[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 22 พฤษภาคม 2562 16:16:52



หัวข้อ: หลวงปู่ชาย อัตตทันโต วัดบ้านศาลา ต.หนองกุงสวรรค์ ต.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 22 พฤษภาคม 2562 16:16:52
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/80230273140801_view_resizing_images_2_320x200.jpg)

หลวงปู่ชาย อัตตทันโต
วัดบ้านศาลา ต.หนองกุงสวรรค์ ต.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม

พระครูธรรมาภิราม หรือ หลวงปู่ชาย อัตตทันโต อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านศาลา ต.หนองกุงสวรรค์ และอดีตรองเจ้าคณะอำเภอโกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่เรืองวิทยาคม มีชื่อเสียงโด่งดังในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ร่วมสมัยกับ หลวงปู่สิงห์ คัมภีโร วัดบ้านศรีสุข

เกิดในสกุล สุทธิวิเศษ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2464 ที่บ้านศาลา ต.เหล่า อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม บิดา-มารดา ชื่อ พ่อพา-แม่บุญมา สุทธิวิเศษ ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

ช่วงวัยเด็ก หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดบ้านหนองกุง ได้ลาออกมาช่วยงานครอบครัวแม้อยากจะเรียนต่อชั้นสูง แต่เนื่องจากครอบครัวฐานะยากจน

เมื่ออายุได้ 20 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่อุโบสถวัดอัมพวนาราม ต.แพง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม โดยมีพระอาจารย์ สงฆ์เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ศรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาทุย เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ที่สำนักเรียนวัดบ้านหนองแคน อ.โกสุมพิสัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาวัดบ้านศาลา ขาดแคลนพระผู้ใหญ่ บรรดาญาติโยมจึงนิมนต์ให้กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด

ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาเสนาสนะ สาธารณูปโภค สาธารณูปการภายในวัดอย่างเต็มที่ รวมทั้งก่อตั้งสำนักเรียนเพื่อให้ภิกษุ-สามเณรได้มีที่ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ไม่ต้องเดินทางไปเรียนไกลถึงในตัวอำเภอ

นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจด้านวิทยาคม ในยุคนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่ศรีธรรมศาสน์ วัดใต้โกสุม อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม โด่งดังไปทั่วอีสานกลาง จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ ซึ่งหลวงปู่ศรีธรรมศาสน์ ได้เมตตาถ่ายทอดวิทยาคมให้จนหมดสิ้น

อีกทั้งยังได้ให้ความสนใจด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน แต่ด้วยความน้อยประสบการณ์ จึงตัดสินใจเข้ารับการอบรมและปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ กับท่านเจ้าคุณพิมลธรรม (อาจ อาสภเถระ) จนมีความรู้แตกฉานในเรื่องวิปัสสนากัมมัฏฐาน

เป็นผู้ชมชอบความสันโดษ หลังเทศกาลออกพรรษาทุกปี หลวงปู่จะออกเดินธุดงควัตรไปตามป่าเขาลำเนาไพรหลายแห่งในภาคอีสาน เพื่อแสวงหาความหลุดพ้นตามรอยพระตถาคต

พ.ศ.2499 ย้ายไปจำพรรษารับตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสังข์ทองวนาราม อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม จากการที่ท่านเป็นพระนักปฏิบัติจึงตั้งสำนักวิปัสสนากัมมัฏฐาน และเปิดศูนย์อบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานไปอีกหลายจังหวัด จนท่านได้รับตราตั้งให้เป็นพระวิปัสสนาจารย์ หัวหน้าจังหวัดมหาสารคาม

พร่ำสอนญาติโยมอยู่เสมอว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย แขวนคออยู่ทุกย่างก้าว ดังนั้น จงอย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท ให้ประพฤติปฏิบัติแต่กรรมดี ละเว้นชั่ว จะทำให้ชีวิตตนเองและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดไป

งานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2494 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านศาลา พ.ศ.2499 เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านสังข์ทองวนาราม

พ.ศ.2524 ตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอโกสุมพิสัย

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2517 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ขึ้นเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ "พระครูธรรมาภิราม" ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นโท และเอก ตามลำดับ ในราชทินนามเดิม

ช่วงปัจฉิมวัย ได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านศาลา บ้านเกิด และช่วงนี้หลวงปู่ได้เริ่มอาพาธบ่อย ด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

สุดท้ายถึงแก่มรณภาพใน พ.ศ.2543 สิริอายุ 79 ปี พรรษา 59 


อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์