หัวข้อ: วัดป่าเลไลย์ จ.กาญจนบุรี - จริงหรือ? ที่กล่าวอ้างอิงในตำนานนิทานขุนช้างขุนแผน เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 สิงหาคม 2563 15:31:41 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/78758591786026_1_Copy_.JPG) พระพุทธรูปปางเลไลยก์ ประดิษฐานในมณฑป โบราณสถานที่เหลือแต่เพียงโครงสร้างด้านข้าง ส่วนยอดได้พังทลายลงไม่ปรากฏให้เห็น วัดป่าเลไลย์ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี วัดป่าเลไลย์ เป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี บริเวณนี้เคยเป็นเมืองหน้าด่านสกัดกั้นการเดินทัพของพม่า ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เดิมชาวบ้านเรียกว่า "วัดผ่าอก" เนื่องจากแต่เดิมมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ภายในมณฑป แต่ได้ถูกคนร้ายลักลอบเจาะอกองค์พระจนทะลุ จึงได้ชื่อว่า วัดผ่าอก ในปี พ.ศ.๒๕๑๗ พระสงฆ์และชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ขึ้นแทน ซึ่งมีผู้กล่าวสั้นๆ แต่เพียงว่าเพื่อให้สอดคล้องเนื้อเรื่องเสภา เรื่องขุนช้างขุนแผน ผู้โพสต์ได้ลองเก็บเนื้อความว่าด้วยเรื่องขุนช้างขุนแผน และมีเหตุผลจะชี้แจงไว้ให้ปรากฏว่า ในหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า เล่าว่า เรื่องขุนช้างขุนแผนเป็นเรื่องจริงเกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในตอนที่มีการกล่าวถึงวัดป่าเลไลย์นั้น มิใช่เป็นวัดป่าเลไลย์ที่ตั้งอยู่ในกาญจนบุรี แต่เป็นวัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี พลายแก้วหรือขุนแผน บวชเป็นเณรเมื่ออายุ ๑๕ ปี ที่วัดส้มใหญ่ เมืองกาญจนบุรี จากนั้นกราบลาท่านสมภารวัดส้มใหญ่ ขอย้ายมาเล่าเรียนเพิ่มเติมที่วัดป่าเลไลยก์ (วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร) สุพรรณบุรี ในกลอนเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนที่ พลายแก้วบวชเณร อธิบายว่า
โบราณสถานที่สำคัญในวัดป่าเลไลย์ ได้แก่ มณฑป วิหาร และเจดีย์ โบราณวัตถุที่พบได้แก่ ภาชนะดินเผา เครื่องสังคโลก เครื่องถ้วยหิน ฯลฯ ภายในวัดมีโบราณสถานสำคัญประกอบด้วยประกอบด้วย มณฑปก่ออิฐถือปูน ฐานรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสประกอบด้วยชุดบัวคว่ำ มีซุ้มพระยืนทางด้านทิศเหนือทิศใต้ และทิศตะวันตก ประตูเข้าอยู่ทางทิศตะวันออก ภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น ปางป่าเลไลยก์ขนาดใหญ่ มีวิหารก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานหน้ากระดานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีประตูทางเข้าอยู่ทางด้านทิศตะวันออกสองประตู ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้มีบันไดขึ้นสู่วิหาร มีเจดีย์นอกกำแพงแก้วเป็นเจดีย์ทรงกลมก่ออิฐถือปูน ตั้งอยู่บนฐานรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ส่วยยอดหักพัง ทางด้านทิศใต้ของเจดีย์มีฐานโบราณสถานรูปแปดเหลี่ยม กำแพงแก้วก่อด้วยอิฐหนาประมาณ ๑ เมตร มีประตูทางเข้าทางด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือ บริเวณด้านทิศใต้ของกำแพงแก้วมีฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปัจจุบัน วัดป่าเลไลยก์ถูกเรียกรวมอยู่ในโบราณสถานเขตเมืองกาญจนบุรีเก่า รวมกับวัดขุนแผนและวัดแม่หม้าย จากถนนแสงชูโต วิ่งตรงผ่านแยกแก่งเสี้ยน เข้าทางหลวงหมายเลข ๓๑๙๙ วิ่งตรงผ่านแยกลาดหญ้าไปประมาณ ๓ กม. จะพบวัดอยู่ทางซ้ายมือ ก่อนถึงเขาชนไก่ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/98939705805646_3_Copy_.JPG) [/center]พุทธลักษณะงดงามมาก...พระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสานกันที่หน้าพระเพลา พระเนตรทอดยาวลงต่ำ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/57181047441230_2_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/52581944937507_4_Copy_.JPG) พระอุโบสถเก่า วัดป่าเลไลย์ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/79201799465550_5_Copy_.JPG) ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปในพระอิริยาบถต่างๆ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/34769384190440_6_Copy_.JPG)
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/34974696735540_7_Copy_.JPG) รูปปั้นลิงถือรวงผึ้งถวายพระพุทธเจ้า ... ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาในป่าโดยลำพังพระองค์ ไม่มีพุทธอุปัฏฐาก ลิงตัวหนึ่งเห็นช้างปรนนิบัติถวายพระพุทธเจ้า ก็นำรวงผึ้งไปถวายบ้าง (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/88276581093668_8_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/28035349440243_9_Copy_.JPG) โบราณสถานสำคัญของวัดป่าเลไลย์ คงไว้ซึ่งร่องรอยเดิม และได้รับการดูแลบำรุงรักษาเป็นอย่างดี (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/93314677973588_10_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/77188870476351_11_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/35421623703506_12_Copy_.JPG) |