ มีบุตรชายหญิง 5 คน เมื่อครั้งเข้าประเทศกัมพูชา เรียนวิชาหลายอย่าง หายจากบ้านเป็นอาทิตย์ บางครั้งเป็นเดือน กระทั่งมีเสียงร่ำลือว่าไปเป็นนักเลงหัวไม้ บิดาต้องวิงวอนให้ยุติเป็นนักเลง เพราะชีวิตจะสั้น พ.ศ.2506 เข้าพิธีอุปสมบทเป็นครั้งที่ 2 เพื่อไถ่บาป ณ วัดมุนีนิรมิต (วัดกำโปล) ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มี พระครูไพศาลมุนีธรรม (หลวงพ่อเมริก) ซึ่งเป็นศิษย์ของ (หลวงพ่อจุก) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า สิริธัมโม ฝึกปฏิบัติธรรมสายวิปัสสนา 1 พรรษา ต่อจากนั้นจึงไปนมัสการหลวงปู่สุข ธัมมโชโต วัดละหารทราย ปรนนิบัติรับใช้ 1 พรรษา โดยหลวงพ่อสุขเมตตายอมถ่ายทอดวิชาเสกน้ำมนต์ เพื่อช่วยปัดเป่าคลายทุกข์ให้ราษฎร ใครที่ได้รับน้ำมนต์หลวงพ่อคูณต่างยอมรับในความขลัง พ.ศ.2507 หลวงพ่อเมริกได้เรียกหลวงพ่อคูณไปพบเพื่อให้ช่วยพัฒนาถาวรวัตถุวัดต่างๆ ช่วยสร้างศาลาเรือนไม้วัดเจ้าคุณ สร้างโบสถ์วัดบ้านโดนโอก นอกจากนี้ยังสร้างกุฏิวัดสองชั้น และก่อสร้างปูนปั้นพระประธานวัดละลมระไซ พ่อเมริกจึงรับไว้เป็นศิษย์ ถ่ายทอดวิชาอาคม เขียนผ้ายันต์ เขียนตะกรุดโทน จนวัตถุมงคลเครื่องรางของท่านขึ้นชื่อ ได้รับความนิยมจากศิษยานุศิษย์อย่างท่วมท้น พ.ศ.2508 ได้รับนิมนต์ให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอกบัวทอง บ้านบักดอก ต.ปรือ อ.ปราสาท ซึ่งเป็นวัดร้าง นำพระภิกษุสงฆ์พัฒนาสร้างถาวรวัตถุ เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ ทั้งอุโบสถ 7 ล้านบาท สร้างซุ้มประตู ฯลฯ พร้อมกับปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีแต่ความร่มรื่นสวยงาม พ.ศ.2519 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลปรือ พ.ศ.2526 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสุวรรณปทุมรักษ์ หลวงพ่อคูณ อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนามาอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย จากชีวประวัติเป็นนักเลงหัวไม้ กลับเนื้อกลับตัวเข้าอุปสมบทครั้งที่ 2 อุทิศตัวเพื่อพระพุทธศาสนา นำวิชาช่างฝึกสอนให้พระภิกษุสงฆ์ ไปประกอบอาชีพยั่งยืน จึงเป็นทิฏฐานุคติสำหรับอนุชนรุ่นหลัง พ.ศ.2531 หลวงพ่อคูณได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคล เหรียญรูปเหมือน รุ่นแรก จำนวน 15,000 เหรียญ เพื่อแจกจ่ายในงานทอดผ้าป่าในปี พ.ศ.2533 จัดสร้างเหรียญ รุ่น 2 ในปี 2537 จัดสร้างเหรียญ รุ่น 3 พร้อมตะกรุด ผ้ายันต์ และเริ่มป่วยอาพาธ จนกระทั่งวันที่ 29 มิ.ย.2541 หลวงพ่อคูณ มรณภาพอย่างสงบ รวมอายุ 85 ปี โดยจังหวัดสุรินทร์ได้จัดพิธีพระราชทานเพลิง เมื่อวันที่ 9-13 มี.ค.2543 อริยะโลกที่ 6 |