[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => เรื่องราว จากนอกโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊ก ที่ 12 สิงหาคม 2554 20:03:44



หัวข้อ: สั่งตาย "เจเอฟเค" ก่อนเปิดปูม "ยูเอฟโอ"
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 12 สิงหาคม 2554 20:03:44
(http://theinspirationroom.com/daily/speeches/2009/7/john-f-kennedy-speaks-at-rice-university.jpg)


ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้.


ในบรรดาผู้นำสหรัฐอเมริกา   คงไม่มีใครที่จะเจิดจ้าและอยู่ในความทรงจำของผู้คนได้มากเท่าอดีต ประธานาธิบดีคนที่ 35 “จอห์น เอฟเคนเนดี้” หรือ “เจเอฟเค”  หนุ่มหล่อเฟี้ยวที่มีรอยยิ้มมัดใจสาวๆ  แม้ว่ามรณกรรมอันน่าเศร้าของเขาจะผ่านมาเกือบครึ่งศตวรรษแล้วก็ตาม

หลัง ถูกลอบสังหารมีนักทฤษฎีสมคบคิดออกมาตั้งสมมติฐานมากมายเกี่ยวกับการตายของเจ เอฟเค รวมถึงสมมติฐานที่หลุดโลกไปถึงขนาดที่ว่า เจเอฟเคอาจจะยังไม่ตายก็ได้  แต่ต้องแกล้งตายเพื่อหนีอะไรบางอย่าง  แต่ถึงแม้จะมีทฤษฎีอะไรต่อมิอะไรออกมามากมาย คนส่วนใหญ่ก็น่าจะเชื่อว่า  เจเอฟเคเสียชีวิตแล้วแน่ๆ แต่จะตายด้วยน้ำมือใคร นั่นยังเป็นข้อกังขา
 
แจ็ค รูบี้ บุกยิง ลี ออสวาลด์.

 
แต่ที่ฮือฮาในวันนี้คือ การเปิดเผยหลักฐานใหม่ ที่บ่งชี้ว่า  อาจจะมีความเป็นไปได้ที่เจเอฟเคถูกสั่งให้ต้องตายเพราะบังอาจเข้าไปยุ่ง เกี่ยวกับยูเอฟโอ!!!
เรื่องเป็นมายังไง ไทยรัฐซันเดย์สเปเชียล โดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูนจะพาไปดูกัน

แต่ ก่อนอื่น ตามบันทึกอย่างเป็นทางการระบุว่า ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ.1963  ระหว่างที่กำลังนั่งรถเปิดประทุนมากับภรรยากลางเมืองดัลลัส  กระสุนจากปืนไรเฟิลที่ถูกเหนี่ยวไกโดยลี ออสวาลด์  อดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่เคยปฏิบัติการในสภาพโซเวียต  ก็พุ่งมาปลิดวิญญาณเจเอฟเคไปอย่างปัจจุบันทันด่วนและอีกไม่นานต่อมา  ออสวาลด์ก็ต้องหยุดหายใจตามไปติดๆเพราะโดนกระสุนอีกนัดจากแจ็ค รูบี้  เจ้าของไนต์คลับแห่งหนึ่งที่  ออกมายิงใส่มือปืนผู้สังหารเจเอฟเคให้ตายตกไปตามกัน  ก่อนที่รูบี้จะฆ่าตัวตายในช่วงติดคุกเพื่อรอดำเนินคดี  ทำให้ภาพรวมทั้งหมดของคดีนี้พร่ามัวและถูกยกให้เป็นคดีประวัติศาสตร์ที่คน ทั่วโลกสงสัยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดอาจจะเป็น “การจัดฉาก”  สังหารผู้นำอย่างเหี้ยมโหดด้วยน้ำมือ “คนใน”

มีทฤษฎีมากมายว่าใครกัน แน่ที่อยู่เบื้องหลังการตายของเจเอฟเค  ผู้ต้องสงสัยมีเยอะแยะให้เลือกกล่าวหา เช่น  คู่แข่งสำคัญในสงครามเย็นอย่างสหภาพโซเวียต  หรือจะเป็นหน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีไอเอ) ฯลฯ  แต่ไม่ว่าเบื้องหลังจะเป็นอย่างไร มันยังคงเป็นปริศนา
 
ลี ออสวาลด์ มือปืนลอบสังหารเจเอฟเค.

