|
หัวข้อ: พระราชศีลสังวร (โสภณ สุทธจันโท) วัดศรีโพนแท่น ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 19 สิงหาคม 2562 18:06:53 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/77152100246813_view_resizing_images_2_320x200.jpg) พระราชศีลสังวร (โสภณ สุทธจันโท) วัดศรีโพนแท่น บ้านนาซ่าว ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย พระราชศีลสังวร (โสภณ สุทธจันโท) วัดศรีโพนแท่น บ้านนาซ่าว ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย อดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสและเจ้าคณะจังหวัดเลย ฝ่ายธรรมยุต ที่ชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธา มีนามเดิมว่า จันทา ใจทิพย์ เกิดเมื่อ วันที่ 2 มิ.ย.2459 ที่หมู่บ้านนาซ่าว ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย ในช่วงวัยเยาว์ มารดาเสียชีวิตเมื่ออายุ ได้ 3 เดือน จากนั้น อายุ 10 ขวบ เข้าศึกษาที่โรงเรียนบ้านนาซ่าว ขณะที่เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 บิดาก็เสียชีวิต ทำให้ท่านตัดสินใจลาออกมาอยู่กับลุงช่วยงานทางบ้าน อายุ 16 ปี พ.ศ.2475 บรรพชาที่วัดโพธ์ศรี บ้านนาซ่าว ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้าน โดยมีหลวงปู่แถว เป็นพระอุปัชฌาย์ จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์ศรี เป็นเวลา 1 ปี ก่อนย้ายไปอยู่ที่วัดโพนชัย ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน อยู่ได้ระยะหนึ่งก็ย้ายไปอยู่ที่วัดศรีคุณเมือง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2477 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก พ.ศ.2480 อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดศรีคุณเมือง โดยมีพระครูพิทักษ์สังฆการ เจ้าคณะ แขวงอำเภอเชียงคาน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสมุห์เอี่ยม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูใบฎีกาพรหมมา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ครั้นต่อมา ได้รับแต่งตั้งเป็นพระสมุห์ฐานานุกรมของพระครูพิทักษ์สังฆภาร เมื่อเรียนจบนักธรรมชั้นเอก มีความประสงค์จะศึกษาในแผนกบาลีต่อ แต่ที่อำเภอเชียงคานนั้นยังไม่มีสำนักเรียนบาลี ท่านจึงดำริที่จะลาสิกขาเพื่อไปประกอบอาชีพรับราชการ แต่ครั้นเมื่อไปกราบลาพระอุปัชฌาย์ ปรากฏว่า ไม่ได้รับอนุญาต ขณะนั้นได้ทราบว่า พระมหาบุญหนัก เสฎฐปุณโณ เพื่อนสหธรรมิกของท่านจะเดินทางไปเรียนบาลีที่กรุงเทพมหานคร จึงขอไปด้วย ครั้นไปถึงกรุงเทพฯ ท่านกับพระบุญหนักและพระมหาอินตอง ไปพักที่วัดสระเกศ ไปกราบเจ้าอาวาสเพื่อจะอยู่เรียนบาลี แต่เจ้าอาวาสไม่รับ แต่ให้พักได้ชั่วคราว เมื่อไม่ได้ที่อยู่ที่เรียน ความหวังที่จะเรียนบาลีและสอบให้ได้ เกิดมีอุปสรรคขึ้นมา เมื่อพักอยู่ได้ 20 วัน ได้ปรึกษาหาทางออก ได้ข้อสรุปว่าจะไปอยู่วัดแห่งใหม่ ด้วยการไปหาหลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ ตอนนั้นท่านมาสอบเปรียญธรรม 6 ประโยค ที่วัดสัมพันธวงศ์ หลวงปู่ศรีจันทร์ จึงนำท่านไปฝากเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ แต่ติดขัดด้วยสังกัดมหานิกาย แต่ด้วยความตั้งใจที่จะเรียนบาลีให้ได้ จึงได้ขอญัตติใหม่เข้าสังกัดคณะธรรมยุต เมื่อปี พ.ศ.2481 ที่วัดสัมพันธวงศ์ ขณะนั้นอายุ 22 ปี ได้รับฉายาว่า สุทธจันโท และได้เรียนบาลีจนสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค หลังจากสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค ท่านเดินทางกลับมาบ้านเกิด เพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องที่อำเภอเชียงคาน จ.เลย เป็นเวลา 9 วัน ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ และท่านได้เปลี่ยนชื่อจากพระมหาจันทา เป็นพระมหาโสภณ เมื่อกลับไปที่วัดสัมพันธวงศ์ ท่านก็ตั้งใจเล่าเรียน จนสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และเป็นช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 การเรียนจึงต้องหยุดกะทันหัน พระภิกษุในกรุงเทพฯ ต่างอพยพออกต่างจังหวัด ทำให้ท่านจำเป็นต้องกลับบ้านเกิด อ.เชียงคาน จำพรรษาอยู่ที่วัดศรีคุณเมือง ต่อมา ท่านกลับไปกรุงเทพฯอีกครั้ง จำพรรษาอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ช่วงที่อยู่นั้นท่านได้ไปเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมที่จังหวัดราชบุรีและจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ.2496 ท่านมาสร้างวัดที่บ้านนาซ่าว ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน ตั้งชื่อว่า วัดศรีโพนแท่น ท่านได้พัฒนาวัดศรีโพนแท่น จนมีความเจริญรุ่งเรือง ด้วยความเป็นพระนักพัฒนาและปฏิบัติธรรมมาตลอด สร้างคุณูปการมากมาย จนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดเลย ฝ่ายธรรมยุต, พระอุปัชฌาย์ ฯลฯ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2499 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุทธิสารโสภณ พ.ศ.2525 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชศีลสังวร ถือเป็นพระเถระที่ทุ่มเทชีวิตจิตใจและรับผิดชอบมายาวนาน ในฐานะผู้อุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมเป็นอเนกนานัปการ มรณภาพอย่างสงบ เมื่อปี พ.ศ.2531 ข่าวสดออนไลน์ |