หัวข้อ: หลวงพ่อโปร่ง โชติโก วัดถ้ำพรุตะเคียน ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 14:42:12 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/63845754042267_view_resizing_images_1_320x200.jpg) หลวงพ่อโปร่ง โชติโก วัดถ้ำพรุตะเคียน ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลวงพ่อโปร่ง โชติโก หรือ พระครูโสตถยาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดถ้ำพรุตะเคียน ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พระเถระนักปฏิบัติที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และยังเป็นพระนักพัฒนา ทำให้เป็นที่นับถือศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนในจังหวัดชุมพร มีนามเดิมว่า โปร่ง อยู่กลัด เกิดเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2473 ที่บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 5 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี บิดา-มารดา ชื่อ นายเปรื่อง และนางทองหล่อ อยู่กลัด มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 4 คน ช่วงวัยเด็กดำเนินชีวิตเหมือนกับเด็กทั่วไป เรียนประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดรางกำหยาด ต.บางภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม ส่วนชั้นประถมปีที่ 4 ท่านได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนชมนิมิต ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ครั้นอายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทตามประเพณี ในช่วงพรรษาแรกไปเรียนกัมมัฏฐานกับหลวงปู่หลิม ที่วัดน้อย ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี ในภายหลังได้มีผู้หญิงมาชอบ เห็นว่าจะอยู่ไม่ได้จึงลาสิกขาออกมาใช้ชีวิตฆราวาสอีกครั้ง หลังจากสึกแล้วก็ไปอยู่ที่หัวหิน ไปทำงานเป็นนายท้ายเรือตังเก ลากอวนอยู่ที่หัวหิน บางครั้งก็ไปลากถึงประเทศกัมพูชา จากนั้นมีครอบครัว มีบุตรด้วยกัน 3 คน ต่อมาจึงคิดกลับมาอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อปีพ.ศ.2519 ที่วัดนาขวาง ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2519 โดยมีพระครูสมุทรธรรมสุนทร (หลวงพ่อสุด) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์น้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูพยนต์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ จำพรรษาอยู่ที่วัดนาขวาง 1 พรรษา จากนั้นขออนุญาตหลวงพ่อสุดออกท่องธุดงค์ ครั้งหนึ่งได้ไปจำพรรษาที่วัดถ้ำเขาพลู อ.ปะทิว จ.ชุมพร ด้วยวัตรปฏิบัติอันน่าเลื่อมใส ทำให้ชาวบ้านเกิดความศรัทธาจึงได้ช่วยกันสร้างกุฏิไม้ให้ 1 หลัง สร้างศาลาเอาไว้ทำบุญ และฟังธรรม จนถึงปีพ.ศ.2528 ชาวบ้านได้ขอร้องให้อยู่เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้าน โดยร่วมกันสร้างกุฏิไม้บนยอดเขาเพิ่มขึ้น และได้จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ถ้ำพรุตะเคียน ต่อมาในปีพ.ศ.2532 ได้เกิดพายุเกย์ขึ้นที่ จ.ชุมพร เกิดความเสียหายไปทั่ว ทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกหักโค่นราบเป็นหน้ากลอง บ้านเรือนถูกพัดพังเสียหายจำนวนมาก หลังจากชาวบ้านได้ช่วยกันฟื้นฟูหมู่บ้าน อีกทั้งแรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศที่เดินทางมา จึงได้ช่วยกันก่อสร้างพัฒนาสำนักสงฆ์ถ้ำพรุตะเคียน ทำให้มีกุฏิปูน จำนวน 30 หลัง กุฏิไม้ จำนวน 31 หลัง นอกจากนี้ พุทธศาสนิกชนยังได้ร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ ศาลาหอฉัน ศาลาอเนกประสงค์ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ หอระฆัง และพระอุโบสถ กระทั่งปีพ.ศ.2547 ได้รับการยกฐานะเป็นวัด เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2554 หลวงพ่อโปร่งเป็นพระเถระที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้าน ด้วยท่านเป็นพระนักพัฒนาและพระนักอนุรักษ์ ในห้วงระหว่างที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสได้พัฒนาวัดและชุมชนรอบพื้นที่ จนมีความเจริญก้าวหน้า พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระครูโสตถยาธิคุณ ด้านวัตถุมงคล เนื่องจากหลวงพ่อโปร่งเป็นพระสายกัมมัฏฐาน ไม่นิยมการสร้างวัตถุมงคลแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่อาจขัดศรัทธาญาติโยมได้ ได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาหลายรุ่น เป็นที่เชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์ จึงมีผู้ศรัทธาเลื่อมใสไปขอบูชามากมายจนชื่อเสียงโด่งดังไปในหลายจังหวัด ทำให้วัดถ้ำพรุตะเคียนแห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมของพระสายวิปัสสนาและพุทธศาสนิกชนที่รักสงบ ธรรมะเดินทางมาร่วมปฏิบัติธรรมกันอย่างไม่ขาดสายและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นสถานที่สำคัญของพุทธศาสนาอีกแห่งหนึ่งที่สามารถถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติชอบตามแนวทางพระธรรมคำสั่งสอนและเป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธที่สำคัญของประเทศอีกแห่งที่สำคัญ กระทั่งวันที่ 2 ก.ย.2562 มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 89 ปี พรรษา 43 ข่าวสดออนไลน์ |