 
แต่เมื่อเร็วๆนี้สื่อมวลชนหลายสำนักได้เปิดเผยเอกสารลับที่ถูก ปิดตายมานานเป็นเรื่องราวที่ทำให้เหล่านักทฤษฎีสมคบคิดได้ตาลุกและถูกปลุก ให้ขึ้นมาตั้งทฤษฎีกันอีกครั้งว่า ซีไอเอนั่นแหละที่ “สั่งตาย”  ประธานาธิบดีของตัวเอง

เอกสารที่ว่านี้เป็นเอกสารจากซีไอเอ ที่จำใจ  ต้องเปิดเผยออกมาตามกฎหมายว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ เอกสารลับนี้มี 2  ฉบับ ฉบับแรกเป็นจดหมายจากจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ที่ส่งไปถึงผู้อำนวยการซีไอเอ  ซึ่งปะหัวจดหมายไว้เลยว่าลับสุดยอด แต่

ตอนนี้ก็ไม่ลับเสียแล้วส่วน ฉบับที่2ถูกส่งออกไปถึงผู้บริหารขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ  (นาซา) ลงวันที่วันเดียวกัน คือ วันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ.1963 หรือเพียง 10  วัน ก่อนจะถูกลอบสังหาร

ในจดหมายที่ส่งตรงถึงผู้อำนวยการซีไอเอนั้น  เจเอฟเคบอกว่า ต้องการข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับยูเอฟโอ พูดง่ายๆคือ  ผู้นำประเทศได้ออกคำสั่งให้หน่วยสืบราชการลับส่งมอบข้อมูลยูเอฟโอซึ่งเป็น หนึ่ง ในความลับสุดยอดของซีไอเอให้ท่านผู้นำได้ทราบ  ซึ่งคงจะทำให้ผู้บริหารซีไอเอหนวดกระดิก  เพราะว่ากันว่าเรื่องยูเอฟโอนั้นเป็นความลับที่แสนลับของซีไอเอ  ขนาดที่ว่าแม้จะเป็นประธานาธิบดีก็ยัง ยากจะให้ดูได้ แล้วเจเอฟเค “กล้าดี”  ยังไงมาขอ
 
จดหมายลับจากเจเอฟเคถึงซีไอเอ.

 
กล้าไม่กล้า จอห์น เอฟ เคนเนดี้  ประธานาธิบดีหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าห้าวหาญและมีหัวคิดทันสมัย  ก็ส่งจดหมายนั้นออกไปแล้วและย้ำอีกทีว่าหลังจากนั้นแค่ 10 วัน  ท่านประธานาธิบดีก็ลาโลก!!

ส่วนจดหมายอีกฉบับหนึ่งที่ถูกส่งไปยัง นาซานั้น  เจเอฟเคได้แสดงความต้องการที่จะร่วมมือกับสหภาพโซเวียตในการทำงานด้านอวกาศ ด้วยกัน  ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ละเอียดอ่อนเพราะในขณะนั้นสหรัฐอเมริกาและ สหภาพโซเวียต  กำลังแข่งขันชิงดีชิงเด่นในกิจการด้านอวกาศกันอย่างเข้มข้นแล้วจู่ๆจะมาบอก ว่า น่าจะร่วมมือกัน ก็อาจจะเป็นเรื่องที่เกินจะรับไหวสำหรับนาซา

มี รายงานว่า เจเอฟเคเริ่มให้ความสนใจในเรื่องยูเอฟโอไม่นานนัก  ก่อนที่จะถูกลอบสังหาร  และข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจของอดีตประธานาธิบดีนี้ก็เป็นเหมือน  “เชื้อเพลิง” อย่างดีในทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับเหตุผล ที่ทำให้เจเอฟเคต้องตาย

รายงาน ข่าวซึ่งอ้างอิง ความเห็นจากนักค้นคว้าเรื่องมนุษย์ ต่างดาวบอกว่า  เอกสารที่ถูก เปิดเผยเหล่านี้ เป็นการเพิ่มน้ำหนัก  ในการที่จะบ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ว่า จอห์น เอฟ เคนเนดี้  ถูกยิงจากคำสั่งของ “ใครบางคน” ที่ต้องการจะ “หยุด”  ความพยายามในการเปิดเผยข้อมูลความจริงเกี่ยวกับยูเอฟโอและยังอาจจะเป็นการ  “หยุด” ความ พยายามของเจเอฟเค ที่หันไปจับมือกับสหภาพโซเวียต  คู่แค้นตัวฉกาจของประเทศ (ในขณะนั้น) ด้วย
 
เจเอฟเค ช่วงขณะก่อนถูกลอบสังหาร.

