[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สยาม ในอดีต => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 28 มกราคม 2564 19:13:43



หัวข้อ: พระสนมมุสลิม ท่านแรกและท่านเดียว ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๔
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 28 มกราคม 2564 19:13:43

(http://news.muslimthaipost.com/uploads/2018/5/7/history01.jpg)
ภาพ : เจ้าจอมตนกูสุเปีย ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
ถ่ายโดย คาร์ล บิสมาร์ก ช่างภาพชาวเยอรมัน เมื่อ พ.ศ.๒๔๐๔
ที่มาภาพ : news.muslimthaipost.com

พระสนมมุสลิม ท่านแรกและท่านเดียว
ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๔

เจ้าจอมตนกูสุเบีย, สุเปีย หรือ สะเปีย (ไม่ทราบ – ๑๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๓๗) มีนามเต็มว่า เติงกูซาฟียะฮ์ บินตีอัลมาร์ฮุมซุลตันมูฮัมเมด มูอัซซัม ชาห์ เป็นเจ้านายจากรัฐสุลต่านเรียว-ลิงกา ที่เคยรับราชการเป็นพระสนมมุสลิมท่านแรกและท่านเดียว ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เจ้าจอมตนกูสุเบียได้เข้าไปรับราชการสนองพระเดชพระคุณเป็นพระสนมในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๐๔ ถือเป็นพระสนมที่เป็นอิสลามิกชนท่านแรกและท่านเดียว ในรัชกาล

ด้วยความที่เจ้าจอมตนกูสุเบียมีพระชาติกำเนิดเป็นเจ้านายจากต่างประเทศ หากเจ้าจอมมีพระสูติการพระราชบุตร พระราชบุตรพระองค์นั้นจะถูกยกเป็นเจ้าฟ้า ตั้งแต่แรกประสูติหรือที่เรียกว่า “เจ้าฟ้าไบไรต์” เช่นเดียวกับเจ้าจอมพระองค์เจ้ากำโพชราชสุดาดวง พระสนมอีกพระองค์หนึ่งที่เป็นเจ้านายจากเมืองเขมร

แต่เจ้าจอมทั้งสองท่าน ก็มิได้ประสูติพระราชบุตรแต่อย่างใด

ดังปรากฏใน ธรรมเนียมในราชตระกูลสยาม ความว่า “…ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นักเยี่ยมซึ่งเป็นบุตรสมเด็จพระเจ้านโรดมเจ้ากรุงกัมพูชา ซึ่งโปรดฯ ให้เป็นพระองค์เจ้ากำโพชราชสุดาดวง แลตนกูสุเบีย ซึ่งเป็นน้องสาวสุลต่านมหมุดเมืองลิงงา เป็นพระสนมอยู่ทั้งสองคน ก็ได้ปรารภเป็นการดังทราบทั่วกัน ถ้าพระราชบุตรเกิดด้วยเจ้า ๒ คนนี้ ก็ต้องเป็นเจ้าฟ้าตามธรรมเนียมเหมือนกัน แต่ก็มีคนรังเกียจอยู่ในการที่จะต้องเป็นดังนั้นมาก”

หลังพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ.๒๔๑๑ ล่วงมาในปี พ.ศ.๒๔๑๙ เจ้าจอมตนกูสุเบียจึงถวายบังคมลาออกไปอาศัยกับพระยาตรังกานูอุมา ผู้เป็นลุง ก่อนจึงเสกสมรสใหม่กับเติงกูลง บินเติงกูกูดิน (Tengku Long bin Tengku Kudin หรือปรากฏในพงษาวดารเมืองตรังกานู ว่า ตนกูหลงบุตรตนกูเดน หลานพระยาตรังกานูกาโหด ในปีเดียวกันนั้น และไปใช้ชีวิตที่ตรังกานู

หลังเจ้าจอมตนกูสุเบียออกจากพระราชวังไปแล้ว แต่ยังปรากฏในบันทึกของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงบันทึกไว้ในจดหมายเหตุรายวันของพระองค์เมื่อวันที่ ๙ กันยายน พ.ศ.๒๔๓๑ ขณะโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประพาสภาคใต้ที่ทรงพบเจ้าจอมตนกูสุเบียร่วมเฝ้าแหนที่ตรังกานูด้วย ความว่า

"๓ โมงเช้า ๔๐ มินิต (๐๙.๔๐ น.) ถึงเมืองตรังกานู เสด็จลงเรือไปประทับที่บ้านพระยาตรังกานู ถึงบ้านมีผู้หญิงแต่งตัวคลุมหัวมาคอยรับอยู่มาก มีตนกูสะเปียซึ่งเคยเข้าอยู่เป็นเจ้าจอมทูลกระหม่อมปู่เป็นต้น..."

เจ้าจอมตนกูสุเบียถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๗