หัวข้อ: หลวงปู่ญาท่านโทน ขันติโก วัดบ้านพลับ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 07 มิถุนายน 2562 15:58:37 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/16346032338009_view_resizing_images_4_320x200.jpg) หลวงปู่ญาท่านโทน ขันติโก วัดบ้านพลับ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี หลวงปู่ญาท่านโทน ขันติโก พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสบ้านพลับ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ลูกศิษย์ลูกหาต่างเรียกขานท่านว่า "พระทองคำแห่งเมืองดอกบัว" ด้วยวัตรปฏิบัติอันงดงามและเรียบง่าย อยู่แบบสันโดษ เกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2467 ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 6 ที่บ้านพับ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี บิดา-มารดา ชื่อ นายมาและนางคำ เผ่าพันธุ์ ในวัยเด็กได้เรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาลประจำตำบล จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2487 ที่วัดบ้านก่อ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โดยมีพระครูสุตาภรณ์ วัดคูขาด เป็นพระอุปัชฌาย์, ญาท่านกรรมฐานแพง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และญาท่านทน วัดคูขาด เป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับฉายา "ขันติโก" จำพรรษาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดบ้านก่อ ในยุคนั้นชื่อเสียงของญาท่านกรรมฐานแพง พระกรรมวาจาจารย์ของท่านโด่งดังไปทั่วอีสานในฐานะพระเกจิผู้เรืองวิทยาคม จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิทยาคม โดยญาท่านกรรมฐานแพง เมตตาถ่ายทอดวิทยาคมให้จนหมดสิ้น ซึ่งพระกรรมฐานแพง เป็นอาจารย์ของญาท่านสวน วัดนาอุดมด้วย จากนั้นไปเรียนวิชาจาก "ญาท่านอิน" เจ้าตำรับประคำสายดำ ได้ศึกษาวิชาจารย์หลวงพ่อเคน เรวโต ด้วยวัตรปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย และเป็นศิษย์ของญาท่านกรรมฐานแพง ทำให้ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีอุปนิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยพูด คราวที่ท่านพูด จะได้รับคำเรียกขานจากชาวบ้านว่า "วาจาสิทธิ์" เป็นดั่งปากท่านปรารภทุกคราวไป วัตรปฏิบัตินั้น ช่วงหลังเทศกาลออกพรรษาทุกปี จะออกเดินธุดงควัตรไปตามป่าเขาลำเนาไพรหลายแห่งในภาคอีสาน โดยเฉพาะแถบเทือกเขาภูพาน สมัยนั้นป่าอุดมสมบูรณ์มาก บางครั้งเผชิญสัตว์ร้าย แต่ท่านหาหวั่นไม่ เนื่องจากมีพลังจิตที่กล้าแข็งมาก ท่านได้แผ่เมตตาจิตให้สัตว์เหล่านั้นไม่เข้ามาทำร้ายแต่ อย่างใด ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเถระรูปหนึ่งที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ในแต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการอย่างล้นหลาม สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาค นำไปพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดแห่งนี้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ กุฏิศาลาการเปรียญ ทำให้วัดบ้านพลับแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังนำพระภิกษุ-สามเณร และญาติโยมร่วมกันปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีความร่มรื่นสวยงามด้วยการปลูกต้นไม้ สร้างความสงบวิเวกเหมาะสมในการปฏิบัติธรรมยิ่งนัก ถ่ายทอดหลักธรรมง่ายๆ แก่ชาวบ้านให้ยึดถือปฏิบัติคือ การรักษาศีล 5 เนื่องจากปุถุชนคนธรรมดายังมีกิเลสอยู่ ขอให้รักษาศีล 5 ให้ได้ก็พอชีวิตจะพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองแน่นอน ด้วยนิสัยที่มีความเมตตา พูดน้อย ถ่อมตนไม่หยิ่งด้วยเกียรติ ไม่ทะเยอทะยานในลาภยศสรรเสริญ เคร่งครัดในสิกขาวินัย ยินดีในสิ่งที่ได้ใช้ในสิ่งที่มี ยินดีและพอใจตามมีตามได้ ชอบการสงเคราะห์ช่วยเหลือ เกี่ยวกับการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม จึงเป็นพระผู้ใหญ่ของจังหวัดที่ได้รับการยกย่องจากพระสงฆ์ด้วยกัน และชาวพุทธทั้งหลาย บั้นปลายชีวิต มรณภาพอย่างสงบเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ม.ค.2562 เวลา 04.30 น. สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74 อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์ |