หัวข้อ: หลวงปู่หนู จันทสโร วัดบ้านกุดแคน จ.มหาสารคาม เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 03 พฤษภาคม 2562 16:09:10 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/14407885902457_view_resizing_images_1_320x200.jpg) หลวงปู่หนู จันทสโร วัดบ้านกุดแคน จ.มหาสารคาม หลวงปู่หนู จันทสโร หรือ พระครูสุตสารวิสิษฐ์ วัดบ้านกุดแคน จ.มหาสารคาม มีชื่อเสียงโด่งดังร่วมสมัยเดียวกับหลวงปู่มี กนฺตสีโล วัดแวงดง เกิดในสกุล ใบบ้ง เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2441 ที่บ้านกุดแคน จ.มหาสารคาม ขณะศึกษาอยู่ชั้นประถม ได้ขอให้บิดา-มารดา พาไปบวชเณรที่วัดในหมู่บ้าน ด้วยความประสงค์ต้องการศึกษาพระธรรมวินัย เดินทางไปอยู่ที่วัดบ้านนาเลา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เรียนมูลกัจจายน์ หนังสือไทย วิชาลูกคิด ด้วยความที่เป็นคนฉลาด มีความจำเป็นเลิศ ทำให้ท่องปาติโมกข์ได้อย่างคล่องแคล่ว อายุครบ 20 ปีเข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดบ้านนาเลา โดยมีพระครูวาปีสมณคุต เจ้าคณะอำเภอวาปีปทุม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอาจารย์ลี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลังอุปสมบท ออกธุดงค์ตามรอยพระตถาคตไปจำพรรษาตามป่าเขาในเขตจังหวัดลพบุรี เคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่าช่วงนี้ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ศึกษาวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่ง ไม่ได้บอกชื่อพระอาจารย์เท่านั้น ได้รับการถ่ายทอดวิชาคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม ปราบภูตผีปีศาจ พ.ศ.2478 กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านกุดแคน เนื่องจากหลวงปู่ซุย เจ้าอาวาสวัด ต้องการให้มาร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรือง พ.ศ.2484 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านกุดแคน แม้จะเคร่งในวัตรปฏิบัติ แต่บางครั้งท่านก็มีอารมณ์ขัน เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ปกครองพระภิกษุสามเณร แบบบิดาปกครองบุตร ใช้ทั้งพระเดชและพระคุณ พร่ำสอนให้ญาติโยมรู้จักดำรงตนอยู่ในกรอบแห่งศีลธรรมยึดศีล 5 เป็นหลักจะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขสงบ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญการศึกษาสงฆ์ ด้วยการบวชเรียนเป็นทางเลือกหนึ่งของคนยากคนจนชาวอีสาน สมัยนั้นพระเณรในเขตตำบลนี้ ต้องเดินทางไปสอบในตัวเมืองที่ห่างไกล การสัญจรไปมาลำบากมาก จัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมและขออนุญาตเป็นสนามสอบ โดยยังได้ทำหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม รวมทั้งให้ทุนอุปถัมภ์การศึกษาแก่พระสงฆ์รวมทั้งนักเรียนโรงเรียนประถมในหมู่บ้านที่เรียนดี พ.ศ.2503 กระทรวงศึกษาธิการ เห็นว่าเป็นผู้สร้างคุณูปการให้วงการศึกษาทั้งพุทธจักร และอาณาจักร ได้แต่งตั้งให้เป็นกรรมการศึกษาโรงเรียนบ้านกุดแคน สำหรับตำแหน่งงานด้านปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2492 เป็นเจ้าคณะตำบลโคกก่อ อ.เมือง และเป็นพระอุปัชฌาย์ ปี พ.ศ.2493 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นตรีที่ พระครูสุตสารวิสิษฐ์ มีสุขภาพดี ไม่เคยเจ็บไข้ แต่เมื่อล่วงเข้าสู่ปัจฉิมวัยก็ไม่อาจหลีกหนีกฎแห่งธรรมชาติ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย พ.ศ.2506 เริ่มอาพาธเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ละสังขารเมื่อวันที่ 29 เม.ย.2508 สิริอายุ 67 ปี พรรษา 47 อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์ |