[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => สมถภาวนา - อภิญญาจิต => ข้อความที่เริ่มโดย: Maintenence ที่ 02 ธันวาคม 2562 09:59:16



หัวข้อ: สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเราก็คือใจ-พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Maintenence ที่ 02 ธันวาคม 2562 09:59:16
.


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/40515986664427_78693855_2560316900672912_6566.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/42662427574396_74829577_2523797744324828_8390.jpg)

สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเราก็คือใจ”

พวกเราเป็นชาวพุทธ เป็นผู้ที่มีความเลื่อมใส ศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พวกเรารู้หรือไม่ว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนพวกเราว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเรา ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า สิ่งที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเราก็คือใจนี่เอง “ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน” นี่แหละคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนพวกเรา ให้รู้ว่าไม่มีอะไรจะสำคัญเท่ากับใจ เพราะใจนี่แหละเป็นผู้ที่สร้างความสุข และเป็นผู้รับความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาความสุขทั้งหลาย ความสุขทางร่างกายเป็นความสุขที่น้อยกว่าความสุขทางจิตใจ ความสุขทางร่างกายเป็นความสุขชั่วคราว ส่วนความสุขทางใจเป็นความสุขที่ถาวร ใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าร่างกาย สำคัญกว่าสิ่งต่างๆ ที่ร่างกายหามาให้ความสุข เช่น ลาภยศสรรเสริญ เช่น รูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ ที่เราใช้ร่างกายเป็นเครื่องมือหามาให้ความสุขกับเรา เป็นความสุขที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เป็นความสุขที่เกิดแล้วเดี๋ยวก็ดับ เจริญแล้วเดี๋ยวก็เสื่อม มาแล้วเดี๋ยวก็ไป จึงไม่ถือว่าเป็นความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขปลอม ไม่เหมือนกับความสุขของใจ ที่ได้มาแล้ว ใจสามารถรักษาให้อยู่กับใจไปได้ตลอด ร่างกายตายไป ใจไม่ได้ตายไปกับร่างกาย ใจที่มีความสุขก็ยังจะมีความสุขต่อไปได้ นี่คือความสำคัญของใจ

แต่พวกเราถ้าไม่ได้มาศึกษา ไม่ได้มาฟังเทศน์ฟังธรรม พวกเราจะไม่รู้ความสำคัญของใจกัน เราจะให้ความสำคัญต่อร่างกายมากกว่าความสำคัญของใจ เราจะหาความสุขทางร่างกายกัน มากกว่าจะมาหาความสุขทางใจกัน เพราะเราไม่รู้ความจริง ว่าความสุขที่แท้จริง ความสุขที่ดีที่สุดคือความสุขทางใจ เราเลยหลงทางกัน หลงไปหาความสุขทางร่างกาย แล้วก็ต้องมาเสียอกเสียใจ เวลาที่ความสุขทางร่างกายหมดไปจากเราไป แต่เราก็ไม่รู้กัน รู้ว่าตายไปก็คิดว่าจบ แต่ความจริงเวลาที่ร่างกายตายไป ความทุกข์ของเรายังไม่ได้หมดไปกับความตายของร่างกาย ความทุกข์ของเรามันยังอยู่ในใจของพวกเรา ที่ดิ้นรนหาร่างกายร่างใหม่ เพื่อที่จะได้ใช้ร่างกายร่างใหม่มาเป็นเครื่องมือหาความสุขใหม่อีก เราจึงต้องกลับมาเกิดกันอยู่เรื่อยๆ พอเรามาเกิดแล้ว เราก็ต้องมาทุกข์กับการเกิด ทุกข์กับการดำรงชีวิต เราต้องดิ้นรน ต้องแสวงหาปัจจัย ๔ คืออาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรคมาเลี้ยงดูร่างกายตลอดเวลา นอกจากนั้น เรายังต้องหารูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ มาบำรุงบำเรอ ต้องหาลาภยศสรรเสริญมาบำรุงบำเรอ แต่สิ่งที่เราหามาได้นี้ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน ที่เราไม่สามารถครอบครองเป็นสมบัติของเราไปได้ตลอด ไม่ช้าก็เร็วเราก็ต้องสูญเสียสิ่งต่างๆ ที่เราหามาได้ไป สูญเสียลาภยศสรรเสริญ สูญเสียความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายไป เวลาที่เราพลัดพราก สูญเสียสิ่งที่เรารักเราชอบ เราก็เกิดความเศร้าโศกเสียใจกัน

