หัวข้อ: พระเมตตาวิหารี (ปัด ธัมมธโร) วัดคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 26 มกราคม 2564 16:07:29 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/84559433700309_p19141163p2_640x480_.jpg) พระเมตตาวิหารี (ปัด ธัมมธโร) วัดคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พระเมตตาวิหารี (ปัด ธัมมธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เดิมชื่อ ปัด รัตนาคม เกิดเมื่อวันที่ 14 พ.ย.2426 ที่บ้านเตาอิฐ ต.บางงาม อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เป็นบุตรคนโต เมื่อเติบโตได้ช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าข้าวขึ้นล่องระหว่างสุพรรณบุรี อยุธยา ปทุมธานี และกรุงเทพฯ จนเมื่อบิดาถึงแก่กรรมและมีอายุครบบวชพอดี จึงอุปสมบท ณ วัดพร้าวต.โพธิ์พระยา อ.ท่าพี่เลี้ยง (ปัจจุบันคือ อ.เมือง) จ.สุพรรณบุรี ในปี พ.ศ.2447 โดยมี พระครูปลื้ม วัดพร้าว พระเกจิชื่อดังแห่งสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “ธัมมธโร” จำพรรษาที่วัดพร้าว 3 พรรษา ศึกษาร่ำเรียนกับหลวงพ่อปลื้ม พระอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อพริ้ง วัดวรจันทร์พระเกจิชื่อดังยุคเก่าของสุพรรณ ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาจำพรรษาที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยและถือธุดงค์เป็นนิจ เคยเดินธุดงค์ไปไกลถึงเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อศึกษาพระไตรปิฎกอยู่ 1 พรรษา ก่อนเดินทางกลับมา ในครั้งนั้น ท่านอาพาธจนเกือบสิ้นชีวิตถึงแม้จะหายดีแต่ทำให้เสียงของท่านแหบแห้งจนดูเหมือนเป็นคนดุ ความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยและความเชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานของท่าน แม้แต่สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น) วัดโพธิ์ ท่าเตียน ยังกล่าวชมเชยต่อพระสงฆ์ผู้อื่นอยู่เสมอ ต่อมาท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดชัยฉิมพลี ภาษีเจริญพัฒนาวัด ตลอดจนการศึกษาของลูกหลานละแวกนั้น จนเป็นที่พอใจของพระธรรมปิฎก วัดพระเชตุพนฯ ยิ่งนัก เมื่อมีการคัดเลือกผู้ครองวัดคูหาสวรรค์ จึงให้ท่านมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.2472 สำหรับ “วัดคูหาสวรรค์” เดิมชื่อ “วัดศาลาสี่หน้า” เป็นวัดเก่าแก่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ ในสมัยพระวิสุทธิสารเถร (ผ่อง) พระเกจิผู้มีชื่อเสียงโด่งดังด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานรูปหนึ่งของเมืองไทย เจ้าของ “พระเนื้อผงพิมพ์เล็บมือ” อันลือเลือง เป็นอาวาสรูปที่ 8 ปกครองดูแลสร้างความเจริญรุ่งเรืองสู่วัดและชุมชน จนเป็นที่เคารพศรัทธา ต่อมาเมื่อท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2471 ยากที่จะหาผู้มีคุณสมบัติใกล้เคียงมารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ในที่สุด สมเด็จพระวันรัต (เผื่อน) แห่งวัดพระเชตุพนฯ มอบหมายให้ พระเมตตาวิหารี (ปัด ธัมมธโร) รับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทนเนื่องด้วยท่านเป็นพระเถระที่ทรงคุณวุฒิทางวิปัสสนากัมมัฏฐานเช่นกัน ทั้งยังเคร่งครัดในพระธรรมวินัยและมีเมตตาธรรมสูง เมื่อมาปกครองวัด สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนอย่างสูง หลังจากนั้น ท่านบูรณปฏิสังขรณ์จนวัดคูหาสวรรค์เจริญรุ่งเรืองสืบมา นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมสำหรับพระภิกษุสามเณร และโรงเรียนประชาบาลเพื่อเยาวชนในท้องถิ่น รวมทั้งสาธารณประโยชน์ต่างๆ อาทิสะพานข้ามคลอง และบ่อเก็บน้ำฝน เป็นต้น พระเมตตาวิหารีเถร (ปัด ธัมมธโร) ยังเป็นพระราชาคณะฝ่ายวิปัสสนาธุระองค์สุดท้าย ที่ได้รับพระราชทาน “พัดงาสาน” (พัดยศพระราชาคณะฝ่ายวิปัสสนาธุระ (อรัญญวาสี)) เป็นพัดหน้านาง พื้นงาสาน ขอบงาคาบตับงา ด้ามงา โดยได้รับพระราชทาน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2493 ขณะท่านอายุ 68 ปี หลังจากนั้น ไม่มีการพระราชทานพัดยศงาสานให้กับพระสงฆ์องค์ใดอีก จนถึงปัจจุบัน มรณภาพในวันที่ 10 เม.ย.2507 สิริอายุ 81 ปี พรรษา 60 ข่าวสดออนไลน์ |