หัวข้อ: ขุนรองปลัดชู วีรชนคนที่ถูกลืม เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 22 มิถุนายน 2554 22:11:43 (http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/06/we01.jpg)
http://www.youtube.com/watch?v=OfIDXbG5yHM#ws (http://www.youtube.com/watch?v=OfIDXbG5yHM#ws) http://www.youtube.com/watch?v=0pbc2ldJMYU#ws (http://www.youtube.com/watch?v=0pbc2ldJMYU#ws) http://www.youtube.com/watch?v=W-lKTu6v1Qc#ws (http://www.youtube.com/watch?v=W-lKTu6v1Qc#ws) http://www.youtube.com/watch?v=e_Z6IOyW60I#ws (http://www.youtube.com/watch?v=e_Z6IOyW60I#ws) ขุนรองปลัดชู” เป็นกิจกรรมรวมหลายอย่างที่กลุ่มทำงานสร้างสรรค์กลุ่มหนึ่ง นำโดย สุรัสวดี เชื้อชาติ หรือ แหม่ม มาม่าบลูส์ ผู้กำกับหญิงไฟแรง ต้องการกระตุกจิตสำนึกให้คนไทย รู้สึกสำนึกรักในบ้านเกิด หรือแผ่นดินเกิดให้มากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางทัศนคติที่สูงมากของบ้านเมืองเราในเวลานี้ ในส่วนภาพยนตร์ เรื่องราวของ ขุนรองปลัดชู จึงเริ่มต้นถ่ายทอดจากการนำเสนอเป็นภาพยนตร์ ความยาวเกือบ 2 ชั่วโมง เพื่อให้คนดูได้เข้าใจในเนื้อหาด้วยอรรถรสของ “ประวัติศาสตร์เชิงภาพยนตร์” ซึ่งมีพื้นฐานการนำเสนอโดยการค้นหาข้อมูลประวัติศาสตร์จากพงศาวดาร และนำบริบทสิ่งแวดล้อมรอบๆ ของข้อมูลมาสร้างเป็นบทหนัง ไม่ใช่นำจินตนาการไปผสมผสานกับบทหนัง จนต้องตีความเชิงดราม่ามาร่วมด้วย ตัวอย่างเช่น Love scene ของหนังเรื่องนี้ ไม่ได้ถูกสร้างให้ผู้ดูเห็นภาพชัดเจนในแบบฉบับของบทรักทั่วไป แต่จะเห็นถึงความงามในความรักของมนุษย์ผู้ชายที่พึงมีต่อมนุษย์ผู้หญิงหนึ่งคนธรรมดาๆ ในรูปแบบของครอบครัวผู้นำ และบทก็กลับไปส่งเสริมถึงเจตนารมย์และจุดยืนของมนุษย์ผู้ชายหนึ่งคนที่มีความมุ่งมั่น ศรัทธาในประเทศบ้านเกิดเมืองนอน จนต้องลุกขึ้นมาทำความดีเพื่อตอบแทนแผ่นดินเกิดของตนแทน (http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/06/we02.jpg) คุณเชค คนค้นคน นั่นเอง ทีมงาน บุญชัย เบญจรงคกุล ผู้อำนวยการสร้าง สุรัสวดี เชื้อชาติ ผู้กำกับภาพยนตร์ ปณต อุดม ผู้ดำเนินงานสร้าง เอก เอี่ยมชื่น ผู้เขียนบทและออกแบบงานสร้าง ชาญกิจ ชำนิวิกัยพงศ์ ผู้กำกับภาพ พงศธร โกศลโพธิทรัพย์ ผู้ลำดับภาพ บริษัท บัตเตอร์ฟลาย เรคคอร์ด จำกัด ดนตรีประกอบภาพยนตร์ กิจกรรมทั้งหมดมีดังต่อไปนี้ – นิทรรศการศิลปะภาพถ่ายและจัดวาง (Photo and Installation) “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ที่ศูนย์ศิลปะฮอฟอาร์ท ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เปิดให้ชมตั้งแต่วันที่ 1 – 31 กรกฎาคม 2554 ทุกวัน (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. (เปิดงานอย่างเป็นทางการวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2554 เวลา 18.00 น.) – ฉายภาพยนตร์ฟรี ในโรงภาพยนตร์ สกาล่า ทั้งหมด 5 รอบ ในวันพฤหัสที่ 7 – วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2554 สามารถดูรายละเอียดรอบที่ฉายและการจองตั๋วได้ในเว็บไซต์ www.thaiunsunghero.com (http://"http://www.thaiunsunghero.com/") – ฉายภาพยนตร์พรีวิว ในรายการไทยเธียเตอร์ ช่อง Thai PBS วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2554 เวลา 22.00 น. – รายการออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์ Thai PBS ทุกวันจันทร์ เวลา 23.00 น. เริ่มจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม เป็นต้นไป (http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/06/we03.jpg) “ภาพยนตร์ ขุนรองปลัดชู” กับการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ในรูปแบบกิจกรรมต่างๆเหล่านี้ นับได้ว่าเป็นการสร้างสรรค์และใช้สื่อข้ามสายพันธุ์เพื่อการสื่อสารในรูปแบบ Trans – media ได้อย่างลงตัว นับได้ว่าน่าจะเป็นผู้บุกเบิกและนำมาใช้ในวงการภาพยนตร์ไทยเป็นเจ้าแรกๆ นอกจากนี้ทีมงานยังได้นำวิธีการสื่อสารของสังคมโลกยุคปัจจุบันที่ใช้แนวคิด Social Networks มาเป็นประโยชน์ต่อการสื่อสารท่ามกลางชีวิตมนุษย์ยุคโลกาภิวัฒน์ให้เกิดประโยชน์เชิงสร้างสรรค์อย่างสูงสุดด้วย(http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/06/we04.jpg) สำหรับในส่วนของรายการทางสถานีโทรทัศน์ ได้นำเนื้อหามาตัดทอนเป็น ตอนๆ เพื่อออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อีก 10 ตอน แบ่งเป็นองก์ต่างๆ เพื่อให้เกิดการพูดถึงประเด็นที่นำเสนอในแต่ละตอน ซึ่งในหนึ่งชั่วโมงเต็มของรายการ ถูกแบ่งออกเป็นการฉายสารคดีในครึ่งหนึ่งของเวลา และที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ก็จะเป็นการสนทนาเชิงสร้างสรรค์ถึงหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการออกอากาศในเบื้องต้นก่อนหน้าไปแล้ว โดยมีแขกรับเชิญที่เป็นผู้รู้ และผู้เชี่ยวชาญในวงการ ทั้งนักวิชาการประวัติศาสตร์ นักมนุษยวิทยา ผู้เชี่ยวชาญยุทธวิธีการรบตำราพิชัยสงคราม แฟนพันธุ์แท้อยุธยา นักประวัติศาสตร์ศิลป์ ปราชญ์ชาวบ้าน และผู้รู้ท่านอื่นๆอีกมากมาย มาเปิดมุมมองและทัศนคติใหม่ๆ ที่ชวนให้คนไทยต้องคิดและติดตามอย่างเข้มข้น ทั้ง 10 ตอนเต็ม ที่มา ไทยซีเนม่า (http://"http://www.thaicinema.org/kits334unsunghero.asp") ———————————————— (http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/06/koon.jpg) อนุสาวรีย์ “ขุนรองปลัดชู” วีรชนบ้านสี่ร้อย ขุนรองปลัดชู วีรกรรมที่ถูกลืม โดย… นายทวีศักดิ์ ศรีทองกิติกูล กรุงศรีอยุธยา ( พ.ศ.2302 – 2303 ) สมัยแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์พระเจ้าอลองพญาทราบเหตุว่ากรุงศรีอยุธยาผลัดแผ่นดินจึงได้ยกกองทัพเข้าตีเมืองมะริด และเมืองตะนาวศรี หัวเมืองของกรุงศรีอยุธยา โดยอ้างเหตุว่าให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏมอญ เมื่อยึดได้เมืองมะริดและเมืองตะนาวศรีแล้ว พระเจ้าลองพญาก็ได้เคลื่อนทัพผ่านทางด่านสิงขร เพื่อเข้าตีกรุงศรีอยุธยาต่อไป ครั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาทราบเรื่อง พระเจ้าเอกทัศน์ได้รับสั่งให้พระยายมราชคุมพลเป็นทัพหน้าออกมาต่อกรกับทัพพม่าที่ด่านสิงขร