หัวข้อ: พระสาสนโสภณ (โกศล สิรินธโร) วัดสุทธจินดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 16 มกราคม 2564 18:53:32 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/97391554754641_p0160251063p2_Copy_.jpg) พระสาสนโสภณ (โกศล สิรินธโร) วัดสุทธจินดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา “พระสาสนโสภณ” (โกศล สิรินธโร) พระเถระที่ชาวโคราช และพุทธศาสนิกชนให้ความเลื่อมใสศรัทธา ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 (ธรรมยุต) มีนามเดิมว่า โกศล โพธิ์งาม เกิดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2467 ที่หมู่บ้านระเวียง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ครอบครัวประกอบอาชีพกสิกรรม บรรพชาที่วัดธรรมวงศา บ้านระเวียง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2481 โดยมีพระที อินทปัญโญ วัดบ้านซาด เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2482 หลวงธรรมการ ซึ่งเป็นผู้ที่บุกเบิกนำประชาชนมาตั้งบ้านเรือนและวัดธรรมวงศา บ้านระเวียง ได้ถึงแก่กรรม ชาวบ้านร่วมบำเพ็ญกุศล-ฌาปนกิจให้อย่างสมเกียรติ ในหมู่พระสงฆ์นั้น มีพระมหาดี ญาณาสโย มีศักดิ์เป็นหลานของหลวงธรรมการ มาจากวัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา รวมอยู่ด้วย ได้เลือกสามเณรโกศล โพธิ์งาม และสามเณรศลี สุขประสงค์ ไปอยู่ด้วยเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม วันที่ 20 ก.ค.2482 บรรพชาสังกัดคณะธรรมยุต มีพระโพธิวงศาจารย์ ขณะดำรงสมณศักดิ์เป็นพระธรรมฐิติญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ กระทั่งอายุครบ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2489 โดยมีพระโพธิวงศาจารย์ เจ้าอาวาสวัด สุทธจินดา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาดี ญาณโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระศีลธรรมวงศาจารย์ วัด สุปัฏนาราม จ.อุบลราชธานี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2485 สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ พ.ศ.2489 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค ที่สำนักเรียนวัดสุทธจินดา ต่อมาถูกส่งไปศึกษาอบรมวิชาครูและนักเรียนการปกครอง สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ภายใต้ความอุปถัมภ์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ.2493 เดินทางกลับวัดสุทธจินดา พ.ศ.2494 ได้รับคัดเลือกจากคณะสงฆ์ที่มีพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) เป็นประธาน ให้เป็นเลขานุการวัดและเป็นเลขานุการพระธรรมยุต จังหวัดนครราชสีมา-บุรีรัมย์ รับใช้กิจการคณะสงฆ์และพระศาสนา พัฒนาวัดสุทธจินดา ร่วมกับพระอริยเวทีอย่างทุ่มเท เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้ริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิ “สุทธจินดาราชสีมามูลนิธิ” นำดอกผลมาบำรุงวัดสุทธจินดา ด้านการศึกษา พ.ศ.2494 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม และเป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง พ.ศ.2546 ได้รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พุทธศาสนา) จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2500 เป็นเจ้าคณะธรรมยุตอำเภอเมือง-สีคิ้ว พ.ศ.2508 เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธรรมยุต) พ.ศ.2519 เป็นเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา พระอารามหลวง พ.ศ.2519 เป็น รองเจ้าคณะภาค 10-11 (ธรรมยุต) พ.ศ.2542 เป็นเจ้าคณะภาค 8 (ธรรมยุต) พ.ศ.2547 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 (ธรรมยุต) ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2510 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระศิริธรรมวงศาจารย์ พ.ศ.2519 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชพิศาลสุธี พ.ศ.2534 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวราลังการ พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมโสภณ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระสาสนโสภณ เป็นผู้ให้ความสำคัญในการศึกษาพระปริยัติธรรม วัดสุทธจินดา จัดการเรียนการสอน ทั้งแผนกธรรมและบาลี ด้วยความเมตตาเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโคราช จนได้รับการเรียกขานด้วยความเคารพว่า “หลวงพ่อใหญ่” ล่วงเข้าปัจฉิมวัย ความไม่เที่ยงของสังขาร อาพาธบ่อยครั้ง สุดท้ายละสังขารอย่างสงบ ด้วยโรคชรา เมื่อเวลา 11.49 น. วันที่ 9 ต.ค.2563 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สิริอายุ 96 ปี พรรษา 75 สรีรสังขารตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสุทธจินดาวรวิหาร มีหน่วยงานราชการ พ่อค้า ประชาชนและคณะศิษย์จำนวนมาก ร่วมถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แม้สังขารจะดับไป แต่ปฏิปทายังสถิตในหัวใจศิษยานุศิษย์ ตลอดไป … ที่มา นสพ.ข่าวสด |