หัวข้อ: พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ งดงามหนึ่งเดียวในไทย และยิ่งใหญ่ในโลก เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 07 กันยายน 2563 11:37:52 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/87009843811392_1_Copy_.JPG) พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ปางโปรดพระพุทธมารดา แกะสลักกับหน้าผาของภูเขา มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน โดย พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินันโท) เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นผู้ริเริ่ม และเริ่มสร้างเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง) ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” หรือ หลวงพ่ออู่ทองคือ ชื่อของพระพุทธรูปแกะสลักกับหน้าผาของภูเขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน อยู่ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พระพุทธรูปองค์นี้ เป็นปางโปรดพระพุทธมารดา หรือ ปางกตัญญูกตเวที ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง ๒๕ เมตร สูง ๓๕ เมตร เฉพาะพระเกศมาลา (บัวตูม) มีน้ำหนัก ๘ ตัน แกะสลักอยู่กับหน้าผาของภูเขาใกล้กับวัดเขาทำเทียม ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี บริเวณก่อสร้างพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ กรมศิลปากรยืนยันว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งมีหลักฐานทางโบราณคดีข้อพิสูจน์ได้ว่า พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย ได้ส่งพระธรรมทูตออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา ๙ สาย สายที่ ๘ ส่งทรงพระโสณะและพระอุตตรเถระ เข้ามาดินแดนสุวรรณภูมิเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ ๓ ซึ่งปรากฏร่องรอยพระพุทธศาสนาในอู่ทอง และเมื่อกว่า ๒๐ ปีมาแล้ว สถานที่แห่งนี้เป็นเขตสัมปทานระเบิดภูเขาทำโรงโม่หินเมื่อปี ๒๕๑๔-๒๕๓๔ จากนั้นไม่มีการต่อสัญญา กลายเป็นเหมืองร้าง หน้าผาแห่งนี้มีเนื้อที่โดยรอบบริเวณหน้าผากว่า ๑๐๐ ไร่ เป็นหน้าผาที่เกิดจากการระเบิดหิน หลังหมดสัมปทานได้ถูกปล่อยไว้เป็นที่รกร้าง พระธรรมพุทธิมงคล (เจ้าคุณสอิ้ง) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี มองหาสถานที่เพื่อสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดได้มาพบเข้า จึงทำเรื่องขอใช้สถานที่จากกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อใช้ประโยชน์ทางด้านพระพุทธศาสนา หลังได้รับการอนุมัติ การดำเนินการได้เริ่มต้นขึ้นทันที ซึ่งจากการสำรวจบริเวณหน้าผาพบว่า ตรงจุดกึ่งกลางที่ยื่นออกมาและจะใช้เป็นจุดแกะสลักพระ ลักษณะเหมือนหัวมังกร ขณะที่ส่วนโค้ง ๒ ด้านที่โอบล้อมเข้ามาเหมือนปีกนก ๕ ปีเต็มกับความเพียรพยายามของ “เจ้าคุณสอิ้ง” ด้วยความร่วมมือของพุทธศาสนิกชน ส่วนราชการ คณะสงฆ์ทั้งใน จ.สุพรรณบุรี จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงคณะสงฆ์จากต่างประเทศ ส่วนผู้รับจ้างแกะสลักคิดราคาแบบร่วมทำบุญด้วย มาถึงวันนี้ “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” องค์นี้สำเร็จเสร็จสิ้นด้วยความสวยสดงดงามจนสุดบรรยาย หลังจากองค์พระที่มีความยากลำบากในการแกะสลักด้วยหินของตัวภูเขาเอง ซึ่งจะมีความคงทนถาวรไปจนชั่วฟ้าดินสลายเสร็จสิ้น สำหรับการสร้าง “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” พระแกะสลักกับภูเขาในลักษณะที่ “เจ้าคุณสอิ้ง” สร้างไว้องค์นี้ถือเป็นพระแกะสลักกับภูเขาเป็นองค์ที่ ๓ และยุคที่ ๓ ของโลก ยุคแรก เป็นพระพุทธรูปแกะสลักกับภูเขาแบบพระยืน ๓ องค์ที่ เขาบาบียัน ประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งมีขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๙ แต่ถูกระเบิดทำลายเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๔ ยุคที่สอง เป็นการแกะสลักพระกับภูเขาที่ริมแม่น้ำหมินเจียง เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน มีขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๐ ที่ใช้เวลาแกะสลักนานถึง ๙๐ ปีจึงสำเร็จ นอกจากนี้ด้านหลังองค์พระยังมีการเจาะภูเขาเป็นถ้ำ มีความกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๕๐ เมตร เพื่อใช้ประกอบศาสนกิจ เช่น การเวียนเทียนรอบพระใหญ่ในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ และการปฏิบัติธรรมของพุทธบริษัท ๔ ด้วย “อาตมาสร้างพระองค์นี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นมรดกโลกต่อไปในอนาคต ถือเป็นหนึ่งเดียวในไทย ยิ่งใหญ่ในโลก มรดกคู่ฟ้าดิน เพราะเป็นพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และยังเพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของชาวพุทธ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกด้วย” เจ้าคุณสอิ้ง กล่าว นับว่างดงามหนึ่งเดียวในไทย และยิ่งใหญ่ในโลกจริงๆ. (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/72495521356662_2_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/82439823448657_3_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/21987157770328_4_Copy_.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/83734250482585_5_Copy_.JPG) ขอขอบคุณเว็บไซต์ ไทยรัฐออนไลน์ และ .suphan.biz (ที่มาข้อมูล) |