[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 01 ตุลาคม 2562 17:35:05



หัวข้อ: หลวงปู่ทองคำ โสรวโร อาศรมป่าช้าแคนทะเล ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 01 ตุลาคม 2562 17:35:05
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/20336709999375_view_resizing_imagesACG4C1SL_3.jpg)

หลวงปู่ทองคำ โสรวโร
อาศรมป่าช้าแคนทะเล ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์

หลวงปู่ทองคำ โสรวโร อาศรมป่าช้าแคนทะเล ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ พระเกจิที่มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย วิทยาคมเข้มขลัง ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนทั้งในและนอกพื้นที่

ปัจจุบัน สิริอายุ 93 ปี พรรษา 31 เป็นพระสงฆ์ที่มีอายุมากอีกรูปหนึ่งในแวดวงคณะสงฆ์เมืองบุรีรัมย์

มีนามเดิม นายทองคำ แกชวดดง เกิดเมื่อปี พ.ศ.2469 ณ บ้านแคนทะเล ต.สระบัว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ (ปัจจุบัน ขึ้นอำเภอแคนดง) เป็นบุตรของนายแหล่ และนางชาดา แกชวดดง

อายุ 14 ปี เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดบ้านยางสีสุราช จ.มหาสารคาม มุมานะศึกษาพระธรรมวินัยสอบได้นักธรรมชั้นโท พร้อมกับฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมกับอดีตพระเกจิอาจารย์หลายท่านในยุคนั้น อาทิ พระครูนิเทศพิสัยกิจ (หลวงปู่รอด) วัดบ้านหนองกุง, พระครูวิบูลธรรมรัต (หลวงปู่จันทร์) วัดโคกยาว, พระครูภัทรสารวิสุทธิ์ (หลวงปู่ตุ่น) วัดบ้านยางสีสุราช เป็นต้น

ในช่วงที่เรียนนักธรรมชั้นเอก เกิดอาพาธหนัก จึงลาสิกขาออกมารักษาตัวที่บ้าน

หลังใช้ชีวิตฆราวาส เกิดความเบื่อหน่าย จึงตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ในปี พ.ศ.2532 เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดเทพทราวาส ต.แคนดง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ (ปัจจุบัน ขึ้นอำเภอแคนดง) โดยมีพระครูอรุณปัญญาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์

ภายหลังจากอุปสมบท ไปจำพรรษาในป่าช้าประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นป่าช้าที่ยังมีการฝังศพและเผาศพ สมัยนั้นวัดในหมู่บ้านยังไม่มีเมรุสำหรับเผาศพ หลวงปู่ปฏิบัติธรรมฝึกสมาธิ เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติเป็นอย่างมาก ฉันอาหารมื้อเดียว ตั้งแต่อุปสมบทวันแรกจนถึงปัจจุบัน

หลังจากปฏิบัติอยู่ป่าช้า 2 พรรษา พ.ศ.2533 ตัดสินใจออกเดินธุดงค์ไปทางภาคกลางตอนบน ผ่าน จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ ลพบุรี สิงห์บุรี และชัยนาท ได้ยินกิตติศัพท์หลวงปู่ฤๅษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) เป็นพระปฏิบัติดี จึงเข้าไปกราบขอฝึกด้านกัมมัฏฐาน

หลวงปู่ฤๅษีลิงดำเมตตาอบรมสั่งสอนกัมมัฏฐานแก่หลวงปู่ทองคำ ซึ่งท่านก็พากเพียรฝึกนานถึง 3 เดือน จึงขออนุญาตเดินทางกลับมหาสารคาม

ภายหลังจากออกพรรษา พ.ศ.2534 หลวงปู่ทองคำ ธุดงค์ออกจากวัดอีกครั้ง มุ่งลงภาคใต้ โดยตั้งมั่นจะไปฝึกกัมมัฏฐานกับหลวงพ่อพุทธทาส ที่สำนักปฏิบัติธรรมป่าสวนโมกข์ จ.สุราษฎร์ธานี

เนื่องจากหลวงปู่ทองคำ ชมชอบการแสวงหาโมกขธรรมหลังออกพรรษา จึงออกเดินธุดงค์อีกครั้งไปตามพื้นที่ป่าเขาแถบอีสานตอนใต้ อาทิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ เป็นต้น

ได้พบหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา จ.ศรีสะเกษ เกิดความศรัทธาในแนวทางปฏิบัติของท่าน จึงฝึกการเพ่งกสิณไฟ ธาตุทั้ง 4 จนเชี่ยวชาญ พร้อมกับที่หลวงปู่สรวงสั่งสอนว่า "ไม่ให้ยึดติด ลาภ ยศ สรรเสริญ เร่งฝึกจิตให้ปล่อยวาง ว่างเปล่า สงบ สะอาด"

หลวงปู่ทองคำยึดถือปฏิบัติตามคำสั่งสอนอย่างเคร่งครัด บำเพ็ญภาวนาฝึกจิตทำสมาธิ อยู่ในป่าช้าเรื่อยมา

ต่อม ปี พ.ศ.2557 หลวงปู่ทองคำอาพาธหนัก ลูกหลานญาติโยมเกิดความเป็นห่วงไม่มีใครอยู่ดูแล จึงได้สร้างอาศรมให้ท่าน คือ ป่าช้าแคนทะเล ให้หลวงปู่ที่บริเวณท้ายหมู่บ้าน หลวงปู่รับนิมนต์มาจำพรรษาปฏิบัติธรรมอยู่ที่อาศรมแห่งนี้ตราบจนปัจจุบัน

ถึงท่านจะอยู่ในสถานที่แห่งใด วัตรปฏิบัติของท่านยังเสมอต้นเสมอปลาย คือ ครองตนด้วยความสมถะ เรียบง่าย ไม่ยินดีในลาภ ยศ สรรเสริญ และยังคงบิณฑบาต ฉันมื้อเดียวเพื่อดำรงธาตุขันธ์เจริญกัมมัฏฐานทั้งเช้าและเย็น ทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

แต่ละวันจึงมีพุทธศาสนิกชนในและนอกพื้นที่ เข้ามากราบนมัสการรับฟังธรรมจากหลวงปู่อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งท่านก็ให้ความอนุเคราะห์ปัดเป่าความทุกข์ให้กับญาติโยมที่มาหา

สำหรับหัวข้อธรรมที่หลวงปู่ทองคำ พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท และให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต

ถึงแม้จะอยู่ในช่วงปัจฉิมวัย อายุถึง 93 ปี แต่สุขภาพของท่านยังแข็งแรงจึงรับกิจนิมนต์โดยตลอด

หลวงปู่ทองคำจึงเป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนิกชนชาวเมืองบุรีรัมย์อย่างแท้จริง
ข่าวสดออนไลน์