หัวข้อ: หลวงปู่สาร พุทธสโร วัดมหาชัย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 04 มีนาคม 2562 15:25:43 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/38930518469876_view_resizing_images_4_320x200.jpg) หลวงปู่สาร พุทธสโร (พระสารคามมุนี) วัดมหาชัย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม พระสารคามมุนี หรือ หลวงปู่สาร พุทธสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาชัย และอดีตเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวมหาสารคาม ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีผลงานมากมายทั้งการศึกษา การพัฒนาเสนาสนะ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีนามเดิม สาร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม เกิดเมื่อวันที่ 9 ก.พ.2428 ณ บ้านใต้นางใย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เมื่ออายุ 17 ปี เข้าพิธีบรรพชา ณ วัดอุทัยทิศ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม จนเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดอุทัยทิศ มี พระครูโยคีอุทัยทิศ วัดอุทัยทิศ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดชัย วัดอุทัยทิศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระสมุห์ดี วัดอุทัยทิศ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา พุทธสโร ด้วยความมุ่งมั่น ประสงค์ที่จะศึกษาพระธรรมวินัย จึงขอให้พระเจริญราชเดช เจ้าเมืองมหาสารคามในขณะนั้น ซึ่งเป็นญาติพาท่านลงไปฝากที่สำนักเรียนวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพฯ มุมานะเล่าเรียนอย่างหนัก พ.ศ.2458 สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรบาลีธรรมบทและสอบได้นักธรรมตรี พ.ศ.2462 ท่านได้เดินทางกลับมหาสารคาม มาจำพรรษาอยู่ที่วัดมหาชัย ต.ตลาด อ.เมือง หลวงปู่สารเป็นผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลมมีความรู้ด้านธรรมบาลีแตกฉาน ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมและเป็นผู้จัดการเรียนการสอนปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดมหาชัย ตลอดเวลาท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งมุ่งพัฒนาการเรียนการสอนให้เป็นระเบียบ ส่งผลให้สำนักเรียนวัดมหาชัยในสมัยนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วอีสานอย่างรวดเร็ว ยังศึกษาเรียนรู้ระบบงานบริหารปกครองคณะสงฆ์ จนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง เป็นที่ไว้วางใจของคณะสงฆ์ว่ามีความรู้ความสามารถที่จะดูแลปกครองพระภิกษุสามเณรได้ ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2465 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองมหาสารคาม พ.ศ.2468 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2475 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม หลวงปู่สารปฏิบัติหน้าที่กิจของสงฆ์ด้วยความขยันขันแข็งไม่เคยขาดตกบกพร่อง ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2469 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูอดุลศีลพรต พ.ศ.2477 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสารคามมุนี พ.ศ.2480 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะจังหวัดชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2482 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระสารคามมุนี พ.ศ.2499 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระสารคามมุนี ศรีสินธุคณาภิบาล ยติคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี มีผลงานเป็นที่ประจักษ์หลายด้าน อาทิ จัดการอบรมพระภิกษุสามเณรที่วัดมหาชัย ไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อยเสียหาย นอกจากนี้ ยังได้ตั้งสำนักอบรมครูธรรมและครูตามโรงเรียนต่างๆ ก่อสร้างโรงเรียนประจำจังหวัดและอำเภอทั่วทั้งจังหวัด ในวันสำคัญทางศาสนา หลวงปู่จะแสดงเทศนาบรรยายธรรมให้ญาติโยมนำไปปฏิบัติตลอดปี ด้วยความที่เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ วัดมหาชัยจึงมีพุทธศาสนิกชนมาร่วมทำบุญและรับฟังเทศน์จากหลวงปู่สารเป็นจำนวนมาก พ.ศ.2471 ท่านได้ร่วมกับญาติโยมที่มีจิตศรัทธาก่อสร้างพระอุโบสถ 1 หลัง พ.ศ.2473 ได้สร้างพระประธานประดิษฐานไว้ในอุโบสถ พร้อมด้วยพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร ในครั้งนั้นยังได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึกพระแก้วมรกตขึ้นจำนวนหนึ่ง ออกแจกจ่ายญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ ในปัจจุบันกลายเป็นเหรียญที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด และมีราคาเช่าหาแพงถึงหลักหมื่น พระเกจิชื่อดังในยุคนั้นร่วมงานพุทธาภิเษกจำนวนมาก อาทิ หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี เป็นต้น ในช่วงบั้นปลายของชีวิต ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร หลวงปู่เริ่มอาพาธบ่อยครั้งด้วยโรคหัวใจ สุดท้ายท่านถึงแก่มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 76 ปี พรรษา 56 อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์ |