[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง) => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊ก ที่ 12 สิงหาคม 2554 21:20:02



หัวข้อ: ผู้พันเบิร์ดสุดประทับใจ "ศึกนันทบุเรง" ให้ประวัติศาสตร์เป็นบทเรียนที่ดีของเรา
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 12 สิงหาคม 2554 21:20:02
(http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/08/nare01.jpg)

พ.ท. วันชนะ สวัสดี “ผู้พันเบิร์ด” เผย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 4 “ศึกนันทบุเรง” มีแง่มุมน่าสนใจมากมาย เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ที่อยุธยาสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดนอย่างยิ่ง เพราะมีทั้งศึกนอก-ศึกในถาโถม ในขณะที่เรามีไพร่พลไม่ถึง 1 ใน 10 ของกองทัพนันทบุเรงที่ยกมากว่า 2 แสนคน มุ่งตีอยุธยากลับเป็นเมืองขึ้นให้ได้ดังเดิม โดยมีศึกย่อยหลายสมรภูมิ
 

“เอกราชที่สมบูรณ์ของเราได้มาจากศึกครั้งนี้แหละครับ อยากให้ทุกท่านได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพทางการรบของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในการเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีการรับศึกและใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างไปจากรูปแบบเดิม ใช้คนน้อยรบกับทัพใหญ่ ใช้การข่าวที่ดีทั้งเชิงรุกและรับ รบยื้อเวลาถึงฤดูน้ำหลากจนทัพกษัตริย์หงสาต้องยกทัพกลับไป เป็นยุทธศาสตร์ที่พระองค์ท่านทรงริเริ่มและปัจจุบันก็ยังใช้กันอยู่
 
แล้วยังมีความรุมเร้าของศึกที่เกิดขึ้นรายล้อมอยุธยา นอกเหนือจากทัพพม่าก็ยังมีละแวกที่เป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มแทงอยู่ ส่วนภายในก็มีการแยกตัวเป็นอิสระของพระยาพิชัยและพระยาสวรรคโลกที่สร้างความกดดันและอึดอัดกังวลใจต่อพระมหาธรรมราชาอีกเรื่องหนึ่ง นอกเหนือจากการประกาศอิสรภาพของพระนเรศ
 
(http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/08/nare02.jpg)

ฉากที่ผมประทับใจภาคนี้ คือฉากพระแสงดาบคาบค่าย กับฉากดวลทวนกับลักไวทำมูครับ ในพระแสงดาบคาบค่ายถ่ายทำ ยากมากครับ เพราะฉากรบที่ถ่ายตอนกลางคืนมีรายละเอียดต่างๆ มากมายในองค์ประกอบทุกด้านของการถ่ายทำ การเตรียมงาน การจัดไฟ เทคนิค มุมกล้อง ความสอดประสานกันของม้าที่วิ่งเข้ามา ธนูไฟที่ยิงออกมาจากกำแพง การพาดพะองหรือบันได ทหารพระนเรศปีนค่าย ทหารพม่าบนกำแพงค่ายใช้อาวุธทำร้ายตกบันได และอีกสารพัดเรื่อง ทั้งยังต้องซ้อมกันหนักมากในตอนที่ตกจากกำแพงค่าย โดยท่านมุ้ยต้องการให้ตกลงมาด้วยความเร็วจริง แต่ใช้อุปกรณ์ช่วย ซึ่งก็ต้องคำนวณความเร็ว พร้อมทั้งหาวิธีการที่จะทำให้เหมือนจริง จึงมีการทดลองเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ หลายแบบให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในที่สุดก็ผสมผสานใช้สลิง รอก กระสวย และใบพัดช่วยกันจนลงตัว
 
 
(http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/08/nare03.jpg)

ส่วนฉากดวลทวนกับลักไวทำมู ผมว่าเป็นความมหัศจรรย์ของการคิดครับ คือนึกไม่ถึงว่าจะมีการคิดค่ายกลคล้ายๆ กับที่เคยเห็นในหนังสามก๊ก ซึ่งท่านมุ้ยและ อ. สุเนตรเล่าว่าอยู่ในยุคไล่เลี่ยกันและได้รับการถ่ายทอดเรียนรู้นำมาใช้กันจริงๆ ตอนถ่ายทำฉากนี้รู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ
 
 
(http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/08/nare04.jpg)

ผมได้เรียนรู้ข้อคิดมากมายที่ถูกถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์ในภาคนี้ ทั้งเรื่องความสามัคคีของแต่ละคนที่รวมกันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินได้ แต่ในทางกลับกันหากคนเราทำอะไรเพื่อตัวเอง หรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็อาจส่งผลถึงความล่มสลายของชาติได้อย่างไม่คาดคิด จิตใจของผู้คนมีเรื่องรักโลภโกรธหลงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตกับปัจจุบันก็ไม่แตกต่างกันในหลายๆ แง่มุม ประวัติศาสตร์จึงเป็นบทเรียนที่ดีของเรา” ผู้พันเบิร์ดกล่าว
 
 
(http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/08/nare06.jpg)

พร้อมกันนี้ยังเล่าถึงความประทับใจในการทำงานกับ ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล – ผู้กำกับ ว่า “ท่านมุ้ยละเอียดกับงานมากครับ แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็พยายามทำให้ทุกอย่างให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุดเท่าที่มีข้อมูลให้เราค้นคว้า และท่านทุ่มเทกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่จริงๆ ครับ”
 
http://www.siamrath.co.th/ (http://www.siamrath.co.th/)

 
(http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2011/08/nare05.jpg)



http://www.youtube.com/watch?v=C4ATtBDAQcE#ws (http://www.youtube.com/watch?v=C4ATtBDAQcE#ws)