และให้พระยารัตนาธิเบศเป็นแม่ทัพคุมพลเข้ามาตั้งรับทัพพม่า ที่เมืองกุยบุรี ขณะนั้น ขุนรองปลัดชู กรมการเมืองวิเศษชัยชาญ เป็นผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในการรบ และคงกระพันชาตรี เข้ามารับอาสากับไพร่สี่ร้อยคน ขอไปรบกับพม่า ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นกองอาทมาต (หน่วยรบพิเศษ) ร่วมทัพมากับพระยารัตนาธิเบศ ทัพของพระยายมราช เข้าปะทะกับทัพของพม่าที่เมืองแก่งตุมด้วยกำลังที่น้อยกว่าจึงแตกพ่ายถอยรุ่นไม่เป็นขบวน พระยารัตนาธิเบศตั้งค่ายมั่นอยู่ ณ เมืองกุยบุรี แจ้งว่าทัพพม่ายกพลมาเป็นจำนวนมาก อาจต้านทานไว้ไม่ไหว จึงสั่งการให้เกณฑ์ไพร่พล และเร่งอพยพผู้คนหลบหนีพม่า และหวังรวบรวมผู้คนเพื่อไปตั้งมั่นรับพม่าที่ชานพระนคร ครั้งนั้น ขุนรองปลัดชู ได้อาสาขอต้านทานทัพพม่าด้วยกำลังพลเพียงสี่ร้อยนาย เพื่อยันทัพข้าศึกและเปิดทางให้รี้พลได้หลบหนี พระยารัตนาธิเบศ จึงได้แบ่งไพร่ให้อีกห้าร้อยนายไปช่วยกองกำลังของขุนรองปลัดชู ในการต่อต้านทัพพม่า ณ ชายหาดหว้าขาวชายทะเล (บ้านทุ่งหมากเม่า ตำบลอ่าวน้อย) เวลาเช้าตรู่ ขุนรองปลัดชูพร้อมกับเหล่าทหาร ตั้งท่ารอทัพพม่าอยู่ด้วยจิตใจห้าวหาญ เมื่อเห็นกองทัพพม่าก็กรูกันออกโจมตีทัพหน้าของพม่ารบกันด้วยอาวุธสั้นถึงตะลุมบอนกัน แทงพม่าล้มตายเป็นจำนวนมาก และตัวขุนรองปลัดชูท่านถือดาบสองมือ วิ่งเข้าท่ามกลางข้าศึก ฟันพม่าล้มตายก่ายกองดั่งขอนไม้ ด้วยกำลังพลเก้าร้อยต่อทัพพม่านับหมื่นที่ยัดเยียดหนุนเนื่องกันเข้ามาต่อรบได้รบกันอยู่ตั้งแต่เข้าจนถึงเวลาเที่ยง ขุนรองปลัดชูไม่คิดถอยหนี ต่อสู้ทัพพม่าจนเหนื่อยอ่อนสิ้นกำลัง ถูกกองทัพพม่าใช้พลทัพช้างขับช้างเข้าเหยียบจนล้มตาย ต่างพากันถอนร่นลงทะเล จนจมน้ำทะเลตายเสียสิ้น กองทัพพม่าจึงมีชัย พระยารัตนาธิเบศจึงได้เร่งเลิกทัพหนีมากับทัพพระยายมราช กลับมาถึงพระนครขึ้นเฝ้ากราบทูลว่า ศึกพม่าเหลือกำลังจึงพ่าย ฝ่ายทัพพม่าเมื่อมีชัยเหนือกองทหารเก้าร้อยคน ก็เหนื่อยอ่อนหยุดทัพพักผ่อน ก่อนเดินทัพเข้าเมืองกุย เมืองปราณ เมืองชะอำ เมืองเพชรบุรี เมืองราชรี เมืองสุพรรณบุรี โดยไม่มีหัวเมืองใดต่อรบกับพม่าเลย และต่อมาชาววิเศษชัยชาญ ได้ร่วมกันสร้างวัดสี่ร้อยเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ตราบจนถึงปัจจุบัน ในบันทึกของพม่าในกาลต่อมากล่าวว่า การตีกรุงศรีอยุธยาครั้งนั้น ได้มีการต่อสู้กองทัพของกรุงศรีอยุธยา ที่ช่องเขาแคบๆ ริมทะเลอย่างประจัญบาน ดุเดือด ก่อนเข้าเมืองกุย เมืองเพชรบุรี เมืองราชบุรี โดยง่าย หากกองทัพกรุงศรีอยุธยา มีคนอย่างขุนรองปลัดชู ไหนเลยเราจะเสียกรุงศรีอยุธยา และหากคนประจวบคีรีขันธ์ ยังไม่รู้จักวีรกรรมที่หาดหว้าขาว ไหนเลยวิญญาณของนักรบไทย จะได้รับการยกย่องความดี ความกล้า ความเสียสละต่อชาติ ต้องไม่ถูกลืม ขอยกย่องวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ณ ดินแดนเมืองประจวบคีรีขันธ์ http://www.aownoi.go.th/webpage/slogan.php?sg=5 (http://www.aownoi.go.th/webpage/slogan.php?sg=5) |