หัวข้อ: หลวงปู่ราม ปรักกโม วัดวังเงิน ต.บ้านน้ำพุ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 04 มีนาคม 2562 15:24:49 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/53540239358941_view_resizing_images_2_320x200.jpg) หลวงปู่ราม ปรักกโม วัดวังเงิน ต.บ้านน้ำพุ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย จังหวัดสุโขทัยมีพระเกจิชื่อดังหลายรูป อาทิ หลวงพ่อปี้ ทินโน วัดคูหาสุวรรณ, หลวงพ่อห้อม อมโร วัดคูหาสุวรรณ, หลวงปู่โถม กัลยาโณ วัดธรรมปัญญาราม ฯลฯ แต่พระเกจิอาจารย์ที่กล่าวนามไปแล้วนั้นมรณภาพละสังขารไปแล้วทั้งสิ้น ปัจจุบันยังมีพระเถราจารย์ที่มากไปด้วยความรู้ ความสามารถและสืบทอดสรรพวิชาไว้ได้อย่างเข้มขลังคือ "หลวงปู่ราม ปรักกโม" พระเกจิที่มีชื่อเสียงปฏิปทาเป็นที่เลื่อมใสและศรัทธาของชาวจังหวัดสุโขทัยและใกล้เคียง ได้รับสมญานาม "เทพเจ้าแห่งโชคลาภ" เป็นศิษย์สืบสายพุทธาคมของหลวงปู่โถม วัดธรรมปัญญาราม, หลวงปู่ทุเรียน วรธัมโม วัดศรีคีรีสุวรรณาราม (วัดท่าดินแดง) อ.คีรีมาศ และหลวงพ่อจ้อย ฐิตปุญโญ แห่งวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันสิริอายุ 74 ปี พรรษา 34 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดวังเงิน ต.บ้านน้ำพุ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย เกิดในสกุลทองสุข เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2488 (แรม 9 ค่ำ เดือน 4) ปีระกา ที่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย เป็นบุตรของนายเฉื่อยและนางตะล่อม ทองสุข มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน เป็นชาย 4 หญิง 4 ช่วงวัยเยาว์ เรียนรู้ไว เลี้ยงง่าย เป็นที่รักของเพื่อนและครูบาอาจารย์ เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 บรรพชาที่วัดไทยชุมพล อ.เมือง จ.สุโขทัย จากนั้นเข้าพิธีอุปสมบทเล่าเรียนพระธรรม พอสมควร จึงลาสิกขาออกมาและได้รับการประสิทธิ์ประสาทวิชาเป็นศิลปิน มีครูบาอาจารย์บรมครูฤๅษีในด้านการแสดงตั้งชื่อ ให้ว่า "รามเมศ ทองสุขใส" ตระเวนแสดงไปหลายจังหวัด ไกลสุดถึง จ.สุราษฎร์ธานี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักชื่นชอบ ในปี พ.ศ.2528 ช่วงที่เปิดการแสดงอยู่ทางภาคใต้ ทราบข่าวว่าพี่สะใภ้ไม่สบาย อาการค่อนข้างหนัก จึงตั้งอธิษฐานขอเข้าร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งที่วัดศรีชุม (หลวงพ่อใหญ่อจนะ) โดยมีพระครูสถิตย์ญาณคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูแห้ว เขมโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูอำนวย เตชวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า "ปรักกโม" หมายถึง ผู้มีความพากเพียร เมื่อบวชแล้วปรากฏว่าอาการของพี่สะใภ้ดีขึ้นตามลำดับ หลังบวชได้ศึกษาพระธรรม บทสวดต่างๆ จนมีความแตกฉาน แล้วออกเดินธุดงค์ไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่โถม วัดธรรมปัญญาราม และหลวงปู่ทุเรียน วัดท่าดินแดง แล้วธุดงค์ไปฝึกปฏิบัติจิตที่อุทยานน้ำตกสายรุ้ง ซึ่งบริเวณนี้เป็นแหล่งซ่องสุมของเหล่าโจรที่ทางการต้องการตัว โดยท่านใช้ธรรมะและความเมตตาเอาชนะพวกโจร จนกระทั่งหันมาให้ความเคารพศรัทธาในตัวท่าน จากนั้นธุดงค์ต่อไปทางอุดรธานี, หนองคาย ไล่ลงไปจนถึงภาคใต้ ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ก่อนกลับมาเจริญภาวนาต่อที่ถ้ำน้ำตกสายรุ้ง ครั้งหนึ่งไปพบเห็นวัดร้าง (วัดวังเงิน) ตั้งอยู่บนภูเขา ซึ่งชาวบ้าน เรียกว่าเขาน้อย จึงตั้งใจบูรณปฏิสังขรณ์จนเจริญรุ่งเรือง โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากชาวบ้าน ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังเงิน สืบมาจนถึงปัจจุบัน เปี่ยมด้วยความเมตตา โดยมุ่งบำเพ็ญเพียรภาวนาเข้านิโรธสมาบัติอยู่เป็นประจำ อีกทั้งช่วยสงเคราะห์ชาวบ้านผู้เดือดร้อนและบูรณะวัดวังเงิน นำวิชาต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียน สงเคราะห์ญาติโยมที่มากราบหรือ มาพึ่งบารมีของท่าน ช่วยขจัด ปัดเป่าให้บรรเทาเบาบางลงไป ด้วยความเป็นพระที่เมตตา เข้าถึงง่าย จึงเป็นที่เคารพและศรัทธาของคนในพื้นที่และใกล้เคียงมากพอสมควร งานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนร่วมกับข้าราชการ พุทธศาสนิกชน จัดทำบุญในวันสำคัญต่างๆ ท่านมีปฏิปทาที่มั่นคง เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีสัจจะบารมีแน่วแน่มั่นคง ปฏิบัติเกื้อกูลต่อพุทธศาสนิกชนที่มากราบนมัสการอย่างสม่ำเสมอกัน ทุกวันนี้ยังคงมุ่งมั่นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบไป อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์ |