[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => เกร็ดศาสนา => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 17 กรกฎาคม 2564 17:44:35



หัวข้อ: ธรรมยุติกนิกายในเมืองเขมร
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 กรกฎาคม 2564 17:44:35
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/90566322993901_121118469_1938192509654162_850.jpg)

ธรรมยุติกนิกายในเมืองเขมร

ธรรมยุติกนิกาย เป็นพระพุทธศาสนานิกายที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงก่อตั้งขึ้นเมื่อพระองค์ยังผนวชในรัชกาลที่ ๓ ต่อมาสมเด็จพระหริรักษ์รามาอิศราธิบดี (พระองค์ด้วง) ได้ขอพระราชทานธรรมยุติกนิกาย ไปเผยแผ่พระศาสนาในประเทศกัมพูชา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้พระอมาภิรักขิต (เกิด) และพระมหาปาน (ต่อมาได้เป็น สมเด็จพระสุคนธาธิบดี พระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกายในประเทศกัมพูชา) ไปเผยแผ่ธรรมยุติกนิกาย

สมเด็จพระสุคนธาธิบดี มีพระนามเดิมว่า “ปาน” ประสูติ ในวันพฤหัสบดี แรม ๑ คํ่า เดือนกัตติก ปีจอ พ.ศ.๒๓๗๐ ในหมู่บ้านแพรกพระเสด็จ จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ไม่ปรากฏนามบิดามารดา แต่บิดามารดาของท่านได้หนีไปอาศัยอยู่ในจังหวัดพระตะบอง เนื่องจาก ออกญาเดโช (แทน) ก่อการจลาจล

เมื่ออายุได้ ๑๒ ปีจึงบวชเป็นสามเณรที่วัดโพธิ์ ตำบลสังแก จังหวัดพระตะบอง ในคณะมหานิกาย แล้วได้เข้ามากรุงเทพฯ อยู่ที่วัดสระเกศ คณะมหานิกาย ต่อมาเมื่ออายุได้ ๒๑ ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ คณะมหานิกาย จำพรรษาที่วัดสระเกศได้ ๔ พรรษา เวลานั้นได้ถวายตัวเป็นศิษย์พระวชิรญาณเถระ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)ๆ โปรดให้ศึกษาพระวินัยในสำนักเจ้าคุณพระญาณรักขิต (สุด) เจ้าอธิการวัดบรมนิวาส คณะธรรมยุติกนิกาย

ต่อมาในวันแรม ๑ คํ่า เดือนอาสาธ ปีระกา เอกศก พ.ศ.๒๓๙๓ ค.ศ.๑๘๔๙  พระปานอายุได้ ๒๔ ปี จึงบวชแปลงเป็นพระธรรมยุติกนิกาย โดยมีพระวชิรญาณเถระเป็นพระอุปัชฌาย์ พระญาณรักขิต (สุด) เป็นกรรมวาจาจารย์ และพระอมราภิรักขิต (เกิด) เป็นอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า “ปัญญาสีโล” ต่อมาสอบได้ความรู้เปรียญธรรมเป็น “พระมหาปาน”

ในปี พ.ศ.๒๔๙๘  สมเด็จพระหริรักษรามา (พระองค์ด้วง) ขอพระราชทานธรรมยุติกนิกายเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาธรรมยุตินิกายในกัมพูชา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้พระมหาปานพร้อมด้วยพระอมราภิรักขิต (เกิด) และพระสงฆ์๘ รูป อุบาสก ๔ คนเดินทางไปสืบพระศาสนายังกรุงกัมพูชา

สมเด็จพระหริรักษ์รามาอิศราธิบดี ทรงนิมนต์พระมหาปานให้จำพรรษาอยู่ที่วัดศาลาคู่ (วัดอํพิลบี) กรุงอุดงค์มีชัย ประเทศกัมพูชา พระมหาปาน ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระอริยวงศ์ พระวิมลธรรม พระมหาวิมลธรรม ตามลำดับ ภายหลังเป็นสมเด็จพระสุคนธาธิบดี

สมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน) เป็นกวีและปราชญ์ในราชสำนักสมเด็จพระหริรักษรามาอิศราธิบดี กับสมเด็จพระนโรดม ผลงานนิพนธ์ของท่านหลายเรื่องตกทอดมาถึงปัจจุบัน เช่น รบากษัตริย์ (พระราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา) ที่แต่งร่วมกับออกญาสนธรโวหาร (มุก) และ ลเบิกอังกอร์วัดแบบเก่า (เลฺบีกองฺครวตฺตแบบจาส่)

สมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน) สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ.๒๔๓๗ พระชนม์ได้ ๖๘ พรรษา ตรงกับรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูหัวของไทยและสมเด็จพระนโรดม (พระองค์ราชาวดี) ของกัมพูชา



ที่มา : พระพุทธศาสนา ไทย ลาว กัมพูชา