หัวข้อ: หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 14:26:43 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/31252251358495_view_resizing_images_1_320x200.jpg) หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์ อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองปากน้ำโพ มีเมตตาธรรมสูง มักน้อยถือสันโดษ วัตถุมงคลที่สร้างไว้มีมากมายหลายรุ่น ล้วนแต่ได้รับความนิยม เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 12 เม.ย.2426 ที่ ต.บ้านแพรก อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ครอบครัวมีพี่น้อง 4 คน ในช่วงวัยเด็ก เรียนหนังสือ ฝึกหัดอ่านเขียนกับพระในวัดใกล้บ้าน รวมทั้งศึกษาอักษรขอมควบคู่ไปกับภาษาไทย อีกทั้งได้ศึกษาวิทยาคมกับอาจารย์ที่เป็นฆราวาส ชื่อ อาจารย์พ่วง เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดเขียนลาย ต.บ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2447 มีหลวงพ่อถม วัดเขียนลาย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ถาวโร ศึกษาเล่าเรียนภาษาขอมจนชำนาญและเริ่มฝึกปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ศึกษาสมถะกัมมัฏฐานและวิปัสสนาจากหลวงพ่อดำ อยู่ประมาณ 4 ปี จากนั้นจึงออกเดินธุดงค์เป็นเวลาหลายพรรษา เคยเดินไปประเทศพม่าถึงเมืองย่างกุ้ง นมัสการพระเจดีย์ชเวดากอง และเดินธุดงค์ผ่านด่านเจดีย์สามองค์ ผ่านเทือกเขาน้อยใหญ่ ธุดงค์อยู่ในประเทศพม่าเป็นเวลานาน ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยทางด่านแม่ละเมา จ.ตาก เดินธุดงค์ไปจนถึงเขาช่องแค ต.พรหมนิมิตร อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เกิดฝนตกหนัก ได้หลบเข้าไปอยู่ในถ้ำซึ่งเป็นถ้ำเล็กๆ เป็นสถานที่ที่เห็นว่าเป็นที่วิเวกเหมาะสำหรับการบำเพ็ญธรรม จึงได้อยู่ปฏิบัติสมาธิเจริญจิตตภาวนา ณ ช่องเขาแห่งนี้ ขณะที่จำศีลปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ที่วัดช่องแคมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่แล้ว 2 รูป แต่ยังไม่มีเจ้าอาวาส ภายในวัดยังไม่มีเสนาสนะใดๆ บริเวณวัดรกร้าง ต่อมา ชาวบ้านเห็นวัตรปฏิบัติจึงเกิดความนับถือเลื่อมใส นิมนต์ให้จำพรรษาวัดช่องแคจวบจนปัจจุบัน จนได้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก โดยที่ชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคที่ดินเพิ่มเติม หลวงพ่อพรหมได้เริ่มต้นสร้างวัดจากวัดที่รกร้างเมื่อปี พ.ศ.2460 จนกลายมาเป็นวัดที่มีกุฏิ ศาลาการเปรียญ โรงครัว ซึ่งส่วนหนึ่งของทรัพย์สินมาจากการขายสมบัติส่วนตัวและมรดกของหลวงพ่อ ครั้นต่อมา เมื่อวัดจะสร้างอุโบสถ ซึ่งต้องใช้ทุนทรัพย์สูง คณะกรรมการของวัด จึงขออนุญาตหลวงพ่อสร้างวัตถุมงคล ด้วยหลวงพ่อพรหมชอบระฆัง การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อ จึงเน้นรูประฆัง ทั้งพระผง เหรียญรูประฆัง จนกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของหลวงพ่อพรหม จากผลการศึกษาพระธรรม การปฏิบัติจิต เจริญสมาธิภาวนาและการเดินธุดงค์ รวมไปถึงการศึกษาวิชาอาคมต่างๆ จากหลายครูบาอาจารย์ ทำให้ท่านได้ชื่อว่าเป็นพระเถระที่มีวิทยาคม มีวัตถุมงคลที่เลื่องลือในด้านประสบการณ์บ่อยครั้ง ด้านการปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงพ่อพรหม มีวิธีการปลุกเสกวัตถุมงคลที่ไม่เหมือนใคร ส่วนใหญ่หลวงพ่อจะปลุกเสกในบาตร ถ้ามีเทียนชัยจะจุดเทียนชัยหยดน้ำตาเทียนลงในบาตรน้ำมนต์แล้วนำเทียนชัยวน 9 รอบ ต่อจากนั้นจึงนำดินสอพองมาเจิมที่วัตถุมงคล เอามือคนไปรอบๆ โดยที่ลืมตาเพ่งกระแสจิตอัดพลัง แล้วจึงนำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมวัตถุมงคลทั้งหลาย แล้วจับบาตรใส่วัตถุมงคล ดังนั้น เป็นที่สังเกตได้ว่าพระเนื้อผงจะมีรอยบิ่น เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ด้วยเกิดจากหลวงพ่อเอามือคนในบาตร ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อปี พ.ศ.2514 รวมเวลาที่เป็นเจ้าอาวาสวัดช่องแค 54 ปี เพื่อให้พระปลัดแบงค์ ธัมมวโร เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน ตลอดเวลาที่หลวงพ่อพรหมจำพรรษาอยู่ที่วัดช่องแค ท่านสร้างคุณประโยชน์มากมายให้กับชุมชนและประชาชนทั่วไป ตั้งแต่การทำนุบำรุงพระศาสนา รักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย สร้างเสนาสนะในวัด กระทั่ง มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2518 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่โรงพยาบาลบ้านหมี่ จ.ลพบุรี สิริอายุ 91 ปี พรรษา 71 ข่าวสดออนไลน์ |