|
หัวข้อ: in ourselves have exist three persons เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 08 พฤษภาคม 2553 20:57:20 (http://img408.imageshack.us/img408/9523/imge0007.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/23.wma .....................................ณ.ที่วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง................................... หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตร เห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นจึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไรลูกศิษย์ตอบกลับมาว่าผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ....หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วกล่าวกับลูกศิษย์ว่า เจ้ารู้ไหมในตัวเรามีคนอยู่สามคน คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ ลูกศิษย์หยุดร้องไห้นั่งนิ่งฟังหลวงตาด้วยความสนใจ คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป อาจไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็อาจเป็นสิ่งสวยงาม เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง เป็นนักมวย เป็นดารา ถ้าทำได้ถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ มาถึงไอ้ตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก แต่เราก็ยิ้มรับ แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์ จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้ อย่างเช่น คนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ ก็ต้องขับรถเผ่นหนี ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชนอีกฝั่งแล้วดันถลามาตายใต้ท้องรถสิบล้อ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ ใคร ๆ ก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกรแน่นอน สมัยที่หลวงตายังไม่ได้บวช เคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว เพราะเห็นว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา แต่เมื่อเราเห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่า อย่าทำ อย่าเลียนแบบเขา นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาต่อ เรียกว่าวิถีของคนพาล ลูกศิษย์น้อยหยุดร้องไห้ แต่ก็ยังมีคำถาม......................................... แล้วเราต้องทำตัวอย่างไร ละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ เจ้าต้องทำความเข้า ใจจิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาดกว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เอาล่ะเจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหม เข้าใจครับหลวงตาเด็กน้อยยิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้ง.......................................... หัวข้อ: Re: in ourselves have exist three persons เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 09 พฤษภาคม 2553 00:49:21 (:LOVE:) (:Y:) (:LOVE:) |