[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 07 มิถุนายน 2562 15:48:23



หัวข้อ: หลวงปู่บาล สุวีโร วัดบ้านโจด อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 07 มิถุนายน 2562 15:48:23
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/60557527219255_view_resizing_images_2_320x200.jpg)

หลวงปู่บาล สุวีโร
วัดบ้านโจด อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ 

พระครูวีรสุธรรมาภรณ์ หรือ หลวงปู่บาล สุวีโร พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีวัตรปฏิบัติดี เป็นทั้งพระนักพัฒนา นักปกครอง นักการศึกษา อีกทั้งยังเป็นพระเกจิอาจารย์ สืบสายธรรมจากพระเกจิหลายรูป อาทิ หลวงปู่เพ็ง ธัมมทินโน วัดบ้านปะเคียบ, หลวงปู่เลื่อน วัดสุดเขต อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นต้น

ท่านยังเป็นพระเถระที่อายุพรรษามากอีกรูปหนึ่งของคณะสงฆ์เมืองบุรีรัมย์

ปัจจุบัน สิริอายุ 80 ปี พรรษา 60 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านโจด-หนองฮาง และเป็นเจ้าคณะอำเภอคูเมือง จ.บุรีรัมย์

มีนามเดิม บาล กระแจะจันทร์ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2482 ที่บ้านโจด ต.ปะเคียบ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ (สมัยนั้น)

หลังจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านโจด ออกมาช่วยงานทำไร่ทำนาช่วยครอบครัวด้วยความแข็งขัน

เนื่องจากเป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม เมื่ออายุได้ 18 ปี จึงขอให้บิดา-มารดา นำไปบรรพชาที่วัดโพธิ์ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์

ครั้นอายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ โดยมีพระครูพุทธพิพัฒน์ เป็นพระอุปัชฌาย์

จากนั้น เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนนักธรรมบาลี ที่วัดกลาง พระอารามหลวง จ.บุรีรัมย์ มุมานะสอบได้นักธรรมชั้นเอก

ขณะเดียวกัน ยังได้ให้ความสนใจด้านวิทยาคม จึงฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมจากหลวงปู่เพ็ง ธัมมทินโน วัดบ้านปะเคียบ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้น ซึ่งหลวงปู่เพ็ง ก็ได้ถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น

นอกจากนี้ ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมจากพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงปู่เลื่อน วัดสุดเขต อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นต้น

นับแต่เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ จำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดบ้านโจด ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ วัดบ้านเกิดมาตลอด ช่วงที่เป็นพระหนุ่มไฟแรงหลังออกพรรษาทุกปี ท่านมักจะออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขา โดยเฉพาะป่าตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา

ด้วยความที่มีวัตรปฏิบัติดี ทำให้ชื่อเสียงของท่านเริ่มเป็นที่รู้จัก ในแต่ละวันจึงมีญาติโยมจำนวนมากเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ไม่ขาดสาย

สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาคท่านได้ นำมาพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดแห่งนี้ ได้ก่อสร้างถาวรวัตถุอย่างมากมาย อาทิ ศาลาการเปรียญ กำแพงแก้ว ประตูโขง หอระฆัง พระอุโบสถ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาสงฆ์ ท่านบริจาคปัจจัยส่วนตัวให้การสนับสนุนการเรียนการสอนแก่พระภิกษุสามเณร หากรูปใดมีความตั้งใจเรียนและเรียนดี ก็จะจัดหาทุนมอบให้ทุกปี หากรูปใดไม่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนท่านก็ใช้ความเมตตาคอยชี้แนะอบรมสั่งสอน

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2532 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูวีรสุธรรมาภรณ์ พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท และ พ.ศ.2550 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกในราชทินนามเดิม

ส่วนตำแหน่งทางปกครอง พ.ศ.2518 เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโจด พ.ศ.2542 เป็นเจ้าคณะตำบลปะเคียบ พ.ศ.2529 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2553 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอคูเมือง และพ.ศ.2559 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอคูเมือง จวบจนปัจจุบัน

ถึงแม้มีอายุย่างเจ็ดสิบปี อยู่ในช่วงปัจฉิมวัย แต่ร่างกายยังแข็งแรง เนื่องจากท่านไม่ยอมอยู่นิ่ง หากว่างศาสนกิจ จะพาภิกษุ-สามเณร พัฒนาบริเวณวัดให้มีความสะอาดสวยงามสร้างความเจริญหูเจริญตาแก่บรรดาญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด ดังนั้น จึงยังรับกิจนิมนต์เป็นปกติ

ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท มีความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ร่วมโลกและให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญ

ถือเป็นเพชรเม็ดงามอีกรูปของวงการสงฆ์เมืองบุรีรัมย์โดยแท้


อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์