 
แต่หากมองในมุมของ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ เราน่าจะบอกได้ว่า  ท่านผู้นำกำลังคิดจะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เพราะด้วยหัวคิดแบบคนรุ่นใหม่  เจเอฟเคไม่น่าจะชอบสงคราม  ไม่ว่าจะเป็นสงครามจริงๆหรือสงครามเย็นและไม่อยากจะมีปัญหากับสหภาพโซเวียต มากไปกว่าที่มีอยู่

หนึ่งในความกังวลของเจเอฟเคก็คือ  นอกจากจะมียูเอฟโอมาบินวนเวียนอยู่เหนือน่านฟ้าสหรัฐ อเมริกาแล้ว  ในเวลาเดียวกัน  ก็มียานบินอันไม่ปรากฏสัญชาติจำนวนมากไปร่อนอยู่เหนือสหภาพโซเวียต ด้วย  ทำให้เจเอฟเควิตกว่า โซเวียตอาจจะตีความผิด  คิดไปว่าบรรดายูเอฟโอเหล่านั้นเป็นยานบินของสหรัฐ  อเมริกาที่จะมารุกรานโซเวียต จึงเชื่อได้ว่า เหตุผลที่จอห์น เอฟ  เคนเนดี้ขอดูข้อมูลลับเรื่องยูเอฟโอ ก็เป็นเพราะอยาก  จะเอาไปบอกกับสหภาพโซเวียตให้ชัดๆว่าไม่ใช่ยานบินของสหรัฐ อเมริกาแน่ๆ

แต่ ความหวังดีของเจเอฟเคก็อาจจะทำให้มีผู้ที่อยู่ในมุมมืดไม่พอใจทำให้ ประธานาธิบดีหนุ่มต้องตายในเวลาอีกเพียง 10 วันต่อมา  หลังการประกาศเจตจำนงของตัวเอง

นักทฤษฎีสมคบคิดยังมีหลักฐานอื่นที่ จะมายืนยันแนวคิดนี้ด้วย นั่นคือ เอกสารที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้  มันเป็นเอกสารที่ถูกส่งจากบุคคลนิรนามที่อ้างตัวว่าทำงานในซีไอเอและส่ง เรื่องร้อนๆนี้ ไปให้ทิมโมธี คูเปอร์ นักล่ายูเอฟโอตัวฉกาจ
 
จดหมายลับของซีไอเอที่มีผู้ลักลอบนำออกมาจากการเผาทำลาย.

 
ซีไอเอนิรนามที่ส่งเอกสารมานี้ แนบจดหมายน้อยถึงคูเปอร์ด้วย  โดยบอกว่า เขาได้เห็นเอกสารจำนวนหนึ่งที่เป็นเอกสารอันมีความอ่อนไหวกับ  ความมั่นคงถูกเผาทำลายแต่เขาได้ดึงบางส่วนออกมา  จากกองไฟแล้วลักลอบส่งให้คูเปอร์ในปี ค.ศ.1999 ทำให้มันถูกเรียกขานว่า  “บันทึกที่ถูกเผา”

บันทึกที่อ้างว่ารอดมาจากกองไฟนี้มีอยู่ด้วย กัน 9  แผ่น หัวกระดาษทุกแผ่นมีตัวอักษรสีแดงเด่นชัดเขียนว่า TOP SECRET/MJ-12  หรือลับสุดยอด/ เอ็มเจ 12  และที่หน้าแรกก็เขียนไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นจดหมายที่ส่งออกมาจากผู้อำนวยการ ซีไอเอพร้อมระบุรหัสลับประจำตัวว่า เขาคือ เอ็มเจ 1

ส่วนคนที่ได้รับ บันทึกนั้นเป็น “กลุ่มคน” ที่มีรหัสไล่เรียงกันไปตั้งแต่ เอ็มเจ 2,เอ็มเจ 3  เรื่อยไปจนถึงเอ็มเจ 7 โดยเนื้อหาสำคัญในบันทึกคือประโยคที่บอกว่า  “แลนเซอร์” ได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของเราในเรื่อง “ไม่สามารถ” ให้ได้

อ่ะ แล้วแลนเซอร์เป็นใครมาเกี่ยวอะไรกับเรื่อง นี้...ไม่เกี่ยวก็ต้องเกี่ยว  เพราะแลนเซอร์เป็นรหัสลับที่ซีไอเอใช้ในการเรียกขานจอห์น เอฟ  เคนเนดี้นั่นเอง!!

