หัวข้อ: ราธชาดก • อรรถกถากัณฏกวรรค ที่ ๑๕ พระโพธิสัตว์ในกำเนิดนกแขกเต้า เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 พฤษภาคม 2563 16:54:17 (https://www.kkdee.com/nithan/chadok/img/222.gif) ขอขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ kkdee.com • อรรถกถากัณฏกวรรค ที่ ๑๕ ๕ ราธชาดก น ตฺวํ ราธ วิชานาสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปุราณทุติยิกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิ ฯ พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงพระปรารภการเล้าโลมของภรรยาเก่า ตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า น ตฺวํ ราธ วิชานาสิ ดังนี้ ฯ เรื่องปัจจุบันมีแจ้งในอินทรียชาดก แปลกแต่ว่า พระศาสดาตรัสเรียกภิกษุนั้นมาตรัสว่า ดูกรภิกษุ ขึ้นชื่อว่ามาตุคามละก็ เป็นผู้ที่ใครๆ รักษาไม่ได้ แม้จะระมัดระวังแข็งแรง ก็ไม่สามารถจะรักษาไว้ได้ ดูกรภิกษุ ในครั้งก่อนถึงเธอก็ตั้งการป้องกันคอยรักษามาตุคามอยู่ แต่ไม่อาจรักษาไว้ได้เลย บัดนี้ เธอจะรักษาไว้ได้อย่างไรกัน ทรงนำอดีตนิทานมา ดังต่อไปนี้ อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ ณ พระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดนกแขกเต้า พราหมณ์ผู้หนึ่งในแคว้นกาสีเลี้ยงพระโพธิสัตว์และน้องชายไว้ในฐานเป็นลูก ในนกทั้งสองนั้น พระโพธิสัตว์ได้นามว่า โปฏฐปาทะ น้องชายได้นามว่า ราธะ แต่ภรรยาของพราหมณ์นั้น เป็นหญิงไม่มีมรรยาท ทุศีล เขาจะไปค้าขาย จึงพูดกะนกสองพี่น้องว่า พ่อทั้งสอง ถ้าพราหมณีผู้มารดาของเจ้าประพฤติอนาจารละก็คอยห้ามเขานะ พระโพธิสัตว์กล่าวว่า ขอรับคุณพ่อ เมื่อผมห้ามได้ก็จักห้าม ห้ามไม่ได้ก็ต้องนิ่ง พราหมณ์มอบพราหมณีแก่นกแขกเต้าทั้งคู่แล้วก็ไปค้าขาย ตั้งแต่วันที่เขาไป พราหมณีก็เริ่มนอกใจ คนที่เข้าไปและคนที่ออกมา หาประมาณมิได้ นกราธะเห็นกิริยาของนางก็กล่าวกะพระโพธิสัตว์ว่า พี่จ๋า คุณพ่อของเราสั่งไว้ก่อนไปว่า ถ้าคุณแม่ของเจ้าทั้งสองประพฤติอนาจารละก็ เจ้าคอยห้ามนะ บัดนี้เล่า แกกำลังประพฤติอนาจาร เราช่วยกันห้ามแกเถิด พระโพธิสัตว์กล่าวว่า พ่อเอ๋ย เจ้าพูดด้วยความโง่แท้ๆ เพราะเจ้ามันไม่ฉลาดเฉลียว แม้บุคคลจะคอยอุ้มผู้ที่ชื่อว่ามาตุคามไว้พาไปก็ยังไม่อาจป้องกันได้เลย ไม่ควรที่เราจะพากันกระทำกรรมที่ตนไม่สามารถจะกระทำได้ แล้วกล่าวคาถานี้ว่า
มีอรรถาธิบายว่า ด้วยพยัญชนะเหล่านี้ พระโพธิสัตว์ประกาศเนื้อความว่า พ่อราธะเอ๋ย เจ้าไม่รู้แจ้ง ในครึ่งคืนข้างหน้า คือในยามแรกเท่านั้น คนที่ยังไม่มามีถึงเท่านี้ บัดนี้ใครเล่าจะรู้ว่าคนอีกเท่าไรจักพากันมา เจ้าเพ้อพูดอย่างโง่ๆ พราหมณีโกสิยายนีมารดาของเราหมดรักเสียแล้ว คือไม่มีความรักในคุณพ่อของเราเสียเลย ถ้าแกยังจะมีเยื่อใยหรือความรักในคุณพ่อ ก็ไม่น่าจะกระทำอนาจารอย่างนี้เลย ครั้นพระโพธิสัตว์ประกาศอย่างนี้แล้ว ไม่ยอมให้ราธะพูดกับพราหมณี นางก็ประพฤติผิดได้ตามชอบใจ ตราบเท่าที่พราหมณ์ยังไม่มา พราหมณ์มาแล้วถามนกโปฏฐปาทะว่า พ่อเอ๋ย แม่ของเจ้าทั้งสองเป็นอย่างไร พระโพธิสัตว์บอกเรื่องตามจริงทั้งหมดแก่พราหมณ์ แล้วกล่าวว่า คุณพ่อครับ หญิงทุศีลอย่างนี้คุณพ่อเอาไว้ทำไม แล้วกล่าวต่อไปว่า คุณพ่อครับ นับแต่กาละที่ผมทั้งสองแจ้งโทษของคุณแม่แล้ว ก็ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้ กราบเท้าของพราหมณ์แล้วบินไปป่า พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสประกาศสัจจะ เมื่อจบสัจจะ ภิกษุผู้กระสันดำรงในโสดาปัตติผล แล้วทรงประชุมชาดกว่า พราหมณ์และพราหมณีในครั้งนั้น ได้มาเป็นคนทั้งคู่นี้แหละ ส่วนนกราธะ ได้มาเป็นอานนท์ นกโปฏฐปาทะ ได้มาเป็นเราแล |