การมาเกิดจึงเป็นการมาหาความทุกข์ มาแบกความทุกข์ มาสร้างความทุกข์ให้กับใจ โดยไม่รู้สึกตัว เพราะความหลงที่ไปคิดว่าร่างกายนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเรา เราจึงทุ่มเทให้กับการดูแลรักษาร่างกายกันอย่างเต็มที่ เพื่อที่เราจะได้เอาร่างกายนี้มาหาความสุข มาหาลาภยศสรรเสริญ มาหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายกันนั่นเอง และในที่สุด เราก็จะต้องเศร้าโศกเสียใจเวลาที่เราต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เราหามาได้ไป ตอนที่เราแก่ ตอนที่เราเจ็บ ตอนที่เราตายกัน แต่ก็เป็นเรื่องที่พวกเราทำกันจนฝังมาเป็นนิสัย ทุกคนที่มาเกิดในโลกนี้จะมีความเห็นเหมือนกันหมดทุกคน จะเห็นว่าร่างกายนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตของพวกเรา จะเห็นว่าการมีลาภยศสรรเสริญ การมีความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายเป็นการหาความสุขให้กับใจของเรา แต่ความจริงมันเป็นความสุขที่มีความทุกข์ตามมา เป็นความสุขที่ไม่แน่นอน เป็นความสุขชั่วคราว เวลาความสุขที่เราหามาได้หมดไป ความทุกข์ก็จะเข้ามาทันที

ดังนั้น การหาความสุขทางโลก การหาลาภยศสรรเสริญ การหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย จึงไม่ได้เป็นการหาความสุขที่แท้จริง แต่เป็นการหาความทุกข์ที่แท้จริง เพราะเราจะต้องทุกข์กันทุกคน ทุกคนที่มีร่างกายนี้ เดี๋ยวไม่ช้าก็เร็วก็ต้องทุกข์กัน เพราะเดี๋ยวร่างกายไม่ช้าก็เร็ว ก็ต้องเป็นอะไรไป ไม่แก่ก็เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยก็อาจจะตายไป นี่คือสิ่งที่พวกเราทำกันด้วยความหลง ด้วยความไม่รู้ความจริงว่า ความสุขที่แท้จริง ความสุขที่ถาวร ความสุขที่จะอยู่กับเราไปตลอดนี้ อยู่ที่ใจของพวกเรานี่เอง ถ้าเรามาพบกับพระพุทธศาสนา เราก็จะได้เรียนรู้เรื่องนี้ เรียนรู้ว่าจิตใจของพวกเรานี้มีความสำคัญกว่าร่างกาย การหาความสุขทางจิตใจสำคัญกว่าการหาความสุขทางร่างกาย เพราะเป็นความสุขที่ถาวร ความสุขทางร่างกายเป็นความสุขชั่วคราว เป็นความสุขที่จะทำให้เกิดความทุกข์ เวลาที่ความสุขนั้นหมดไปจากไป นี่แหละคือคำสอนของพระพุทธเจ้า ทรงสอนว่าใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทรงสอนให้พวกเรามาหาความสุขที่ใจกัน ด้วยการดูแลรักษาใจให้มีความสุขตลอดเวลา ด้วยการกำจัดสิ่งที่มาทำให้ใจเกิดความทุกข์ต่างๆ ขึ้นมา ก็คือให้เราเลิกหาความสุขผ่านทางร่างกายนั้นเอง


ธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัด ชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน