หัวข้อ: ออกจากวัดต้องบอกลา เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 กรกฎาคม 2564 16:13:47 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/29102107509970_218234430_1073288223078881_294.png) ออกจากวัดต้องบอกลา ตามวินัยสงฆ์ระบุไว้ในพระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ที่ทรงมีพุทธานุญาตให้บอกลาก่อนเข้าสู่ตระกูล ว่า “ภิกษุทั้งหลายอาพาธ และมีความต้องการเภสัช ภิกษุทั้งหลายพากันรังเกียจไม่เข้าไปสู่ตระกูล จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้บอกลาภิกษุซึ่งมีอยู่แล้วเข้าไปสู่ตระกูลได้” ดังนั้น ถ้าภิกษุรูปใดสำคัญว่ารับนิมนต์แล้ว ไม่บอกลาภิกษุซึ่งมีอยู่ ถึงความเป็นผู้เที่ยวไปในตระกูลทั้งหลาย ก่อนฉันก็ดี ทีหลังฉันก็ดี เว้นไว้แต่สมัย ต้องอาบัติปาจิตตีย์” คำว่า “เว้นไว้แต่สมัย” นี้คือ พระภิกษุรูปใดที่อยู่จำพรรษาร่วมกันในอารามใดอารามหนึ่งครบไตรมาสแล้ว จักได้อานิสงส์พรรษาข้อหนึ่งที่สำคัญคือ “เที่ยวจาริกไปโดยไม่ต้องบอกลา” อานิสงส์ข้อนี้มีผล ๑ เดือน แต่หากพระภิกษุรูปใดได้กรานกฐินแล้ว อานิสงส์ข้อนี้ก็จะเพิ่มขยายออกไป ทั้งยังปรากฏในพระวินัยปิฎก จุลวรรค ทั้งในอุปัชฌายวัตร และอาจริยวัตร ที่ว่า “ไม่บอกลาอุปัชฌายะ/ อาจารย์ ก่อน อย่าเข้าบ้าน อย่าไปป่าช้า อย่าหลีกไปสู่ทิศ...” ดังนั้น ภิกษุทั้งหลายเมื่ออยู่ในอารามใดอารามหนึ่ง หากประสงค์จะออกจากวัด ต้องบอกลาก่อนเสมอ พระธรรมวินัยข้อนี้ปรากฏมีการปฏิบัติเข้มแข็งในสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสครองวัด ดังปรากฏหนังสือปฏิญาณในการรักษาสิกขาบทดังกล่าว ดังเช่นหนังสือทูลเกล้าปฏิญาณของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เมื่อครั้งยังเป็นหม่อมราชวงศ์พระชื่น ทูลเกล้าสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เมื่อครั้งยังเป็นกรมหมื่น และเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารในสมัยนั้น ที่ว่า “วันที่ ๑๓ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๑๕ ข้าพระพุทธเจ้าหม่อมราชวงศ์พระชื่น ฃอประทานทำหนังสือปฏิญาณทูลเกล้าถวายไว้ในใต้ฝ่าพระบาททรงทราบ ตั้งแต่วันนี้เปนต้นไป ถ้าข้าพระพุทธเจ้าใม่ได้ทูลลา หรือใม่ได้รับพระอนุญาติก่อนแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าจะใม่ออกจากวัดเลย แลแม้ถึงได้ทูลลาหรือได้รับพระอนุญาติออกจากวัดไปแล้ว จะใม่แวะไปในที่อื่นนอกจากที่ซึ่งได้ทูลลา หรือได้รับพระอนุญาตินั้น เว้นไว้แต่กิจด่วนที่จำเปนเกิดขึ้น จะทูลลาใม่ทัน ด้วยติดเวลาผทม [นอน] เสียเปนต้น หรือจะกลับมาทูลลาใม่ทัน ถึงดังนั้น เมื่อกลับมาแล้ว ก็จะกราบทูลให้ทรงทราบ ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ (ลงนาม) หม่อมราชวงศ์พระชื่น (ลงนาม) พระครูปลัดจุฬานุนายก พยาน” ขอขอบคุณที่มา : เล่าเรื่อง วัดบวรฯ (เรื่อง ศรัณย์ ม.) |