ดังนั้นบันทึกที่ถูกเผาและจดหมายที่เพิ่งได้รับ  การเปิดเผยอย่างเป็นทางการจากซีไอเอก็เป็นเครื่องยืนยันซึ่งกันและกันว่า  เจเอฟเคกำลังพยายามขอข้อมูลที่ซีไอเอ “ไม่สามารถ” ให้ได้

อย่างไร ก็ตาม “บันทึกที่ถูกเผา” นั้นไม่ได้ลงวันที่ว่ามีการเขียนขึ้นเมื่อไหร่  ก็เลยไม่รู้แน่ว่าเป็น เอกสารที่เขียนขึ้นวันไหน  แต่ได้มีนักวิชาการมาตรวจสอบด้วยหลักนิติวิทยาศาสตร์ เช่น ตรวจสอบกระดาษ  หมึก ลายน้ำ ฯลฯ ทำให้คาดเดาได้ว่าเอกสารที่ถูกเผานี้ น่าจะถูกเขียนในปี  ค.ศ.1963 ก่อนที่ประธานาธิบดีเคนเนดี้จะถูกยิงตาย

ถึงตรงนี้  ต้องแทรกเรื่องอื่นเข้ามาให้ท่านผู้อ่านได้ตื่นเต้นกันอีกเล็กน้อย นั่นคือ  อย่างที่ได้บอกแล้วว่าผู้เขียนจดหมายใช้รหัสแทนตัวเองว่า เอ็มเจ 1  ซึ่งเปิดเผยตัวเองโจ่งแจ้งว่าเป็นผู้อำนวยการซีไอเอและมีพลพรรคเป็นเอ็มเจใน รหัสอื่นๆที่

ไม่รู้ว่าเป็นใครกันบ้างตามมาอีก แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือหัวเอกสารทุกฉบับประทับตราสีแดงเขียนคำว่า ลับสุดยอด/เอ็มเจ 12

แล้ว เอ็มเจ 12 เป็นใครล่ะ...ก็ต้องบอกว่าไม่ได้เป็นใคร ไม่ได้เป็นคนสำคัญคนไหน  แต่เหล่านักทฤษฎีสมคบคิดเชื่อกันมานานแล้วว่า เอ็มเจ 12  เป็นองค์กรที่ถูกตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1947 เพื่อสืบสวนเรื่องราวเกี่ยวกับ  ยูเอฟโอ  หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่ามียานบินของมนุษย์  ต่างดาวมา“หล่นปุ๊” โดยไม่ทราบสาเหตุที่รอสเวล

หากเราเหมา  รวมว่านี่คือเรื่องของโครงการเอ็มเจ 12 ตามที่ปะไว้ที่หัวบันทึกทุกแผ่น  ก็ทำให้เราฟันธงได้ว่า นี่ต้องเป็นเรื่องยูเอฟโอแน่ๆที่ “แลนเซอร์”  หรือเจเอฟเคร้องขอ และกลุ่ม เอ็มเจ 12 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  หัวหน้าใหญ่ในรหัสเอ็มเจ 1 บอกว่า หัวเด็ดตีนขาดก็ให้ไม่ได้

ในหน้า อื่นๆของบันทึกที่ถูกเผายังเขียนเรื่องสำคัญอีกหลายเรื่องที่อาจจะตีความ หมาย ยากเพราะเป็นการเขียนแบบรหัสลับที่รู้เฉพาะกลุ่ม แต่ที่น่า  สนใจเป็นพิเศษอยู่ที่หน้าสุดท้ายของบันทึกนี้ ในบรรทัดท้ายสุด  ที่มีการใช้คำว่า “ต้องเปียกแน่ๆ” และอันคำว่า “เปียก” นี้  เป็นคำที่รู้กันดีว่า มักจะถูกใช้เป็นรหัสลับเกี่ยวกับเลือด เป็น “คำฮิต”  ในหมู่สายลับที่สื่อความหมายถึง “การฆ่า” และในที่นี้มันคือการสื่อสารถึง  “การลอบสังหาร”

ตอนนี้เราไม่รู้ว่า ใครบ้างที่ใช้รหัสเอ็มเจ 2  ถึงเอ็มเจ 7  แต่เหล่านักคิดก็ปักใจเชื่อไปก่อนแล้วว่าทันทีที่พลพรรคสมาชิกของเอ็มเจ 12  ได้เห็น บันทึกนี้ ก็จะรู้ได้ทันทีว่า นี่คือ “ใบสั่งฆ่าประธานาธิบดี”  ตามทฤษฎีที่ว่า เมื่อเจเอฟเคขอข้อมูลเกี่ยวกับ ยูเอฟโอ พวกซีไอเอก็จัดการ  “กำจัด” ท่านประธานาธิบดีออกไป

อย่างไรก็ตาม คงต้องขอย้ำว่า  บันทึกที่ถูกเผานี้เป็นเอกสารที่ยังไม่ได้มีการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือ ปลอม แต่ด้วยหลักฐานใหม่ล่าสุดที่ออกมาจากซีไอเออย่างเป็นทางการทำให้เรา  “เห็นชัด” ว่า เจเอฟเคสนใจเรื่องยูเอฟโอแน่ๆและอาจจะทำให้เรา “เชื่อ” ณ  ขณะหนึ่งไปก่อนก็ได้ว่า  ความสนใจนี้เป็นถนนที่นำไปสู่กระสุนนัดปลิดชีพและคงไม่แปลกหากจะขอเชื่อแบบ นี้ไปพลางๆ ก่อนที่จะมีหลักฐานใหม่ๆออกมาในอนาคต

ดังนั้น “ฆาตกร” ของวันนี้จึงมีชื่อว่า “ความสนใจในยูเอฟโอ”.
ทีมงานนิตยสาร ต่วย'ตูน


หัวข้อ: Re: สั่งตาย "เจเอฟเค" ก่อนเปิดปูม "ยูเอฟโอ"
เริ่มหัวข้อโดย: wondermay ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2555 01:31:22
Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
เบบ
อ่านเคเนดี้ยั้ง

paweena wu พูดว่า
แล้วค่ะ
โดนปิดปาก

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
อือ

paweena wu พูดว่า
หนูว่านะ
ปธนใสหรัฐทุกคนรู้

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
แม่งหยั่งเจ๋งอ่ะ


paweena wu พูดว่า
แหง

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
ไม่งั้นระดับประธานาธิบดีตายห่าคนคุ้มกันมากมายทำไมหาตัวไม่ได้


paweena wu พูดว่า
โอบม่ารู้
แหงเลย

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
อือ
แต่อาจจะยุ่งไม่ได้
มันต้องมีอำนาจที่เหนือกว่าพี่ว่า


paweena wu พูดว่า
อื้อ
กำลังพูด
เป็นสมาคมลับ

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
แบบว่าหน่วยงานที่ไม่ขึ้นกะปธน.

paweena wu พูดว่า
ช่าย

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
เหมือนพวกอัศวินเทมพลา

paweena wu พูดว่า
ห๊ะ

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
เป็นอำนาจที่เหนือกว่า


paweena wu พูดว่า
ฮ่าๆ

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
พวก New World Order
โห้ย


paweena wu พูดว่า
คือพอบอกเป็นองกรลับ สมาคมลับ

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
ยิ่งอ่านยิ่งมันส์


paweena wu พูดว่า
แล้วมีอำนาจ

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
อือ


paweena wu พูดว่า
เป็นไปไม่ได้ที่จะไมามีเงิน

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
คือที่พี่บอก
เพราะความคิดพี่คือ


paweena wu พูดว่า
ก็ต้องมีนายทุน

Mckaforce In A Name Of GOD พูดว่า
ปธน.ถ้ามันกุมอำนาจทุกอย่าง
อยากรู้อะไรได้รู้หมด
เกิดสมัยหน้ามันไม่ได้เป็น
ละมันเาข่าวไปขาย
ใครก็ต้องเชื่อมัน
เพราะครั้งหนึ่งมันกุมประเทศ
มันก็เลยต้องโดนปิดปาก
ด้วยองค์กรที่เหนือกว่า
ฮ่า ๆ ๆ คิดแล้วมันส์เว่อร์



 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D